สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

อวาด้า กรุ๊ป เซ็นเอ็มโอยูกับรัฐบาลราชสถาน จัดตั้งโรงงานผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อวาด้า เวนเจอร์ส ไพรเวท ลิมิเต็ด (Avaada Ventures Private Limited) หรือบริษัทอวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group Company) พันธมิตรการลงทุนในอินเดียของบมจ.โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี หรือ GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทเรือธงด้านการผลิตไฟฟ้าระดับนวัตกรรมที่จดทะเบียนของกลุ่มปตท. บริษัทพลังงานแห่งชาติของไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจสำหรับการสร้างโรงงานผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Ammonia) มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับรัฐบาลรัฐราชสถานของอินเดียแล้ว

อวาด้า กรุ๊ป เป็นบริษัทพลังงานแบบครบวงจรระดับชั้นนำของอินเดีย โดยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งรัฐราชสถานเมื่อวันพุธที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อสร้างโรงงานแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในเมืองโกตา รัฐราชสถาน เอ็มโอยูที่ลงนามไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนสำหรับการประชุมสุดยอดด้านการลงทุนในราชสถานซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวเดลี และมีการเสนอการลงทุนวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับมอบโอกาสการจ้างงานโดยตรงให้แก่ผู้คนราว 3,500 คน และงานทางอ้อมให้แก่ผู้คนกว่า 10,500 คน

นายวินิต มิตตัล (Vineet Mittal) ประธานอวาด้า กรุ๊ป เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับการผลักดันเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมของอินเดีย และกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสีเขียวเป็นสิ่งที่สำคัญต่ออาตฺมนิรภร (การพึ่งพาตนเอง) ของอินเดีย และจะกรุยทางไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ ที่อวาด้า เราตั้งเป้าที่จะทำให้อินเดียเป็นอิสระในเรื่องพลังงานด้วยการให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เรื่องการพึ่งพาตนเองของประเทศ”

“การลงทุนของจีพีเอสซีในอวาด้า เอเนอร์จี ไพรเวท ลิมิเต็ด (บริษัทอวาด้า กรุ๊ป) จะสนับสนุนภารกิจของกลุ่มบริษัทอย่างแท้จริง เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับชั้นนำในด้านพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการเป็นพันธมิตรครั้งนี้อย่างแน่นอน เราจะใช้ความสัมพันธ์นี้สร้างและบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนที่ใหม่กว่า และการลงทุนในราชสถานครั้งนี้ก็นับเป็นอีกก้าวของทิศทางดังกล่าว” นายวินิต มิตตัล ประธานอวาด้า กรุ๊ป กล่าว

“ที่อวาด้า เราเชื่อว่าธุรกิจและความยั่งยืนเกี่ยวพันกัน เราขอขอบคุณรัฐบาลราชสถานสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับการปฏิวัติพลังงานสีเขียวของอินเดียภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ขณะที่เราจะลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในโซลูชันพลังงานสะอาดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอินเดียในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน” เขากล่าวเสริม

นายมิตตัลให้รายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ประโยชน์สูงสุดของไฮโดรเจนสีเขียวก็คือ ไฮโดรเจนจะเผาอย่างสะอาด ทำให้เหลือแต่ไอน้ำ และกล่าวต่อไปว่า “สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น โรงหล่อ ผู้ผลิตแก้ว และผู้ผลิตเหล็ก นี่อาจจะเป็นการค้นพบครั้งใหม่ เพราะนอกจากจะทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลด้วยพลังงานหมุนเวียนแล้ว ยังผลิตแอมโมเนียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวัสดุที่ใช้แทนก๊าซได้”

อวาด้า กรุ๊ป (Avaada Group) เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนระดับชั้นนำของอินเดีย โดยมีความสนใจทางธุรกิจที่หลากหลายทั้งในด้านการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ การผลิตอิเล็กโทรไลเซอร์ และการผลิตแอมโมเนียแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน อวาด้าเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดทั่วทั้ง 11 รัฐในอินเดีย

อวาด้า เอเนอร์จี ซึ่งก่อตั้งในปี 2560 เป็นบริษัทเรือธงของอวาด้า กรุ๊ป โดยมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนประมาณ 5 กิกะวัตต์ในปัจจุบัน และได้มีการผลิตพลังงานหมุนเวียนไปแล้วประมาณ 3 กิกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างที่มีความก้าวหน้า อวาด้า เอเนอร์จี ได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าขนาด 1 กิกะวัตต์ในปีปฏิทิน 2564 ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระที่ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดในอินเดีย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับโรคระบาดอย่างโควิด อวาด้า เอเนอร์จี ก็มีมาตรฐานด้านคุณภาพที่หาที่เปรียบไม่ได้ และตั้งเป้าหมายที่จะตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีกำลังการผลิต 11 กิกะวัตต์ภายในปี 2568 และ 30 กิกะวัตต์ภายในปี 2573

ก่อนหน้านี้ อวาด้า เอเนอร์จี (*เวลสปัน เอเนอร์จี หรือ Welspun Energy) ได้ขายโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1.2 กิกะวัตต์กับบริษัททาทา พาวเวอร์ รีนิวเอเบิล เอเนอร์จี ภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2559

อวาด้า เอเนอร์จี กำลังบริหารโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แบบครบวงจร โดยมีระบบผลิตโพลีซิลิคอน แผ่นเวเฟอร์ เซลล์ และโมดูล ด้วยกำลังการผลิตรวม 10 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 ซึ่งเฟสแรกของโรงงานแห่งนี้ที่ประกอบไปด้วยเซลล์และโมดูลจะดำเนินงานในปี 2566 และจะผลิตให้แก่ตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ อวาด้า กรุ๊ป กำลังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต จึงได้กระจายการผลิตในไฮโดรเจน/แอมโมเนียแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าที่จะผลิตรวม 4 MTPA ต่อปีภายในปี 2573 เพื่อป้อนตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ บริษัทยังเดินหน้าเปิดส่วนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับการผลิตอิเล็กโทรไลเซอร์ ซึ่งบริษัทจะทำกำลังการผลิตให้ได้ 1 กิกะวัตต์ต่อปี

อวาด้า เอเนอร์จี มีชื่อเสียงในเรื่องความเชี่ยวชาญด้าน EPC และทำให้บริษัทเป็นผู้นำเมื่อพิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอดีตสำหรับการบริหารโซลูชันครบวงจร โซลูชันด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของอวาด้า กำลังการผลิต คุณภาพ ความเร็วในการดำเนินงาน และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของดึงดูดการลงทุนในหุ้นจากกลุ่มนักลงทุนที่ช่ำชองจากทั่วโลก ทั้งนี้ อวาด้าได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินระดับโลก อาทิ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี), ดีอีจี (เยอรมนี), เอฟเอ็มโอ (เนเธอร์แลนด์) และโปรปาร์โก (ฝรั่งเศส) และยังมีผลการดำเนินงานที่สมบูรณ์แบบ ตลอดจนศักยภาพในการบริหารโครงการ ซึ่งในเวลาต่อมา อวาด้า เอเนอร์จี ก็ได้รับการลงทุนในหุ้นคิดเป็นมูลค่าประมาณ 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากกลุ่มปตท. ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซของไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีชื่อติดทำเนียบฟอร์จูน 500 ในปี 2564

*เวลส์ปัน เอเนอร์จี (Welspun Energy) ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง 1.2 กิกะวัตต์ในปี 2559 บริษัทจึงกลายเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย และในปี 2559 บริษัทได้ขายสินทรัพย์ให้แก่ทาทา พาวเวอร์ (หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย) ภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขั้นตอนการขายนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการแยกธุรกิจเวลส์ปัน เอเนอร์จี และบริษัทได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอวาด้า เอเนอร์จี นับตั้งแต่ที่เริ่มดำเนินการในปี 2560 อวาด้า เอเนอร์จี ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ดำเนินงานแล้วและอยู่ระหว่างในระหว่างการก่อสร้าง 5 กิกะวัตต์

 

Political News