จากประวัติศาสตร์ 68 ปีของ LPGA Tour มีนักกอล์ฟหญิงที่เป็นพี่น้องกันร่วมแข่งขันในทัวร์รวมทั้งสิ้น 8 คู่
คู่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์คือสองพี่น้องชาวสวีดิช อันนิก้า และชาร์ล็อตต้า ซอเรนสตัม ซึ่งฝ่ายพี่สาวคว้าแชมป์มาแล้วถึง 72 รายการ ขณะที่ชาร์ล็อตต้าคว้ามาได้ 1 รายการ ส่วนคู่ของพี่น้องรุ่นก่อตั้ง LPGA Tour ฝ่ายน้องสาว มาร์ลีน บาวเออร์ เฮกก์ คว้าแชมป์ได้ 26 ครั้ง ขณะที่พี่สาว อลิซ ไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลย
ด้านพี่น้องคาโปนี่ ฝ่ายพี่ ดอนน่า คว้าแชมป์ 24 รายการ ส่วนน้องสาว เจเน็ต ยังไม่เคยไปถึงตำแหน่งแชมป์ ในลำดับรองลงมาคือ ดาเนียล แอมมัคคาปาเน่ อดีตโปรชาวอเมริกันที่คว้าแชมป์ LPGA 7 รายการ กับน้องสาว ไดน่า ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก
นอกจากนี้ยังมี 2 คู่พี่น้องเชื้อสายไทย นารี และอารี ซง (วงศ์ลือเกียรติ) ลูกครึ่งไทย-เกาหลี และ "โปรฝน" รัศมี (รัสซี่) กัลยาณมิตตา กับน้องสาว "โปรหนูมา" จันทิมา กัลยาณมิตตา ซึ่งต่างเคยโลดแล่นใน LPGA Tour ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ต่างไม่เคยคว้าแชมป์ได้
ส่วนยุคปัจจุบันมีพี่น้องสองคู่ที่ร่วมแข่งขันในทัวร์พร้อมๆ กันคือ เจสซิก้า และเนลลี่ คอร์ด้า ทายาทของปีเตอร์ คอร์ด้า อดีตนักเทนนิสดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม โดยฝ่ายเจสซิก้าคนพี่คว้าแชมป์มา 5 ครั้ง ส่วนเนลลี่วัย 19 ปี เพิ่งเริ่มทัวร์เป็นปีที่ 2 และผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ HSBC Women's World Championship เมื่อต้นเดือนมีนาคม
และอีกหนึ่งคู่พี่น้องที่แฟนกีฬาชาวไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ "โปรโม-โปรเม" โมรียา และเอรียา จุฑานุกาล ซึ่งเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้กลายเป็นพี่น้องคู่ที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจากพี่น้องซอเรนสตัมที่สามารถคว้าแชมป์ LPGA Tour ได้ทั้ง 2 คน
ช่วงปี 2016-2017 โปรเมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ถึง 7 รายการ และมาปีนี้ โปรโมก็ปลดล็อกแชมป์แรกของตัวเองได้แล้วในศึก HUGEL-JTBC LA Open ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 19-22 เมษายน ท่ามกลางความยินดีของแฟนๆ จำนวนมากซึ่งต่างแสดงความคิดเห็นผ่านทางโลกโซเชียลว่า ในที่สุดก็ถือเวลาของโปรโมเสียที
โปรโมร่วมแข่งขัน LPGA Tour เต็มตัวครั้งแรกในปี 2013 คว้ารางวัล Rookie of the Year ของปีนั้นไปครอง จากนั้นผลงานแม้จะไม่ถึงแชมป์แต่ก็ผ่านการตัดตัวและทำอันดับดีๆ ได้เรื่อยๆ กระทั่งปี 2017 จึงเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนในแง่ผลงาน เมื่อโปรโมจบอันดับท็อป 20 ได้ถึง 21 รายการ ในจำนวนนี้เป็นการติดท็อปเทนได้ 11 รายการ และเริ่มจบรอบด้วยการขึ้นนำ หรือเกาะกลุ่มนำวันสุดท้ายได้บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ
เหตุผลสำคัญที่ช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้คือการเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองในการแข่งขัน พยายามตัดความกังวลต่างๆ ออกไป รู้จักผ่อนคลายและไม่กดดันตัวเอง อันเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดที่ได้จากการ่วมงานกับ "วิชั่น54" ทีมงานโค้ชจิตวิทยาวงการกอล์ฟชื่อดัง
เหนือสิ่งอื่นใดคือกำลังใจและการสนับสนุนอย่างครอบครัว ยืนยันได้จากอ้อมกอดอันอบอุ่นระหว่างพี่น้อง โดยมีคุณแม่เปิ้ล นฤมล ติวัฒนาสุข ยืนยิ้มอบอุ่นอยู่ใกล้ๆ
โปรโมเล่ายิ้มๆ ว่า วันนั้นโปรเมน่าจะร้องไห้หนักกว่าตัวเองเสียอีก เพราะเอาใจช่วยให้ตนคว้าแชมป์มาโดยตลอด ขณะที่ฝ่ายน้องสาวก็ให้สัมภาษณ์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเจือน้ำตาว่า ชัยชนะนี้ไม่ใช่แค่ของพี่สาว แต่ยังเป็นเหมือนการทำความฝันและเป้าหมายของทั้งครอบครัวให้เป็นจริงอีกด้วย
ด้านสื่อและแฟนกอล์ฟต่างก็ประทับใจในความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างครอบครัวจุฑานุกาล และอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า ตอนที่โปรเมเข้าไปสวมกอดพี่สาวบนกรีนหลุม 18 นั้น ชวนให้นึกถึงภาพตอนอันนิก้า ซอเรนสตัม เข้าไปแสดงความยินดีกับชาร์ล็อตต้า น้องสาว ตอนคว้าแชมป์ Standard Register PING เมื่อปี 2000 ยังไงยังงั้น
ที่น่าสนใจคือ "กอล์ฟ แชนเนล" สื่อกอล์ฟชื่อดัง ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า หลังจากนี้ไป โปรโมและโปรเมมีโอกาสที่จะกลายเป็นคู่พี่น้องที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ของ LPGA Tour ได้
ในแง่ของจำนวนแชมป์รวมต้องยกให้พี่น้องซอเรนสตัมก็จริง แต่กอล์ฟ แชนเนล ชี้ว่า พี่น้องจุฑานุกาลมีจุดแข็งซึ่งเหนือกว่าพี่น้องคู่อื่นๆ ตรงที่ทั้งคู่มีศักยภาพที่จะคว้าแชมป์ได้เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึง เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดเด่นในแบบของตัวเอง โดยโปรเมมีสไตล์การเล่นเร้าใจ ตีไกล มีช็อตน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ขณะที่โปรโมเน้นความแน่นอนแม่นยำ ไม่ค่อยหลุดหรือพลาดอะไรง่ายๆ
ทั้งคู่อายุยังน้อย ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จในวงการนี้อีกมากหากยังมีความมุ่งมั่นและรักษามาตรฐานของตัวเองได้เรื่อยๆ ขนาดปีที่แล้วโปรเมแกว่งๆ ไปบางช่วงยังสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 รายการ ขณะที่โปรโมก็เริ่มต้นนับ 1 แล้ว หากสามารถตั้งหลัก คว้าแชมป์กันได้ต่อไป จำนวนแชมป์ของทั้งคู่แม้รวมกันอาจจะไม่มากเท่ากับพี่น้องหลายๆ คู่ แต่ในแง่ความสมดุลและค่าเฉลี่ยผลงานระหว่างพี่น้องอาจจะเหนือกว่าทุกคู่แม้กระทั่งพี่น้องซอเรนสตัมได้
ขณะที่ LPGA ก็นำเสนอประเด็นน่าสนใจว่า เริ่มต้นฤดูกาลใหม่มาได้เกือบครึ่งทาง นอกจากพี่น้องจุฑานุกาลจะขับเคี่ยวกับบรรดาโปรมือพระกาฬอย่างเข้มข้นแล้ว ยังดวลฝีมือกันเองแบบสูสีคู่คี่ไม่น้อยเช่นกัน โดยแยกย่อยเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้
เงินรางวัล : โม 570,848 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับ 3) - เม 576,390 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับ 2) / คะแนนสะสม Race to CME Globe : โม 1,297 คะแนน (อันดับ 2) - เม 1,235 คะแนน (อันดับ 3) / ติดอันดับท็อปเทน : โม 4 รายการ - เม 7 รายการ / สถิติพัตต์เฉลี่ย โม 29.00 (อันดับ 7) - เม 28.71 (อันดับ 2) / สกอร์เฉลี่ย โม 70.077 (อันดับ 10) - เม 69.854 (อันดับ 5) / สถิติอีเกิ้ล โม 6 ครั้ง (อันดับ 2) - เม 6 ครั้ง (อันดับ 2) / สถิติเบอร์ดี้ โม 150 ครั้ง (อันดับ 3) - เม 167 ครั้ง (อันดับ 1) / อันดับโลก โม อันดับ 12 - เม อันดับ 6
LPGA บอกว่า ผ่านมา 11 รายการ การขับเคี่ยวเพื่อเป็น "จุฑานุกาล" ที่เหนือกว่านับวันยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ในแง่ความเป็นจริงแล้ว ประเด็นนี้ห่างไกลจากความคิดของสองพี่น้องมาก
เนื่องจากโปรโมกับโปรเมไม่เคยเอาผลงานในสนามมาเปรียบเทียบกันเลย ไม่ได้สนใจว่าใครจะคว้าแชมป์ก่อนหลังหรือมากกว่ากัน เพราะต่างคนต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง และต่างเป็นคู่แข่งที่ดีของกันและกันในสนาม และเป็นเพื่อนคู่คิดกับกำลังใจดีๆ ของกันและกันอยู่เสมอ
ความผูกพันและสายใยครอบครัวอันแน่นแฟ้นนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สองพี่น้องจุฑานุกาลมาถึงตรงนี้ได้ และอาจกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้โปรโมและโปรเมก้าวสู่การเป็นคู่พี่น้องที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ LPGA Tour อย่างที่สื่อคาดหวังไว้ในอนาคตก็เป็นได้
