สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

มหาเถรสมาคม จับมือ"มจร."เปิดคอร์สวิปัสสนาพิสูจน์หลักปฏิบัติตามพระไตรปิฎกวันพ่อแห่งชาติ

มหาเถรสมาคม จับมือ"มจร"มุ่งมั่นวิปัสสนาธุระ เป็นตัวนำการเผยแผ่พระพุทธศาสนากัมมัฏฐานพองยุบ เปิดคอร์สพิสูจน์หลักปฏิบัติตามพระไตรปิฎกวันพ่อแห่งชาติ

วัดพิชยญาติการาม จัดให้มีพิธีสดัปกรณ์ ถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ โดยคณะนิสิตสาขาวิปัสสนาภาวนา ในอุปถัมภ์ทุนโครงการเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ณ อาคารสมเด็จชินวงศ์สภา เวลา ๐๙.๓๐ น.

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทำบุญถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แล้ว  สมเด็จพระพุทธชินวงศ์กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศ “โครงการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ๗ เดือน” และ “โครงการศึกษาดูงานการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา”ณ ประเทศสหภาพเมียนมาร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐  ได้กล่าวให้โอวาทเป็นขวัญกำลังใจในการเข้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน สรุปความว่า พระอรหันต์สาวกได้รวบรวมร้อยกรองหลักกัมมัฏฐานที่พระบรมศาสดาได้ประทานไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตรนั้น

มีทั้งส่วนที่เป็นสมถกัมมัฏฐานและเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยเฉพาะหมวดธาตุมนสิการ การพิจารณาธาตุ ๔ นั้น มีหลักวาโยธาตุ หมายถึงการพิจารณาธาตุลมภายในกาย ประกอบด้วยลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ เป็นต้นรวมทั้งที่พระพุทธองค์ตรัสแสดงไว้ในพระสูตรอื่น ๆ มี มหาราหุโลวาทสูตร ที่แสดงถึงการจำแนกธาตุ ๔ โดยอาการ ๔๒  ซึ่งนิสิตได้ศึกษาวิธีปฏิบัติมาแล้วโครงการนี้กำหนดให้นิสิตได้เข้าปฏิบัติในสำนักที่เป็นต้นแบบพองยุบ มีแนวคำสอนปฏิบัติที่ชัดเจนสอดคล้องกับหลักวาโยธาตุ คือ การกำหนดวาโยธาตุ ที่ปรากฏอาการพองยุบ  นับว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ทบทวนพิสูจน์ทั้งส่วนวาโยธาตุที่เคยศึกษาในห้องเรียน กับสำนักต้นแบบพองยุบ มีความถูกต้องสอดคล้องตามที่มีปรากฏในพระไตรปิฎกอย่างไรบ้าง  ขอให้ตั้งใจศึกษาปฏิบัติให้สำเร็จตามมโนปณิธานทุกรูป

พระเทพสุวรรณเมธี รองเจ้าคณะกรุงเทพ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม ในฐานะประธานกรรมการบริหารหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต  กล่าวว่า  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม ได้จัดการเรียนการสอนหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๘ และสาขาวิชาพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๖ เป็นต้นมา ในปีการศึกษา ๒๕๖๐ นี้ ได้กำหนดจัดโครงการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ๗ เดือน ระยะที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ - ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ รวมเวลา ๒ เดือน สำหรับนิสิตปริญญาโท สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา รุ่นที่ ๑๒ จำนวน ๓๒ รูป/คน ประกอบด้วย พระภิกษุ ๒๗ รูป แม่ชี ๔ ท่าน คฤหัสถ์ชาย ๑ คน และโครงการศึกษาดูงานการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ รวมเวลา ๗ วัน สำหรับนิสิตปริญญาโท สาขาวิชาพระพุทธศาสนา รุ่นที่ ๒ จำนวน ๓๓ รูป เพื่อให้นิสิตได้รับประสบการณ์ตรงด้านการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ณ สำนักปฏิบัติวิปัสสนาภาวนามหาสีสาสนยิกตาและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิถีชีวิตทางสังคม ภาษา ประเพณีและวัฒนธรรมในประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ณ ประเทศสหภาพเมียนมาร์

พระเมธีปัญญาวุโธ ตัวแทนนิสิตหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา รุ่นที่๑๒ ได้กล่าวถวายรายงานประสบการณ์การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในระยะเวลา๕เดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน  ๒๕๖๐ ต่อที่ประชุมว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานณศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลี ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาระยะเวลา๔เดือนนิสิตทุกรูป/คนมีกุศลฉันทะในกาปฏิบัติธรรมด้วยความตั้งใจโดยการเจริญสติทั้งสี่อิริยาบถใหญ่ตลอดกลางวันและกลางคืนคือมีสติกำหนดรู้ขณะเดินยืนนั่งนอนและอิริยาบถย่อยมีสติกำหนดรู้ขณะห่มผ้าฉันอาหารเป็นต้นทำให้เกิดวิปัสสนาญาณเห็นความทุกข์ปรากฏขึ้นในรูปนามอย่างชัดเจนได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี จากพระภาวนาพิศาลเมธี พระวิปัสสนาจารย์ พี่เลี้ยง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ และรู้สึกปลาบปลื้มบุญบารมีที่ได้เข้ามาศึกษาและปฏิบัติในโครงการอันเป็นดำริของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ซึ่งมวลเกล้ามีความรู้สึกอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ความดำริของเจ้าประคุณสมเด็จ ได้สนองแนวทางสอดคล้องกับธุระที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานเป็นภารธุระไว้ในพระพุทธศาสนา

ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อสมเด็จ  ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจทำให้นิสิต มีขวัญกำลังใจในการกำหนดรู้รูปนามอย่างต่อเนื่องไม่ย่อท้อโดยครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสมเด็จฯ ได้กล่าวประโยคที่ติดตรึงใจทุกคนว่า“หลวงพ่อมีความปรารถนาที่จะเดินทางมาให้กำลังใจหลายครั้งแต่มาไม่ได้เพราะสุขภาพแม้จะเดินทางมาไม่ได้แต่ในทุกๆวันหลวงพ่อจะส่งกระแสจิตเมตตาให้นิสิตทุกรูป/คนประสพความสำเร็จมีดวงตาเห็นธรรม”วาจาดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นความเมตตา และความเอาใจใส่ในธุระพระศาสนา สร้างขวัญกำลังใจแก่มวลเกล้า ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนเกิดธรรมปีติภาพที่หลวงพ่อสมเด็จฯ นั่งบนรถเข็ญ พูดด้วยน้ำเสียงอันสงบเย็นนั้น ยังติดตาตรึงใจ ทำให้มีกำลังใจในการกำหนดรู้รูปนามอันเป็นกองแห่งความทุกข์เห็นอาการเกิดดับจนวิปัสสนาญาณพัฒนาตามลำดับแห่งอินทรีย์ถึงที่สุดได้และนิสิตทุกรูป/คนก็อยากกราบเรียนพลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จว่าทุกวันของการปฏิบัติธรรมเราทุกคนก็แผ่เมตตาจิตให้กับหลวงพ่อสมเด็จ มีความสุขปราศจากทุกข์มีสุขภาพแข็งแรงหายจากโรคภัยและทุกคนก็ซาบซึ้งในความเมตตากรุณาที่ได้ให้โอกาสแก่นิสิตฯได้ปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน มวลเกล้าฯ มั่นใจอย่างยิ่งว่า โครงการในดำริของหลวงพ่อสมเด็จ นี้ จะสร้างคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาหาประมาณมิได้

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนาหลวง(อภิญญาเทสิตธรรม) บ้านนาหลวง ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานีระยะเวลา๑เดือนซึ่งได้รับความเมตตาจากพระราชสิทธาจารย์ประธานสงฆ์วัดนาหลวงพร้อมคณะสงฆ์อย่างดีเยี่ยมโดยการอบรมแบ่งออกเป็น๓ช่วงดังนี้

ช่วงที่ ๑ ภาคทฤษฏีเริ่มแรกนิสิตทุกรูป/คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบระเบียบอันงดงามของวัดนาหลวงโดยการฝึกมารยาทความพร้อมเพียงของหมู่คณะให้เป็นหนึ่งเดียวกันและทุกๆวันนิสิตทุกรูปจะเดินรับอาหารบิณฑบาตเป็นแถวตามลำดับพรรษาอย่างสวยงามแล้วฉันในบาตรอาสนะเดียวพร้อมกันช่วงบ่ายเรียนทฤษฏีกรรมฐานและฝึกแสดงธรรม  สู่มวลชนตามหัวข้อธรรมที่ท่านมอบให้

ช่วงที่ ๒ ภาคปฏิบัตินิสิตทุกรูป/คนออกธุดงค์สู่ชุมชนเป็นเวลา ๗ วันซึ่งเป็นการเดินเท้าเปล่าวันละประมาณ๓ถึง๔กิโลเมตรโดยทำการปักกลดพักในวัดที่ไปถึงช่วงแรกมีความลำบากอยู่บ้างแต่ทุกท่านมีศรัทธาเต็มเปี่ยมไม่ถอย  ไม่หนีความประทับใจคือนิสิตฯได้ใช้ความรู้และทักษะที่ได้จากการศึกษาในมหาวิทยาลัยนำมาใช้งานจริงโดยการแสดงธรรมให้กับมวลชนในจุดต่างๆในช่วงเย็นจากวันแรกที่มีชาวพุทธมาฟังธรรมเพียงประมาณ๓๕คนและเพิ่มขึ้นตามลำดับจนวันสุดท้ายมีชาวพุทธมาฟังธรรมถึงประมาณ ๒๐๐ กว่าคนซึ่งเป็นการประกาศธรรมของพุทธโฆสโดยแท้

ช่วงที่๓เข้าห้องกรรมฐาน“ปากปิดจิตหยุดท้องพอ”๑๐วันก่อนปิดโครงการอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเข้มข้นซึ่งได้รับความเมตตาจากพระเด็จพระคุณพระราชสิทธาจารย์มาสอบอารมณ์โดยการแสดงธรรมเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งเพราะท่านสามารถแก้อารมณ์อย่างถูกตรงทำให้ผู้ปฏิบัติมีความสงบเย็นวิปัสสนาญาณเพิ่มพูนตามอินทรีย์ของแต่ละท่าน

สำหรับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่เหลืออีก๒ เดือน ณ สำนักมหาสีสาสนเยกต่า ประเทศสหภาพเมียนมาร์ระยะเวลา๒เดือนเกล้าทั้งปวงขอให้คำมั่นว่าจะตั้งใจปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานด้วยกุศลฉันทะอย่างจริงจังเพื่อคุณธรรมที่ยิ่งๆขึ้นไปพร้อมทั้งปฏิบัติบูชาคุณหลวงพ่อสมเด็จ   สมดังเจตนารมณ์ที่หลวงพ่อปรารถนาจะให้มีผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบทอดคงอยู่แก่อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป

สนใจเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาวิปัสสนาภาวนา (เรียนจบคอร์ส ๓ เทอม ปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ติดต่อกัน ๗ เดือน จึงมีสิทธิ์เสนอสอบวิทยานิพนธ์) โทร.ติดต่อ รศ.ดร.เวทย์ บรรณกรกุล  ๐๘๑-๙๔๓๒๖๖๕

Political News