สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

สพพ. ยกระดับด่านสตึงบทฯ สนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ระหว่างวันที่ 24 - 27 เมษายน 2567 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร Press Visit ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในพื้นที่โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา

นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) เปิดเผยว่า NEDA ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางการเงิน ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในภูมิภาค ซึ่งในโอกาสนี้ ได้นำสื่อมวลชนไทยมาเยี่ยมชมโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางการเงิน Financial Assistance (FA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน จากปัญหาการขนส่งสินค้าบริเวณด่านชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถึงจังหวัดบันเตียเมียนเจย มีการจราจรที่ติดขัดบริเวณด่านพรมแดน ตลอดจนมีความหนาแน่นของรถบรรทุกขนส่งสินค้า รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาซื้อสินค้าที่ตลาดโรงเกลือมีการเติบโตในจำนวนที่สูงในปี พ.ศ. 2559 NEDA จึงได้ร่วมมือและสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ในกัมพูชา หรือที่เรียกว่า จุดผ่านแดนถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยน ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตำบลปอยเปต อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

สำหรับ การก่อสร้างด่านสตึงบทฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อแยกการเดินทางเข้าออกเมือง ออกจากการขนส่งสินค้าผ่านแดน เป็นการลดความแออัดของการจราจร รองรับการขยายตัวทางการค้าและการให้บริการของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้รวดเร็วขึ้น และเป็นช่องทางสำหรับขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกัมพูชา-ไทย ที่เชื่อมต่อกับสะพานมิตรภาพบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท กับเส้นทางถนนหมายเลข 5 (AH1) โดยการขับเคลื่อนงานก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรสตึงบท มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางพื้นที่เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สามารถส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ อะไหล่รถจักรยานยนต์ รถใช้ในการเกษตร และสินค้าเกษตรของไทย และแก้ปัญหาการจราจรบริเวณด่านชายแดนคลองลึกที่คับแคบให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือที่ดีระหว่างกันยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

นายพีรเมศร์ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตจะมีการขยายโครงการจุดผ่านแดนถาวรสตึงบท-บ้านหนองเอี่ยนเฟส 2 ประกอบด้วย อุปกรณ์เอ๊กซเรย์ตรวจสินค้า การก่อสร้างสถานีรถไฟเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า และสะพานเชื่อมต่อกับหมายเลข 5 จากบ้านสตึงไปเสียบราฐ และพนมเปญด้วย ซึ่งจะเป็นถนนสายหลักอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งค้าในอนาคต  โดยในปีนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ เพื่อขออนุมัติเงินสนับสนุนเงินลงทุนในปี 2568

 นอกจากนี้ NEDA ได้ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายรัฐบาล  ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปรับปรุงถนนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมระหว่างประเทศและการสัญจรไปมาของประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงการส่งเสริมการค้าชายแดน การขนส่งสินค้า การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชา เพิ่มเติมอีก 2 เส้นทาง คือ โครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 67 (NR67) จากจุดตัดถนนหมายเลข 6 อำเภอเมืองเสียมราฐ-อันลองเวง-จวม เชื่อมกับด่านช่องสะงำ สิ้นสุดที่ตัวเมืองศรีสะเกษ ระยะทางประมาณ 252 กิโลเมตร วงเงินกู้ 983 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จปี 2568 และโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 68 (NR67) จากถนนหมายเลข 6อำเภอกลอรันห์-เมืองเสียมราฐ และจากอำเภอกลอรันห์-โอสเม็ด-ช่องจอม สิ้นสุดที่ตัวเมืองสุรินทร์ รวมระยะทางประมาณ 291 กิโลเมตร วงเงินกู้ 17.70 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จปี 2567

ด้านนายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วมีจุดผ่านแดนถาวรที่เปิดให้บริการแล้ว 2 จุด คือ จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก และบ้านเขาดิน เตรียมจะเปิดใหม่อย่างเป็นทางการอีก 1 จุด คือ จุดผ่านแดนบ้านหนองเอี่ยน ส่วนจุดผ่านแดนผ่อนปรนมี 2 จุดคือ ที่ด่านบ้านตราพระยา และที่ด่านบ้านหนองปรือ ดังนั้น ในอนาคตอำเภออรัญประเทศจะมีจุดผ่านแดนถาวร 2 จุดคือที่บ้านคลองลึก  กับที่บ้านหนองเอี่ยน และจุดผ่านแดนผ่อนปรน 1 จุดที่บ้านหนองปรือ มีมูลค่าการค้าชายแดนกว่า 1 แสนล้านบาท ประเทศไทยได้ดุลการค้าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท มีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถกระบะ รถมอเตอร์ไซด์ และรถแทรกเตอร์ และสินค้าอุปโภคบริโค ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ เศษเหล็ก และมันสำปะหลัง

ขณะที่ น.ส. เอกอร คุณาเจริญ อัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้เดินทางมาสำรวจจุดผ่านแดนแห่งใหม่ครั้งนี้ได้กล่าวเสริมว่า การก่อสร้างจุดผ่านแดนสตึงบทและอาคารศุลกากรเสร็จเรียบร้อยและเปิดให้บริการเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างไทยและกัมพูชานำไปสู่การค้าเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโครงการปรับปรุงโครงข่ายถนน 2 เส้นทางจากถนนหมายเลข 6 จังหวัดเสียบราฐเชื่อมโยงกับจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ จะเข้ามาช่วยส่งเสริมการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เติบโตตามไปด้วย

“ประเทศกัมพูชามีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเกิน 7% มาเป็นเวลากว่า 20 ปี และในปัจจุบันจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการสะดุดในช่วงการแพร่ระบาดของไวราโควิด-19 เหมือนกับทุกประเทศทั่วโลก แต่อยู่ในช่วงการฟื้นฟูและถือว่าเป็นประเทศที่ยังน่าสนใจทั้งด้านการค้าและการลงทุน ถ้าหากนักลงทุนจากไทยสนใจจะเข้ามาลงทุนสามารถมาขอส่งเสริมการลงทุนได้เช่นกัน”

++++++++++++++++++++++++++++++

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News