นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา โดยสามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 เป็น 24,857 ล้านบาท จากความสามารถของพลังตัวแทนและช่องทางพันธมิตร นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)(1) ที่สูงที่สุดในทุกมิติ ได้แก่
· ร้อยละ 24 เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่(2)(ANP)
· ร้อยละ 50 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
· ร้อยละ 57 ยอดขายสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง
· ร้อยละ 59 ยอดขายประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์)
· ร้อยละ 22 ยอดขายประกันกลุ่ม
กลยุทธ์ ABCDEF เป็นกลยุทธ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเพื่อยกระดับการดูแลและการบริการลูกค้า พร้อมกับการรักษาอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย
· A – Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันการทำงานและการให้บริการลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับการสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพ และมุ่งพัฒนาตัวแทนใหม่อย่างต่อเนื่อง
· B – Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร โดยเอไอเอมุ่งเสริมความแกร่งของช่องทางขายผ่านพันธมิตรที่มีอยู่เดิม พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
· C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเปลี่ยนบทบาทจากเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม (Payor) เป็นพาร์ตเนอร์ (Partner) ที่พร้อมดูแลลูกค้าในทุก ๆ วัน
· D – Digitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัลเพื่อตอกย้ำการเป็น Digital Insurer แห่งแรกของประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัลเพื่อเสริมการบริการให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นผ่าน All-in-one Application สำหรับลูกค้าและตัวแทน
· E – Employee Wellbeing ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยเอไอเอให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมในที่ทำงาน และเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอความคิดเห็น เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
“เอไอเอ มุ่งมั่นเดินตามพันธกิจที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจากการที่ปัจจุบันเรามองเห็นแนวโน้มที่คนจะมีอายุขัยยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ และมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 100 ปี เนื่องด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ แต่ในขณะที่อายุสุขภาพกลับไม่ยืนยาวสอดคล้องไปตามอายุขัย ฉะนั้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของหลาย ๆ คนอาจตกอยู่ในภาวะที่เงินเก็บไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาตัวเองหากเจ็บป่วย ด้วยเหตุนี้ เอไอเอจึงได้พัฒนาโซลูชันด้านสุขภาพให้สามารถดูแลคนไทยได้ครอบคลุมและคุ้มครองยาวนานขึ้นถึงอายุ 99 ปี(3) รวมทั้งได้ออกแคมเปญ Living to 100 ที่เราตั้งใจผลักดันให้คนไทยเตรียมวางแผนสุขภาพและการเงิน เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น
“เอไอเอ ยังคงเดินหน้าดูแลคนไทยในฐานะผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้แก่คนไทยทุกคน” นายนิคฮิล กล่าวทิ้งท้าย