สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ส่งออก HDD ปี 62 เติบโตทะลุ 250 ล้านชิ้น…ตามการฟื้นตัวของตลาดคอมพิวเตอร์โลก

ประเด็นสำคัญ

  • การส่งออก HDD ของไทยโดยรวมในปี 2562 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากการขยายตัวของการส่งออก Computer HDD โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปริมาณการส่งออก HDD โดยรวมในปี 2562 จะอยู่ที่ราว 252 – 262 ล้านชิ้น ขยายตัวในกรอบราวร้อยละ 3.6 – 7.8 จากปี 2561 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกราว 12,576 – 13,089 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวราว

ร้อยละ 0.9 – 5.0 จากปีก่อนหน้า

  • การส่งออก Computer HDD ในปี 2562 ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดคอมพิวเตอร์โลก และการรวมศูนย์ฐานการผลิตในมาเลเซียมายังไทย และอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อย่างไรก็ดี การส่งออก Computer HDD ก็ยังคงได้รับแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี SSD
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออก HDD ของไทยโดยรวมในระยะข้างหน้าน่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องและแตะจุดสูงสุดในปี 2563 ก่อนจะหดตัวต่อเนื่องราวร้อยละ 4.5 และ 6.6 ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ ตามการหดตัวของการส่งออก Computer HDD ที่ได้รับแรงกดดันจากความต้องการคอมพิวเตอร์ในตลาดโลกที่กลับมาหดตัวลง และการเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี SSD

ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา การส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ของไทยได้รับแรงกดดันหลักจากความต้องการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมใช้งานอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ความนิยมในการเก็บข้อมูลบนออนไลน์แทนการสำรองข้อมูลบน HDD ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงการที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แล็ปท๊อปเริ่มหันมาเลือกใช้โซลิดสเตทไดร์ฟ (Solid State Drive: SSD) แทน HDD ส่งผลให้ในช่วงระหว่างปี 2556-2559 ตัวเลขปริมาณการส่งออก HDD ของไทยมีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ยกว่าร้อยละ 3.7 ต่อปี (CAGR) โดยเฉพาะ HDD สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Computer HDD) ที่มีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 6.3 ต่อปี (CAGR)

อย่างไรก็ดี นับแต่ปี 2560 เป็นต้นมา การส่งออก HDD ของไทยเริ่มมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวจากอานิสงส์ของการย้ายฐานการผลิตบางส่วนของผู้ผลิต HDD รายใหญ่ของโลกจากฐานการผลิตในจีนและมาเลเซียมายังไทย เพื่อการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยอาศัยการรวมศูนย์การผลิต Computer HDD มาไว้ที่ไทย ส่งผลให้ไทยมีสัดส่วนการส่งออก Computer HDD เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 75.5 ของปริมาณความต้องการ HDD ของโลกในปี 2560 จากที่เคยมีสัดส่วนเพียงราวร้อยละ 51.0 ในปี 2558

นอกจากนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิต HDD ในไทยก็เริ่มเพิ่มสายการผลิต HDD สำหรับตลาดระดับองค์กรมากยิ่งขึ้น (Enterprise HDD) จากเดิมที่มุ่งเน้นแต่ Computer HDD เพียงอย่างเดียว เพื่อตอบสนองกระแสการลงทุนในศูนย์ข้อมูลเพื่อเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลหรือที่เรียกว่าบิ๊กดาต้า (Big Data) โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ความต้องการพื้นที่บันทึกข้อมูลขนาดใหญ่อย่าง Enterprise HDD มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ภายใต้ภาวะการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้การส่งออก HDD ของไทยในปี 2561 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยสหรัฐฯ ได้ขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรวมไปถึง HDD ตั้งแต่ช่วงต้นของไตรมาส 3 (วันที่ 6 ก.ค. 2561) แต่ไทยก็ได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสหรัฐฯ ได้หันมานำเข้า HDD จากไทยแทนจีนมากขึ้น สะท้อนจากอัตราการเติบโตของปริมาณการนำเข้า HDD ของสหรัฐฯ จากจีนในช่วงไตรมาส 3/2561 ที่หดตัวสูงถึงร้อยละ 52.1 (YoY) ในขณะที่การนำเข้า HDD จากไทยมีอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 5.4 (YoY)

                                ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2561 ปริมาณส่งออก HDD ของไทยจะอยู่ที่ราว 243 ล้านชิ้น เติบโตต่อเนื่องจากปี 2560 ราวร้อยละ 9.6 โดยคิดเป็นมูลค่าส่งออกราว 12,466 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวราวร้อยละ 12.5 จากปีก่อนหน้า

การฟื้นตัวของตลาดคอมพิวเตอร์โลกและการรวมศูนย์การผลิต HDD...หนุนส่งออก HDD ปี 62

                                สำหรับภาพรวมในปี 2562 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออก HDD ของไทยยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า โดยคิดเป็นปริมาณการส่งออกราว 252 – 262 ล้านชิ้น ขยายตัวในกรอบราวร้อยละ 3.6 – 7.8 จากปี 2561 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกราว 12,576 – 13,089 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวราวร้อยละ 0.9 – 5.0 จากปีก่อนหน้า

                                แรงหนุนหลักของการส่งออก HDD ของไทยในปี 2562 มาจากการส่งออก Computer HDD ซึ่งครองส่วนแบ่งการส่งออก HDD ของไทยสูงถึงราวร้อยละ 55 โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความต้องการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 ปีในปี 2562 จากการประกาศยกเลิกการสนับสนุนระบบปฏิบัติการวินโดว์ 7 อย่างเป็นทางการ (มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2563) ทำให้คาดว่าจะเกิดกระแสการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะกลุ่มตลาดองค์กรและธุรกิจการค้า เพื่อรองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ 10 จนถึงราวกลางปี 2563 นอกจากนี้ การประกาศปิดฐานการผลิต HDD ในมาเลเซียของผู้ผลิต HDD รายใหญ่ของโลกภายในปี 2562 แล้วย้ายฐานการผลิตมารวมอยู่ที่ไทย รวมไปถึงผลกระทบของสงครามการค้าซึ่งน่าจะผลักดันให้ผู้ผลิต HDD ในจีนหันมาผลิตและส่งออก HDD จากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะ Computer HDD ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาด Computer HDD ของไทยในตลาดโลกน่าจะพุ่งแตะร้อยละ 87.9 ในปี 2562 และแตะจุดสูงสุดที่ราวร้อยละ 90 ในปี 2563

                                อย่างไรก็ดี การส่งออก HDD ของไทยก็ยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสู่เทคโนโลยี SSD โดยเฉพาะ SSD สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Computer SSD) โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ส่วนแบ่งตลาดของ Computer SSD ในตลาดโลกในปี 2562 น่าจะพุ่งแตะร้อยละ 43 ของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ จากที่อยู่ที่ราวร้อยละ 31 ในปี 2560

                                ภายใต้ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2562 ปริมาณส่งออก Computer HDD ของไทยจะอยู่ที่ราว 139 – 144 ล้านชิ้น เติบโตราวร้อยละ 7.7 – 12.1 จากปี 2561 และแตะจุดสูงสุดในปี 2563 ที่ราว 145 ล้านชิ้น ก่อนที่จะหดตัวต่อเนื่องราวร้อยละ 8.0 และ 12.0 ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ ตามการหดตัวของความต้องการคอมพิวเตอร์ในตลาดโลกและการเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี Computer SSD ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออก Computer HDD ดังกล่าวจะส่งผลกดดันให้ปริมาณการส่งออก HDD โดยรวมของไทยพลิกกลับมาหดตัวต่อเนื่องราวร้อยละ 4.5 และ 6.6 ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับเช่นกัน

                                สำหรับการส่งออก Enterprise HDD ของไทยในปี 2562 คาดว่า ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลง สืบเนื่องจากผลของฐานที่สูงจากการลงทุนในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับเทคโนโลยี SSD ได้เริ่มเข้ามาแทนที่การจัดเก็บข้อมูลในองค์กรสำหรับส่วนที่ต้องใช้งานอยู่เสมอ เพราะต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลในขณะที่ไม่ต้องการความจุที่สูงมากนัก อย่างไรก็ดี Enterprise HDD ก็ยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่สามารถเก็บได้ปริมาณมากและราคาย่อมเยาเพื่อตอบสนองกระแสบิ๊กดาต้า ซึ่งเทคโนโลยี HDD ยังคงมีความได้เปรียบเหนือเทคโนโลยี SSD และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางผู้ผลิต HDD ได้เริ่มปรับเปลี่ยนสายการผลิต Enterprise HDD สู่เทคโนโลยีขั้นสูงยิ่งขึ้น  ซึ่งสามารถเพิ่มความจุข้อมูลและทำให้ราคาต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลลดลงกว่าร้อยละ 18 ต่อปี ส่งผลให้ Enterprise HDD ยังคงสามารถรักษาส่วนต่างราคาต่อพื้นที่จัดเก็บได้มากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ไปได้จนถึงปี 2571 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปริมาณการส่งออก Enterprise HDD ของไทยในปี 2562 น่าจะอยู่ที่ราว 33.4 – 34.1 ล้านชิ้น ขยายตัวราวร้อยละ 1.1 – 3.2 ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัวได้ร้อยละ 16.7 ในปี 2561

                                เมื่อพิจารณาถึงการส่งออก HDD ของไทยสำหรับตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics HDD)   และตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำรอง (External HDD) ซึ่งที่ผ่านมามีแนวโน้มการส่งออกเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิต HDD อย่างไรก็ดี ในระยะข้างหน้า การส่งออกดังกล่าวมีแนวโน้มชะลอลงจากอิทธิพลของการแทนที่ด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ ซึ่งสามารถเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่จำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลไว้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้การจัดเก็บและสำรองข้อมูลผ่านคลาวด์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น และอาจเข้ามาแทนที่การจัดเก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ HDD ทั้งสองดังกล่าว โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ระหว่างปี 2562 ถึง 2565 ปริมาณการส่งออกมีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ยราวร้อยละ 0.7 ต่อปี (CAGR) สำหรับกลุ่ม Consumer Electronics HDD และหดตัวเฉลี่ยราวร้อยละ 1.0 ต่อปี (CAGR) สำหรับกลุ่ม External HDD

                                ในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การส่งออก HDD ของไทยมีแนวโน้มเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านราคาที่ปรับลดลงสวนทางกับการพัฒนาเทคโนโลยี หรือแม้แต่การเข้ามาของเทคโนโลยี SSD ในตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การขยายตัวของการส่งออก HDD ของไทยจึงขึ้นอยู่กับการยกระดับเทคโนโลยีการผลิต และการลดต้นทุนต่อหน่วยเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก นอกจากนี้ การดึงดูดการลงทุนให้ไทยเป็นฐานการผลิต SSD ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จะต่อยอดอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว

Political News