สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ซิลเวอร์แอคทีฟ  เจาะลึกพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคสูงวัยสุดเก๋า Silver Age กลุ่มที่ “มีเวลา-มีฐานะ-มีความทันสมัย”

บริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ จำกัด ร่วมมือกับคณาจารย์ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ และสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ชี้กลุ่มซิลเวอร์เจน (Sliver Age 50+) ในตลาดประเทศไทยโตแบบก้าวกระโดด เป็น Blue Ocean ของคนที่ตีโจทย์แตกตอบโจทย์ทัน แนะเปิดมุมมองใหม่ “คนแก่” ไม่เท่ากับ “คนแก่” ต้องทำการตลาดอย่างตรงจุด เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด

ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ภาควิชาการตลาด จุฬาฯ และสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดกลุ่มซิลเวอร์เจน (Sliver Age 50+) จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดแบบครบวงจรของกลุ่มซิลเวอร์เจน (Sliver Age 50+) ในตลาดประเทศไทย แห่งแรก ได้มาร่วมกันทำงานวิจัยเจาะลึกถึงความต้องการ พฤติกรรม ทัศนคติ และการเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งการใช้ชีวิตของกลุ่มสูงวัยหรือซิลเวอร์เจน โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 50 -70 ปี ที่เป็นช่วงเตรียมตัวเข้าสู่เกษียณไปจนถึงผู้สูงอายุในช่วงต้น โดยได้เริ่มนำเสนอข้อมูลที่ได้มาใน Thailand Management Day ที่ผ่านมา และจะได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกให้กับนักธุรกิจและนักการตลาดทั่วไป เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน นำข้อมูลไปใช้ต่อยอดธุรกิจ  เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด 

คุณวรรณา สวัสดิกูล ประธานบริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ จำกัด เปิดเผยว่า ในตลาดประเทศไทยกลุ่มผู้บริโภคสูงวัย ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด    ประมาณการณ์ว่าในปี พ.ศ.2566 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่า13 ล้านคน หรือเท่ากับ 20% เมื่อเทียบกับจำนวนคนทั้งประเทศ และได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบสมบูรณ์ (aged society) เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันไทยติดอันดับ1ใน 3ของประเทศที่สูงวัยเติบโตเร็วที่สุดในโลก นั่นย่อมหมายถึง คนกลุ่มนี้กลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศและเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่สำคัญที่สุด เติบโตเร็วที่สุดก็ว่าได้ แบรนด์หรือองค์กรต่างๆ ต้องรีบปรับตัว หันมาให้ความสำคัญเพราะมันคือ Blue Ocean มากๆ เป็นตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่  ดังนั้นคือ โอกาสของคนที่ตีโจทย์แตกตอบโจทย์ทัน  และสิ่งสำคัญคือ การต้องตีโจทย์ใหม่  “คนแก่ ไม่เท่ากับ คนแก่”

“สิ่งที่แบรนด์หรือองค์กรกำลังเผชิญอยู่มันคือ Disruption อยากให้ทุกคนย้อนถึงคลื่นใหญ่ที่ทุกคนต้องตระหนักเหมือนตอนที่เจอกับ digital disruption ในหลายปีมาแล้ว ความแตกต่างคือ digital disruptionเป็นเรื่องทันสมัย ใครเข้ามาเร็ว แบรนด์ก็จะดูดี แต่ silver disruption ใครเข้ามาเร็ว กลับกลัวโดนมองว่าเป็นแบรนด์คนแก่ ทั้งที่อนาคต สังคมบ้านเรา คือสังคมคนแก่ ต้องเข้าใจ ยอมรับและรีบหาวิธี การทำการตลาดแบบ targeted จึงเป็นทางออกที่ดี สิ่งที่อยากบอกคือ นักการตลาดต้องมองตลาดนี้ใหม่ เป็นวัยเก๋าที่มีครบทั้งเวลา กำลังซื้อ loyaltyสูง และอายุยืนยาวขึ้น จึงทำให้ Silver-Age-Peopleเป็นที่หมายปองของบรรดาแบรนด์และนักการตลาดในการทำความรู้จักเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้แก่วัยเก๋าแซ่บ ๆ เหล่านี้ ใครเข้าตลาดก่อนก็จะได้เปรียบ” 

เมื่อสูงวัย ไม่ใช่แค่คนแก่ ในแบบฉบับที่เราเคยคิด

สังคม&ธุรกิจ ต้องปรับตัวอย่างไร?

ด้วยความที่ ซิลเวอร์แอคทีฟ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดแบบครบวงจรของกลุ่มซิลเวอร์เจน (Sliver Age 50+) ในตลาดประเทศไทย แห่งแรก  จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2020 เราเห็นถึงสัญญาณอย่างมีนัยยะสำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้มาตลอด  และได้เข้ามาศึกษากลุ่มคน Silver Age 50+  อย่างจริงจัง  ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ  CountUp (50+ active silver community) ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2 แสนคน เป็นหนึ่งในกลยุทธ์และเครื่องมือการตลาดที่ใช้ศึกษา ค้นคว้า ติดตามพฤติกรรมเชิงลึกกับกลุ่มสูงวัยกลุ่มนี้อย่าง 

ต่อเนื่องมาเป็นเวลามากกว่า 3 ปี และยังเป็นสื่อที่ช่วยให้แบรนด์ได้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อีกด้วย พบกว่าตลาดนี้ คือ real Blue Ocean อย่างแท้จริง และมีความพิเศษไม่เหมือนกับตลาดทั่วไป

เราพบว่า กลุ่มผู้สูงวัยมีหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่น่าสนใจคือ กลุ่มที่เป็นสูงวัยตอนต้น ยังมีกำลังซื้อ มีความทันสมัย หัวใจเป็นวัยรุ่นแม้ร่างกายจะเริ่มเปลี่ยนแปลง กลุ่มคนเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญและน่าจับตามองในตลาดปัจจุบันเป็นอย่างมาก ด้วยพฤติกรรมการจับจ่ายที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ให้ความสำคัญและใช้จ่ายกับเรื่องสุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง มองหาโซลูชั่นเรื่องการเงิน (passive income) เป็นอันดับรองลงมา และ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตหลังเกษียณ ชอบเที่ยวหรือหากิจกรรมทำเพื่อให้ชีวิตไม่เหงา และจากพัฒนาอันก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ส่งผลให้การใช้ชีวิตของกลุ่ม Silver Age เปลี่ยนไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ตัวเองตกยุค จึงมีการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง พบว่าสูงวัยส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือในการเข้าถึงสื่อออนไลน์ ชอบเล่นโซเชียลมากกว่าวัยรุ่นหรือวัยทำงาน เพราะมีเวลาว่าง และปัจจุบันใช้ Facebook มากกว่า ทีวี ยิ่งไปกว่านั้นเราพบว่าช่วงอายุและเพศที่ต่างกัน มีพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ที่ต่างกัน

ด้านพฤติกรรมด้านการช้อปปิ้งของกลุ่มนี้ ก็เป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน  พบว่า กลุ่มนี้ 85%   ยังชอบไปซื้อที่ร้าน แต่มีถึง 61%ที่ช้อปออนไลน์ และอีก 22%นิยมซื้อจากร้านขายยาโดยเฉพาะสินค้าสุขภาพ โดยการตัดสินใจซื้อจะให้ความสำคัญกับคุณภาพและบริการมากกว่าเรื่องราคาหรือโปรโมชั่น และเลือกช้อปกับแบรนด์หรือร้านค้าที่รู้จักและไว้ใจ มีความจงรักภักดีกับแบรนด์สูงไม่ชอบเปลี่ยนชอบลองเหมือนกลุ่มนักช้อปวัยรุ่น สินค้าที่ช้อปและใช้เงินมากสุด เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับ สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, อาหารเสริม, อุปกรณ์ออกกำลังกาย, ประกันสุขภาพและอื่นๆ

กลุ่มสูงวัยหรือ Silver Age  เป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีsegment มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด สูงวัยไม่ใช่คนแก่แบบที่เราเคยวาดภาพ สูงวัยเมื่อวาน วันนี้ และในอนาคต มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โอกาสทางธุรกิจมีมากมายทั้งสินค้าและบริการ เพราะตลาดใหญ่ แต่ผู้เล่นน้อย อยากเข้าตลาดนี้ต้องรู้จักและเข้าใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง  ไม่ใช่แค่ ‘ใช่” แต่ต้อง “ถูกใจ ถูกจริต” เพื่อให้ควักกระเป๋าซื้อ 

ล่าสุดข้อมูลจาก NielsenIQ (Thailand) พบว่า มูลค่าตลาดค้าปลีก กว่า 9 แสนล้านบาท ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตมีสินค้าที่ขายที่เจาะจงกลุ่มสูงวัยแค่ไม่ถึง 1%  ซึ่งในกลุ่มสูงวัยที่มีคาดการณ์ว่าจะมีผู้สูงอายุเกือบ 15 ล้านคน หรือมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับจำนวนคนทั้งประเทศ  ถือได้ว่ามีช่องว่างทางการตลาดค่อนข้างใหญ่   สินค้าหรือบริการยังไม่ได้ถูกคิดสร้างสรรและดีไซน์เพื่อกลุ่มสูงวัยเหล่านี้มากนัก  จึงเป็นตัวบ่งบอกชัดเจนว่า โอกาสทางการตลาดยังมีอีกมากมายและเป็นตลาดที่จะช่วยให้แบรนด์สร้างความเติบโตทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

“ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้  อยากให้นักการตลาดได้ตื่นตัวในเชิง Marketing ทำความเข้าใจความต้องการ พฤติกรรม ความคิด มุมมองต่างๆ และการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 50 -70 ปี ที่เป็นช่วงเตรียมตัวเข้าสู่วัยเกษียณไปจนถึงผู้สูงอายุในช่วงเริ่มต้น ที่เรามักคิดว่าพวกเค้าไม่ไหว ไม่มีกำลังซื้อ แต่สูงวัยตอนนี้ไม่เหมือนเดิม แข็งแรงและมีไลฟสไตล์ที่แอคทีฟมากขึ้น นอกจากสินค้าและบริการ “การสร้างแบรนด์” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเพราะถึงแม้ว่าแบรนด์จะเป็นที่รู้จักมาก่อนแต่จำเป็นต้อง reconnect อีกครั้ง ต้องปรับแบรนด์ให้relevantกับเขาเหล่านี้มากขึ้น  ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตแบบยั่งยืน การลงทุนในตลาดนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับทุกองค์กร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News