สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

กรุงศรีเผยกลยุทธ์ธุรกิจปี 2562 ยกระดับแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ประกาศทิศทางธุรกิจปี 2562 ด้วยกลยุทธ์หลักในการยกระดับดิจิทัลแพลตฟอร์มและเสริมศักยภาพด้านนวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า โดยกรุงศรีได้ดำเนินการพัฒนาด้าน Digital Transformation เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความร่วมมือภายในกรุงศรี กรุ๊ป และผสานพลังศักยภาพกับเครือข่ายของ MUFG ซึ่งได้รับแรงหนุนจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสงค์ภายนอกประเทศและการลงทุนภาคเอกชนในช่วงวัฏจักรขาขึ้น

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2561 เป็นอีกหนึ่งปีที่กรุงศรีประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยผลการดำเนินงานที่โดดเด่นแม้ว่าสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจยังคงมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยเงินให้สินเชื่อมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมในช่องทางดิจิทัลเช่นเดียวกับธนาคารอื่น ขณะเดียวกันกรุงศรีมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในการดำเนินงานตามกลยุทธ์ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน    ธนาคารประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัลและนวัตกรรมภายใต้กลยุทธ์ Think Digital First ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ปรับปรุงระบบบริหารงานและการดำเนินธุรกิจสู่รูปแบบที่เป็นดิจิทัล

นอกจากนี้กรุงศรียังมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมเพื่อสร้างความผูกพันที่ยั่งยืนกับลูกค้าและสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารหลักของลูกค้าในที่สุด ในด้านการเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น ธนาคารได้ยกระดับคุณภาพบริการที่ปรึกษาสำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อย เสริมศักยภาพบริการด้านดิจิทัลและนวัตกรรมสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME และได้ดำเนินการด้าน Transformation สำหรับกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ในปี 2562 กรุงศรีมุ่งมั่นในการดำเนินการด้าน Transformation เพื่อเร่งให้เกิดการดำเนินงานในรูปแบบดิจิทัลและนวัตกรรมต่างๆ ธนาคารมีแผนงานที่จะลงทุนในโครงการใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Lending) การปรับเปลี่ยนรูปแบบสาขา (Branch Transformation)เป็น Smart Branch เพิ่มอีก 12 สาขา จากปีก่อนที่มีการเปิดไป 2 สาขา ที่สยามพารากอน และไอคอนสยาม  และการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที รวมถึงการใช้ช่องทาง Multi Channel และ Omni Channel เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านดิจิทัลให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าผู้ใช้โมบายแอพพลิเคชั่น KMA เพิ่มเป็น 5 ล้านราย จากปีก่อนที่ 2.5 ล้านราย พร้อมตั้งงบทุนด้านไอทีไว้ที่ 7.5-8.5 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของธนาคารให้กับลูกค้า ส่วนโอกาสในการซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) ธนาคารยังคงมองไปยังนอกประเทศไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีเครือข่ายของ MUFG เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย

 “ในส่วนของกลยุทธ์สำหรับลูกค้าในกลุ่มต่างๆ กรุงศรีตั้งเป้าที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบริษัทข้ามชาติ (JPC/MNC) โดยอาศัยจุดแข็งจากฐานลูกค้า JPC/MNC เพื่อนำธุรกิจใหม่ๆ มาสู่ธนาคารในส่วนของลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ขณะที่ยังมุ่งมั่นในการนำเสนอบริการทางการเงินแบบครบวงจรและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียม (Fee-based business) สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ และขยายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องด้วยการมุ่งเน้นที่บริการจัดหาเงินทุนหมุนเวียนให้กับลูกค้าธุรกิจ SME สำหรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย กรุงศรีมีเป้าหมายที่จะยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า พนักงานและสังคมโดยรวม และมุ่งเน้นในการปรับปรุงคุณภาพและความรวดเร็วของบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าและรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงการยกระดับความสัมพันธ์เพื่อให้ ลูกค้ารายย่อยใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก” นายโกโตะกล่าวเพิ่มเติม

ในปี 2562 กรุงศรีคาดว่าเงินให้สินเชื่อจะเติบโตในระดับ 6-8% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่เติบโต 7.8% สำหรับการเติบโตของสินเชื่อในแต่ละกลุ่มแบ่งเป็น สินเชื่อรายย่อย เติบโต 8-10% ประกอบด้วยสินเชื่อบ้านเติบโต 7-8% สินเชี่อเช่าซื้อรถยนต์เติบโต 8-10% และสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตเติบโต 7-8% ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอี  ตั้งเป้าเติบโต 3-5% และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 6-8% และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ 3.4-3.6%  และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่ประมาณ 3-5% และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับต่ำกว่า 2.5%

Political News