สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

วอริกซ์เปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 ชูคอนเซ็ปต์ “Now or Never”ปลุกพลังศรัทธาคนไทย

บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ถือสิทธิ์การออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายนักเตะทีมชาติไทย เผยโฉมชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยประจำปี 2019 ที่มาในคอนเซ็ปต์ “Now or Never” ปลุกพลังนักเตะและแฟนบอลทีมชาติไทยเตรียมพร้อมสู้ศึกใหญ่แห่งเอเชีย สู้ศึกแรกแห่งศักราชใหม่ไปด้วยกัน โดยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในโลก นำมาออกแบบและผลิตชุดแข่งขันที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาเพื่อนักเตะทีมชาติไทย โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติไทย นำโดย เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนะบูรณ์ เกษารัตน์, สิโรจน์ ฉัตรทอง และธนาสิทธิ์ ศิริผลา รวมทั้งนักฟุตซอลทีมชาติไทย นำโดย เจษฏา ชูแก้ว, คฑาวุธ หาญคำภา และปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์ ร่วมด้วย เจ้าพ่อฮิปฮอป “เวย์-ไทเทเนี่ยม” มาร่วมสร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเพลง Now or Never เรียกพลังใจพลังเชียร์จากคนไทยทั่วประเทศ

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้ถือสิทธิ์การออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและเครื่องแต่งกายฟุตบอลทีมชาติไทย วอริกซ์มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำภารกิจสำคัญนี้ และขอเดินหน้าแสดงพลังศรัทธาในฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดตัวชุดแข่งใหม่ปี 2019 ในคอนเซ็ปต์ “Now or Never” ที่เป็นเหมือนกับการประกาศพลังศรัทธาของพวกเราคนไทยว่าเราจะไม่ยอมล้มตลอดไป แต่จะลุกขึ้นสู้ใหม่ไปด้วยกัน โดยชุดแข่งใหม่ปี 2019 จะถูกใช้ครั้งแรกโดยนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ในการแข่งขันรายการสำคัญระดับเอเชียซึ่งกำลังจะฟาดแข้งกันต้นเดือนมกราคม ปี 2019 ซึ่งวอริกซ์มุ่งมั่นขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่งพลังให้ทัพนักเตะไทย จึงได้ตัดสินใจสร้างปรากฏการณ์ชุดแข่งขันที่ดีที่สุดเพื่อนักฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเป็นครั้งแรกที่ชุดแข่งขันของทีมชาติไทยเลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับชุดแข่งขันของทีมฟุตบอลทีมชาติที่ดีที่สุดของโลก และทีมฟุตบอลระดับสโมสรชั้นนำของโลกหลายทีม รวมทั้งการเลือกใช้เฟล็กซ์ (flex) บนชุดแข่งขันก็เป็นเฟล็กซ์ที่มีมาตรฐานเดียวกับชุดแข่งขันทีมชาติระดับโลกเช่นเดียวกัน ผนวกเข้ากับดีไซน์ที่โดดเด่นมากขึ้น ทั้งรูปลักษณ์และสอดรับกับสรีระของนักฟุตบอลมากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มความรู้สึกกระชับและคล่องตัวสูงสุดขณะลงแข่งขัน โดยชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 มีชื่อชุดว่า Changsuek The First Eleven (ช้างศึก เดอะ เฟิร์ส อีเลฟเว่น) สื่อถึง 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุด ที่กำลังลงสนามไปปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อชาติ และเพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศ”

ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 จะใช้สีน้ำเงินเป็นชุดแข่งเหย้า สีแดงเป็นชุดแข่งเยือน สีขาวเป็นชุดแข่งที่ 3 ส่วนชุดผู้รักษาประตู ประกอบไปด้วย สีเขียวเข้ม, สีเขียวอ่อน, สีเทา และสีม่วง โดยวอริกซ์ยังคงมุ่งมั่นทำชุดแข่งขันที่ดีที่สุดให้กับนักเตะทีมชาติไทย ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับแฟนบอลทุกกลุ่มทุกความต้องการทั่วประเทศ จึงได้ยึดเอารูปแบบหรือโมเดลตามแบบสากลที่หลายประเทศและหลายทีมชั้นนำทั่วโลกใช้ โดยทำชุดแข่งขันออกมาเป็น 3 แบบได้แก่ ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey) และ เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey)  เพื่อตอบสนองความต้องการที่                        แตกต่างกันซึ่งปีนี้พิเศษมากขึ้นกว่าเดิมตรงที่ชุดแข่งขันทั้ง 3 แบบถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์เดียวกัน       ตอกย้ำการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งนักเตะและแฟนบอลทั่วประเทศ

ทั้งนี้ วอริกซ์ได้นำเอานวัตกรรมซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะมาใช้ในการตัดเย็บ พร้อมกับอัพเกรดประสิทธิภาพและคุณภาพของชุดแข่ง Changsuek The First Eleven ทั้ง 3 แบบให้ดียิ่งขึ้นกว่าปีก่อน โดยจุดเด่นสำคัญอยู่ที่

  1. ชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) มีจุดเด่นอยู่ที่การผลิตโดยใช้เทคโนโยลีการผลิตล่าสุดที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับชุดทีมชาติที่ดีที่สุดของโลกและทีมสโมสรชื่อดังระดับโลก และใช้เทคโนโลยี COMBATEC 7 (คอมแบทเทคเซเว่น) โดยในปีนี้ เปิดโอกาสให้แฟนบอลสามารถเป็นเจ้าของเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าที่ดีที่สุดระดับโลก ได้ในราคา 1,999 บาท
  2. ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey) มีจุดเด่นอยู่ที่ความคุ้มค่าสำหรับแฟนบอล เนื่องจากเสื้อสำหรับแฟนบอลปีนี้ มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกันมากกับชุดแข่งที่ขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) แต่จำหน่ายในราคาเพียงครึ่งเดียว โดยรูปลักษณ์ และการใช้เทคโนโลยีการผลิต ผ้าที่ถักทอมาอย่างดี และวัสดุต่างๆ ทั้งหมดคุณภาพใกล้เคียงมากกับชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ และใช้เทคโนโลยี COMBACOOL 5 (คอมแบทคูล ไฟฟ์) จำหน่ายในราคาเพียง 999 บาท
  3. เสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey) มีจุดเด่นที่ถูกออกแบบให้การมีรูปลักษณ์เหมือนกันกับชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) เพื่อตอกย้ำเรื่องการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยใช้เทคโนโลยี COMBALITE 3 (คอมแบทไลท์ ทรี) จำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ เพียง 399 บาท

ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปี 2019 สำหรับแฟนบอล (Warrix Replica Jersey) และเสื้อเชียร์ทีมชาติไทย (Warrix Cheer Jersey) จะเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของวอริกซ์ ได้แก่ ฟอร์ต วอริกซ์ ฝั่งช้างศึกออฟฟิศเชียลสโตร์ โครงการ สเตเดียม วัน ซอยจุฬาฯ 4, บูทวอริกซ์หน้า Q-Stadium ชั้น M ฝั่ง The Glass Quartier ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, ช้อปสาทร ซอย 10, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, Fanpage: @WarrixThailand, Line ID: @warrix.co.th, Website: www.warrix.co.th, Warrix Call center: โทร. 0-2117-1300, เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศผ่านระบบ 24 Shopping, Shopee, ซูเปอร์สปอร์ต, สปอร์ตมอลล์, FBT,  Big C และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ส่วนชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ (Warrix Player Jersey) เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน แต่มีจำหน่ายเฉพาะที่ “ฟอร์ต วอริกซ์” โครงการสเตเดียม วัน เท่านั้น!

การออกแบบลวดลายของชุด “ Changsuek The First Eleven ” มีแรงบันดาลใจจาก “The Time Space Lighting” หรือเส้นแสงแห่งการพุ่งทะยานผ่านกาลเวลา จากแนวคิดที่ว่า การจะทำสิ่งใดให้สำเร็จ เราจำเป็นต้องเดินทางก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งผู้คนมักจะแสวงหาแสงแห่งพลังที่จะจุดไฟแห่งความหวังและความฝัน ให้ลุกโชนขึ้นมา สร้างสรรค์พลังให้ลุกขึ้นสู้ เพื่อก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ ก่อเกิดเป็นลายเส้นแสงบนเนื้อผ้าคล้ายกับแสงไฟในสีสันที่โดดเด่นด้วยระบบพิมพ์ดิจิทัลขั้นสูง โดยใช้กระบวนการซับลิเมชั่นในการพิมพ์ไล่เฉดเพื่อสร้างลวดลายที่มีมิติเสมือนแสงไฟ ราวกับแสงแห่งห้วงอวกาศและกาลเวลาที่มุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง และนี่คือแสงแห่งการลุกขึ้นสู้เพื่อไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง

นายวิศัลย์กล่าวว่า "ชุดแข่งขัน Changsuek The First Eleven สรรค์สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงการใช้งานของนักเตะเป็นสำคัญ นอกจากจะเลือกนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลกเช่นเดียวกับสโมสรชั้นนำของโลกมาใช้ในการผลิตแล้ว วอริกซ์ยังเลือกใช้เนื้อผ้าโพลิเอสเตอร์ผสมเส้นใยสแปนเด็กซ์ ผสานกับนวัตกรรมการตัดเย็บขั้นสูงในทุกรายละเอียด เพื่อทำให้ชุดแข่งขัน Changsuek The First Eleven เป็นชุดแข่งที่ครบถ้วนไปด้วยคุณสมบัติเด่น ทั้งการระบายอากาศและถ่ายเทความร้อนดีเยี่ยม การรักษาสมดุลของอุณหภูมิร่างกาย การดูดซับความชื้น การป้องกันรังสียูวี ช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่นักเตะทุกคน เพื่อส่งเสริมให้สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างเต็มศักยภาพ มาพร้อมกับโลโก้สวยงาม น้ำหนักเบา นอกจากนี้ ยังคงเสน่ห์ความสวยงามของงานดีไซน์ที่มีสไตล์ตามแบบฉบับของวอริกซ์ ซึ่งชุดแข่งขันปี 2019 ถือว่ามีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นในเรื่องของดีไซน์ด้วย โดยออกแบบให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในแนวมินิมอลที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเท่ และความคล่องตัว สามารถสวมใส่ได้หลากหลายโอกาสไม่ว่าจะเป็นการใส่ไปออกกำลังกาย หรือใส่ไปทำกิจกรรมอื่นๆ หลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นเสื้อที่เหมาะที่จะใส่ได้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน”

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ที่มากยิ่งขึ้น และเพื่อปลุกพลังแห่งศรัทธาของเหล่านักเตะและแฟนบอลทั่วประเทศให้ฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสู้ศึกใหญ่แห่งเอเชียไปด้วยกัน วอริกซ์ได้ผนึกกำลังกับเจ้าพ่อเพลงฮิปฮอป “เวย์-ไทเทเนียม” แต่งเพลงพิเศษขึ้นสำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย ปี 2019 มีชื่อเพลงว่า “Now or Never” โดยมีศิลปินรับเชิญชื่อดังที่มีสไตล์โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง อีกทั้งยังถือเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่อย่าง “กอล์ฟ – ฟักกลิ้งฮีโร่” และ “วี วิโอเลต” มาร่วมถ่ายทอดเพลงเชียร์ “Now or Never” ซึ่งมีเนื้อเพลงที่โดนใจ ในสไตล์เพลงที่ฮึกเหิม แต่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน กับลีลาการแร็พ        ของสุดยอดศิลปิน ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง

พบกับกิจกรรมพิเศษ ร่วมพบปะ พูดคุย และถ่ายรูปกับ “มงคล ทศไกร” หรือ จ่าเย็น สำหรับแฟนบอลที่มาซื้อชุดแข่งขัน Changsuek The First Eleven ที่ “ฟอร์ต วอริกซ์” โครงการสเตเดียม วัน จุฬาฯ ซอย 6 ในวันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม นี้

พิเศษยิ่งไปกว่านั้น เมื่อซื้อสินค้าในครบ 1,000 บาท ที่ “ฟอร์ต วอริกซ์”  มีสิทธิร่วมลุ้นรางวัลพิเศษ รับ “แมทวอน” ของมงคล ทศไกร จากแมทช์ทีมชาติไทย พบ อิรัก ในปี 2017 นอกจากนี้ ลุ้นรับ “ผ้าพันคอ limited พร้อมลายเซ็นต์ จ่าเย็น จำนวน 20 ผืน” ตั้งแต่เวลา 11.00 – 14.00 น.

ร่วมแสดงพลังศรัทธาในฟุตบอลทีมชาติไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งกำลังใจให้ทัพช้างศึกไทยสู้ศึกครั้งใหม่         ไปด้วยกัน กับวอริกซ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Now or Never” จะลุกขึ้นสู้ใหม่ หรือจะล้มตลอดไป เราเลือกเอง

ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2019 โดยจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องของการขยายกลุ่มสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มสปอร์ตแฟชั่น และกลุ่มไลฟ์สไตล์แวร์ ซึ่งถือเป็นเทรนด์สำคัญของโลกที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ดยเตรียมนำเสนอ สินค้า “Street Collection” ที่มีความหลากหลายทั้งเสื้อลำลอง เสื้อออกกำลังกาย รองเท้ากีฬา สนีกเกอร์ ถุงเท้า และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งะทยอยวางจำหน่ายแก่แฟน ๆ ของแบรนด์วอริกซ์ ในช่วงกลางปี 2019 เป็นต้นไป เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์

ส่วนเป้าหมายทางธุรกิจในระยะยาว วอริกซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยแนวคิด From Local to Global ซึ่งมิใช่แค่นำเสนอสินค้าคุณภาพดี แต่ต้องนำเสนอสินค้าที่ดีสมบูรณ์แบบ โดยที่ผ่านมา วอริกซ์ได้รับการยอมรับในระดับสากลมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการได้เป็นผู้ออกแบบและผลิตชุดแข่งขันให้กับสโมสรชั้นนำในประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, มาเลเซีย, พม่า, และสปป. ลาว โดยวอริกซ์ตั้งเป้าเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ล่าสุด วอริกซ์ได้เปิดให้บริการช้อปใหม่ ในรูปแบบ “แฟลกชิปสโตร์” ชื่อสุดแกร่งว่า “ฟอร์ตวอริกซ์” ซึ่งมีทางเข้า 2 ด้าน ซึ่งแบ่งสัดส่วนกันชัดเจน โดยด้านหนึ่งเป็นร้านวอริกซ์ ซึ่งมีทุกคอลเลคชั่นของวอริกซ์ สวนอีกด้านหนึ่งเป็นช้างศึกออฟฟิศเชียลสโตร์ แหล่งรวมเครื่องแต่งกายทีมชาติไทย ทั้งอลังการและสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในโครงการสเตเดียม วัน ซอยจุฬาฯ 4 โดยออกแบบตกแต่งในรูปโฉมที่ทันสมัย มีมุมจัดแสดงสินค้าหรือ โปรดักส์ดิสเพลย์ที่ส่งเสริมการนำเสนอความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว และรายละเอียดของแต่ละคอลเลคชั่น อีกทั้งยังคงความรู้สึกปลอดโปร่งของร้าน เพื่อมอบความรู้สึกสะดวกสบายในการเลือกหาสินค้าให้กับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมฟอร์ต วอริกซ์

ปัจจุบันวอริกซ์มี 7 สาขา คือที่ ฟอร์ต วอริกซ์ โครงการสเตเดียม วัน ซอยจุฬาฯ  4, บูทวอริกซ์หน้า Q-Stadium ชั้น M ฝั่ง The Glass Quartier ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, ช้อปสาทรซอย 10, โรงเรียนกรุงเทพ คริสเตียนวิทยาลัย, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

พร้อมช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายทั้ง ออฟฟิเชียล แฟนเพจ, ไลน์ไอดี, เว็บไซต์ และพันธมิตรต่างๆ ของเรา อย่างซูเปอร์สปอร์ต, สปอร์ตมอลล์, FBT, 7-Eleven ผ่าน 24 Shopping, Shopee และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อรองรับความต้องการของคนไทยทั่วประเทศ

Political News