บล.ไทยพาณิชย์มองแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันและราคาพลังงานอื่นๆเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อเนื่องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจำกัดจากความขัดแย้งในปัจจุบัน โดย SCBS คาดธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 25 Basis Points ใน 2H22 ด้านโอกาสการลงทุน ได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ กลุ่มที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูง การอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ด้านอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นถือว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดล็อกดาวน์กิจกรรมการเดินทางทั้งในและระหว่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดปี 2022 ดังนั้น วัฏจักรเศรษฐกิจจึงกำลังเปลี่ยนจากภาวะ reflation (สภาวะที่เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว เงินเฟ้อเริ่มเพิ่มขึ้น) สู่ภาวะ stagflation (สภาวะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ) สำหรับกลยุทธ์ 2Q22 คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1550-1780 อิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1660 จุด โดยมีความเสี่ยง downside จากการปรับลดประมาณการกำไรใน 2Q22 แนะนำให้โฟกัสที่หุ้นเชิงรับ แนวโน้มมาร์จิ้นสูงและมีเสถียรภาพ หุ้นเติบโตที่มีราคาสมเหตุสมผลและหุ้นคุณภาพที่มีงบดุล และ free cash flow แข็งแรง คัดหุ้นเด่น ได้แก่ AOT BDMS CRC GULF และ PTTEP

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ Chief Research Officer บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลทำให้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น  มีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตลงและทำให้เส้นทางการเติบโตทางเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้วัฏจักรเศรษฐกิจเปลี่ยนจากภาวะ reflation เข้าสู่ ภาวะ stagflation ทั้งนี้แม้ว่าโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2022 จะมีมากขึ้น แต่จะเกิดภาวะถดถอยที่ไม่รุนแรงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันไม่ได้มีความไม่สมดุลมากจนต้องแก้ไขให้เกิดความสมดุลควบคู่ไปกับการผ่อนคลาย ข้อจำกัดการเดินทางและการเปิดประเทศ เป้า SET Index ปี 2022 อิงกับปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1660 จุด เข้าซื้อที่ 1550 - 1600 จุด ขณะที่ระดับขายทำกำไรอยู่ที่สูงกว่า 1780 จุด โดยคาดว่า SET จะปรับฐานเล็กน้อยใน 2Q22 เพื่อซึมซับความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation ขณะที่ 2H22 จะมีโมเมนตั้มที่ดีขึ้นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลาย ประกอบกับฐานต่ำของปีก่อนมีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุการณ์ Sell in May โดยการย่อตัวลงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้าง position เนื่องจากเศรษฐกิจไทยดูเหมือนจะเกิดภาวะ quasi - reflation ใน 2H22

ด้านเศรษฐกิจไทยผลกระทบจากวิกฤตรัสเซียโดยตรงอาจไม่มากนัก แต่ผลกระทบโดยอ้อมผ่านราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะกระทบกับเงินเฟ้อและนโยบายการเงินมากกว่า วิกฤตพลังงานทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเป็นความเสี่ยงด้านนโยบายที่อาจส่งผลทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.63% ในขณะที่ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation ย่อมมีมากขึ้น ส่วนความเสี่ยงด้านการส่งผ่านทางการเงินมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ แต่ความเสี่ยงในการโอนย้ายและการปรับโครงสร้างพอร์ตลงทุนอาจต้องใช้เวลาในการจัดการ SCBS มองว่าหุ้นเชิงรับจะปรับตัว outperform ได้อย่างต่อเนื่อง หุ้นพลังงานต้นน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อสูง โดยยังคงชอบหุ้นคุณภาพที่มีค่า beta ต่ำเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน มองภาพรวมปี 2022 เน้นไปที่ธีมมหภาคและจุลภาคประกอบด้วย  1) หุ้นที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูง (มาร์จิ้นสูงและมีเสถียรภาพ) 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ 3) หุ้นเติบโตที่มีราคาสมเหตุสมผล และ 4) หุ้นคุณภาพ ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นเชิงรับเพื่อยึดหลักความระมัดระวังในช่วงที่มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงโดยเชื่อว่าหุ้น domestic ที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงและงบดุลแข็งแรงน่าจะได้รับความสนใจมากกว่าหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหนักกว่าหุ้น domestic นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่หุ้นที่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันและเงินเฟ้อสูง โดยหุ้นเด่นใน 2Q22 คือ AOT BDMS CRC GULF และ PTTEP

สรุปประเด็นการลงทุนของหุ้นรายตัว

• AOT : เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวดีขึ้นจากแผนเดินหน้าสู่การเปิดประเทศ ขณะที่ Valuation น่าสนใจ หลังราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดต่ำกว่าก่อนเกิด COVID-19 อยู่ 12%
• BDMS : ทนทานความผันผวนของตลาดได้ดีและมีพื้นฐานแกร่ง โดยปี 65 คาดกำไรเติบโต 21%YoY จากจำนวนผู้ป่วย ทั้งไทยและต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย
• CRC : คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ในปี 2565 จากยอดขายค้าปลีกและรายได้ค่าเช่าที่ฟื้นตัว การขยายสาขาเชิงรุก และอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและไม่มีการล็อกดาวน์

    GULF : แนวโน้มกำไรขยายตัวต่อเนื่องจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าใหม่ IPP ที่มีความเสี่ยงต่ำด้านต้นทุนพลังงาน

และการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัล

• PTTEP : ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent +5.3%DoD WTI +5.2%DoD หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันตึงตัวจากการระงับส่งออกน้ำมันของบริษัท CPC ในคาซัคสถานซึ่งเสียหายจากพายุ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

SCBS sees rising energy bills transitioning global and Thai economic cycles from reflation to stagnation over the next three to six months, predicting SET Index targeting 1660 points and a movement range of 1550 to 1780 points. Investors advised to focus on stocks with pricing power and stable margins

SCB Securities sees the conflict between Russia and Ukraine having a negative impact on macroeconomic and global economic growth, resulting in high inflation due to rising oil and other energy prices. These factors will continue to influence the US Federal Reserve's decision to signal a more aggressive and rapid rate hike. However, the conflict will have a limited impact on Thailand. SCBS anticipates the Bank of Thailand raising the benchmark rate by at least 25 basis points in 2H22. Investors should seek out opportunities in securities associated with the service sector, which enjoys significant pricing power and domestic consumption.  Economic growth-wise, the easing of lockdown restrictions on domestic and international travel will be critical to the economy's chances for a slow recovery through 2022. The economic cycle is now shifting away from reflation (a state frequently observed when an economy and consumer spending begin to recover) and toward stagflation (a state in which economic growth is less than inflation).  For the 2Q22 strategy, the SET Index is expected to move between 1550 and 1780 points, with a target of 1,660 points based on fundamentals, with downside risk due to the downgraded 2Q22 earnings forecast. SCBS advises investors to concentrate their efforts on passive stocks with high and stable margins, growth stocks with reasonable valuations, and quality stocks with strong balance sheets and free cash flow (FCF). AOT, BDMS, CRC, GULF, and PTTEP are among the top picks.

Speaking about the 2022 stock outlook, SCBS Managing Director and Chief Research Officer Sukit Udomsirikul noted that increased fuel prices have resulted in a shift toward tighter monetary policy, with growth forecasts being revised downward and the path of economic growth becoming more uncertain, resulting in the economic cycle transitioning from reflation to stagflation. Although the likelihood of a recession in 2022 is greater, it will be a mild recession, as the global economy is not currently so out of balance that it requires adjustment, along with relaxation of travel restrictions and the reopening of countries. Fundamentally, the 2022 SET Index is targeted at 1660 points. Investors should buy between 1550 and 1600 points and exit above 1780 points. The SET is expected to adjust slightly in 2Q22 to absorb the risk of stagflation, while 2H22 will benefit from the country's reopening and recovery following the COVID-19 pandemic, as well as the low base last year. There is a high probability of a Sell in May event, with a downtrend providing an excellent opportunity to build a position in light of the Thai economy's apparent quasi-reflation in 2H22.

Direct impacts of the Russian crisis on the Thai economy are unlikely to be severe. However, the indirect effect of rising oil prices on inflation and monetary policy will be more significant. The global and Thai economies are both at risk of stagflation in the next 3-6 months as a result of the energy crisis. Tighter monetary policy poses a policy risk, as it has the potential to push the economy into recession over the next 12 months. Thai economic growth is likely to be slower than previously forecast at 3.63 percent, increasing the risk of stagflation. Financial transfer risk is likely to be manageable, whereas risk associated with transfers and portfolio restructuring may take time to manage. SCBS believes that passive stocks will continue to outperform actively managed stocks, and upstream energy stocks are an excellent hedging option against rising inflation. SCBS continues to favor high-quality stocks with a low beta in order to minimize the impact of volatility.

According to the 2022 outlook, investment strategies should prioritize the following macro and micro themes: 1) Stocks with strong pricing power (high and stable margins); 2) Stocks that benefit from the country's reopening; 3) Reasonably priced growth stocks; and 4) Quality stocks. Investors are advised to place greater emphasis on passive stocks as a precautionary measure while the level of uncertainty remains high. Domestic stocks with strong pricing power and balance sheets are expected to attract more attention than those that are dependent on global economic cycles, which are more susceptible to global economic slowdowns than domestic stocks. Additionally, investors should prioritize stocks that are resilient to rising oil prices and inflation. AOT, BDMS, CRC, GULF, and PTTEP are the top performing stocks in 2Q22.

Summary of investment issues for individual stocks:

    AOT: The company represents the Thai tourism industry, and its performance is expected to improve as a result of the country's reopening plans. Additionally, the valuation is attractive, as the current share price is still 13% lower than it was prior to the COVID-19 outbreak.

    BDMS: The company has weathered market volatility on the strength of its fundamentals, with profits expected to grow 21% YoY in 2025 as the number of patients, both Thai and foreign, increases following the conclusion of the COVID-19 situation.

    CRC: Earnings are expected to grow at the fastest rate in the commercial sector in 2022, owing to recovering retail sales, rental income, proactive branch expansion, and improved profit margins as the economy recovers without lockdowns.

    GULF: The company's profit outlook will continue to improve as a result of new IPP capacity, with lower risk of energy costs and expansion into new businesses, particularly digital businesses.

    PTTEP: The company will benefit from rising oil prices, with Brent crude oil prices +5.3% DoD and WTI crude oil prices +5.2% DoD following market concerns about tight oil supply following Kazakhstan CPC's suspension of oil exports due to a storm.