สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

สินค้าเกษตร 6 ชนิดราคาพุ่งเกือบ 4%รับอานิสงส์ยอดสั่งซื้อในและต่างประเทศขยายตัวช่วงสิ้นปี

                ศูนย์วิจัยฯ ธ.ก.ส. คาดราคาสินค้าเกษตรเดือนพฤศจิกายน 6 ชนิดพุ่งสูงขึ้นเกือบร้อยละ 4 รับอานิสงส์ความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภควันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่และต่างชาติมีความต้องการสินค้าเกษตรของไทยปริมาณมากในช่วงสิ้นปี

                นายอภิรมย์  สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนา ธ.ก.ส. ได้คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่มีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มขึ้นจำนวน 6 ชนิด ประกอบด้วย

  1. ข้าวเปลือกหอมมะลิ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.0 - 3.0 อยู่ที่ราคา 11,725 - 11,957 บาท/ตัน เนื่องจากสต็อกข้าวหอมมะลิของภาคเอกชนเหลือน้อย ทำให้โรงสีและผู้ส่งออกมีความต้องการมาเก็บและส่งออกตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศในช่วงปลายปี เพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลต่างๆ
  2. ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.0 - 4.0 อยู่ที่ราคา 8,825 - 8,998 บาท/ตัน เนื่องจากการกำหนดราคาในการสนับสนุนสินเชื่อในโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีสูงกว่าราคาตลาด คาดว่าทำให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯมากขึ้น
  3. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่า จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.20 - 1.00 อยู่ที่ราคา 5.98 - 6.03 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวปริมาณฝนลดลง ส่งผลให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีคุณภาพดีขึ้นจากความชื้นที่ลดลง ประกอบกับมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านโมเดลไตรภาคีเชื่อมโยงรับซื้อผลผลิต และโครงการสนับสนุนสินเชื่อให้กับเกษตรกรเพื่อการรวบรวมผลผลิต จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  4. น้ำตาลทรายดิบ คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50-2.00 อยู่ที่ราคา 14.48-14.70 เซนต์/ปอนด์ (10.58-10.74 บาท/กิโลกรัม) เนื่องจากแรงซื้อน้ำตาลคืนจากตลาดของกลุ่มกองทุนและนักเก็งกำไร จากความกังวลเกี่ยวกับการ คาดการณ์ของสมาคมอุตสาหกรรมน้ำตาลแห่งบราซิล (UNICA) ที่เปิดเผยข้อมูลการผลิตในช่วงครึ่งหลังเดือนกันยายน ผลผลิตอ้อยต่ำกว่าคาดการณ์อยู่ที่ 40.31 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 5.22 ส่วนผลผลิตน้ำตาลอยู่ที่ 2.848 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 3.85 ส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลทรายในตลาดโลกลดลง
  5. มันสำปะหลัง คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.74-2.94 อยู่ที่ราคา 1.37-1.40 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการร่วมมือกันระหว่าง 3 สมาคมมันสำปะหลัง ในการกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับส่งออกมันเส้น โดยไม่ขายตัดราคากัน
  6. กุ้งขาวแวนนาไม คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.12-3.98 อยู่ที่ราคา 181.50-188.50 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวที่ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ส่งผลให้ราคาขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

                “สำหรับสินค้าการเกษตรอื่น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า 5% ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และสุกร มีแนวโน้มทรงตัวและอาจปรับลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย เนื่องจากคาดการณ์ปริมาณผลผลิตจะออกมามากกว่าความต้องการและผลกระทบจาก ภาวะตลาดต่างประเทศ” นายอภิรมย์กล่าว

Political News