ฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 ประกบคู่รอบ 8 ทีม เตะแบบเหย้า เยือนเรียบร้อยแล้ว นัดแรกประเดิมวันที่ 21 มกราคม 2563 ทีมแชมป์รับ 1 ล้านบาท พร้อมทริปพิเศษ เยือนถิ่นแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เผย “โค้กคัพ” ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของวงการลูกหนังไทยตามเจตนารมณ์ของ โคคา-โคลา ที่พร้อมที่จะส่งเสริมการสร้างทัศนคติ ความรู้ และศักยภาพของนักฟุตบอลในโครงการ “โค้กคัพ” ให้สามารถก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
ที่ Lifestyle Hall A/B ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ กรุงเทพฯ คุณธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร ตัวแทน บริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัด ร่วมกับ คุณณัฐวุฒิ เรืองเวศ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ คุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯตัวแทนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเป็นประธานแถลงข่าว การจับสลากประกบคู่ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยมีผู้สนับสนุน ตัวแทนสโมสร และสื่อมวลชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก ก่อนที่การแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะเตะแบบเหย้า-เยือนจะเริ่มแข่งขันนัดแรกในวันที่ 21 มกราคม 2563
คุณธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร ตัวแทน บริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัดเปิดเผยว่า “ในนามของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ‘โค้กคัพ’ ในครั้งที่ 21 นี้ เป็นปีที่เราได้จัดกิจกรรมฟุตบอลระดับเยาวชนในประเทศไทยมาครบรอบ 40 ปีอีกด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นมิติใหม่ของ “โค้กคัพ” สู่การยกระดับให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยยังคงสานต่อความมุ่งมั่นของ “โค้ก” ในการสร้างโครงการที่สามารถส่งเสริมให้เยาวชนเล่นกีฬาและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป”
“การแข่งขันครั้งที่ 21 นี้ ได้แข่งขันผ่านมาจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งการแข่งขันก็ได้เพิ่มความเข้มข้น ด้วยการประกบคู่แข่งแบบเหย้า-เยือน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นเกมการแข่งขันที่เร้าใจ ตื่นเต้นได้รับความสนใจแฟนบอลแต่ละสโมสรแน่นอน เพราะนักเตะส่วนใหญ่ก็มีดีกรีดาวรุ่งของสโมสรทั้งนั้น ซึ่งก็ตรงกับวัตถุประสงค์ของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน “โค้กคัพ” ที่เราต้องการจัดอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อแสดงฝีเท้าออกมา เป็นการปูพื้นฐานไปสู่นักเตะอาชีพ ก้าวไปสู่นักเตะตัวแทนทีมชาติ ตัวแทนสโมสรต่างๆนั่นเอง”
"สำหรับ ‘โค้กคัพ’ ครั้งที่ 21 ‘โค้ก’ ได้จะมอบรางวัลพิเศษกับทีมแชมป์ โดยจะพาทีมชนะเลิศไปสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ รวมถึงสนับสนุนเงินรางวัลให้กับทีมชนะเลิศ และรองชนะเลิศเป็นเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยมอ บให้ทีมชนะเลิศ 1 ล้านบาท และทีมรองชนะเลิศ 5 แสนบาท”
ส่วน คุณณัฐวุฒิ เรืองเวศ ตัวแทน การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท.) กล่าวว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย มีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ‘โค้กคัพ’ อย่างเต็มที่ ด้วยเจตนารมณ์ที่ตรงกันกับกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลาฯ ในการส่งเสริมการเล่นกีฬาในกลุ่มเยาวชน และได้เล็งเห็นประโยชน์ของการแข่งขันนี้ที่จะเป็นโอกาสสำคัญในการที่เยาวชนจะพัฒนาทักษะฟุตบอล เพื่อต่อยอดไปถึงการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนด้านสนามแข่งขันทั่วประเทศ
ขณะที่ คุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ ตัวแทน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ กล่าวปิดท้ายว่า “ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมพลศึกษา โดยเฉพาะภาคเอกชนตัวหลัก คือ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย รวมทั้งผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนฟุตบอล ‘โค้กคัพ’ ด้วยดีเสมอมา ด้วยเจตนารมณ์ที่ตรงกัน คือต้องการยกระดับมาตรฐานการเล่นกีฬาฟุตบอลของเยาวชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และส่งเสริมให้ ‘โค้กคัพ’ เป็นสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของเยาวชน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เล่นกีฬาที่ชื่นชอบ และแสดงความสามารถ พร้อมกับการพัฒนาทักษะไปสู่นักฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของเยาวชนที่ชื่นชอบฟุตบอลทุกคน”
สำหรับ 8 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านรอบคัดเลือกกลุ่ม ได้เป็นตัวแทนกลุ่มแต่ละภาค ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร (สโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด)
- ภาคใต้ (สโมสร คาเด็นซ่า สตูล ยูไนเต็ด)
- ภาคตะวันตก (สโมสร อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)
- ภาคตะวันออก (สโมสร ชลบุรี เอฟซี)
- ภาคเหนือตอนล่าง (สโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิล)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (สโมสรหนองบัวพิชญ)
- ภาคเหนือตอนบน (สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี)