สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

"มิตซูบิชิ"ทุ่มกว่า3พันล้าน เปิด โรงงานพ่นสีแห่งใหม่แหลมฉบัง ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

       บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ายกระดับศักยภาพการผลิต เปิดตัวโรงงานพ่นสีระดับโลกแห่งใหม่ในแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยโรงงานพ่นสีใหม่นี้ ได้รับการออกแบบ งานพ่นสีรถยนต์ที่คุณภาพดีที่สุด ส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเปิดโรงงานพ่นสีในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่น สู่การเป็นสังคมคาร์บอนสมดุลและความยั่งยืนของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการบรรลุวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2593 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ และป้องกันการเกิดมลพิษ

         โรงงานพ่นสี แหลมฉบังแห่งนี้ ใช้เทคโนโลยีการพ่นสี ประสิทธิภาพสูงสุดของกระบวนการการพ่นสี โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ที่มีความยากและซับซ้อน เช่น ระบบซีลตัวถังอัตโนมัติ (Sealer Automation) หุ่นยนต์ และปืนพ่นสีนำประจุไฟฟ้า (Electrostatic Spray Gun) ลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจในคุณภาพสีชั้นเยี่ยมของรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ผ่านกระบวนการในการพ่นสีต่างๆ ได้แก่ ระบบตลับสี (Cartridge Paint System), ระบบเทคโนโลยีการบำบัดมลพิษในอากาศ (Regenerative Thermal Oxidation - RTO) และเทคโนโลยีสีฐานน้ำ (Waterborne) ในทุกๆ ขั้นตอนของการผลิต ช่วยลดปริมาณการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds (VoCs) สู่สภาพแวดล้อม ได้ถึง 50% ส่วนโรงงานบำบัดน้ำเสีย ช่วยในการน้ำกลับมาใช้ใหม่และลดการปล่อยน้ำเสียได้ถึง 50%

         นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสเปิดโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ครั้งนี้ว่า “ผมเชื่อว่า ทุกคนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืน สำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิตนั้น การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจต้องเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราต้องสร้างสมดุลในหลากหลายมิติที่ต่างกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว รัฐบาลไทยจึงขับเคลื่อนแนวทางเศรษฐกิจ บีซีจี โมเดล ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการเศรษฐกิจระดับชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ โดยรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศเป้าหมายระดับชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นสังคมคาร์บอนสมดุล (carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero) ภายในปี พ.ศ. 2608

         ด้วยเหตุผลนี้ การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้พลังงานสะอาดในการขับเคลื่อน จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของรัฐบาลไทย ประเทศไทยยินดีต้อนรับการลงทุนในอุตสาหกรรมสีเขียวและใช้พลังงานสะอาด กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมภาคเอกชนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มุ่งลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยก้าวเข้าสู่การเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

         โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้ ช่วยให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ขยับเข้าใกล้เป้าหมายในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนสมดุลที่ยั่งยืนทั่วโลกในอีก 30 ปีข้างหน้า ผ่านแผนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการจะส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียน ตลอดจนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทลงถึง 40%

         นายทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เราไม่เพียงให้ความสำคัญกับการผลิตรถยนต์คุณภาพเยี่ยมระดับพรีเมียมเท่านั้น โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้ ยังสอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางสำหรับปี พ.ศ. 2563 – 2565 ของเรา ที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ ไม่เพียงแค่การขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในระดับภูมิภาคและระดับโลกเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการเปลี่ยนแปลงธุรกิจของเราไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และเสริมสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและภูมิภาค”

         ปัจจุบัน โรงงานที่แหลมฉบังมีกำลังการผลิตมากกว่า 400,000 คันต่อปี โดยผลิตรถยนต์ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต, มิตซูบิชิ มิราจ, มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี, ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต จะได้รับการพ่นสีในโรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้

         นายเออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทย เรามีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีของเรา มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   มีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้ ถือเป็นส่วนของศูนย์การผลิตรถยนต์ที่มีการลงทุนมากที่สุด

         โดยเราทุ่มงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานพ่นสีแห่งนี้ ซึ่งเป็นแผนการลงทุนระยะยาวในการผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพสีระดับโลก ในประเทศไทย ไม่เพียงเท่านั้น เรายังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ 2 เมกะวัตต์ หากรวมกับที่ติดตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่โรงงานของเราอีกแห่ง จะสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงปีละ 6,100 ตัน”

         นอกจากโรงงานพ่นสีแห่งใหม่แล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะยังคงเดินหน้าดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศ รวมถึงพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับทิศทางความยั่งยืนของ  มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีสมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม เช่น มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ศูนย์การผลิต รวมถึงโครงการเพื่อสังคมมากมาย เช่น โครงการ “ปลูกป่า 60 ปี 60 ไร่” และโครงการ “Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” นายโคอิโตะ กล่าวเสริม

         สำหรับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีโรงงานทั้งหมด 5 แห่ง โดยในปัจจุบัน มีพนักงานชาวไทยมากกว่า 6,200 คนทำงานอยู่ภายในศูนย์การผลิตฯ และมีอัตราการจ้างพนักงานกว่า 400,000 คน ตลอดทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าการผลิต ที่เกี่ยวข้องกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

         บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี โดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

         สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

         ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่

Website : www.mitsubishi-motors.co.th

Facebook : www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

Instagram : @MitsubishiMotorsTh

Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand

Line Official Account/ ID : Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขยายเครือข่ายโชว์รูม ศูนย์บริการแห่งใหม่ถนนรามคำแหง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส – กลุ่ม ปตท. ร่วมศึกษาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ครบวงจร ผลิต-ขาย-ส่งออก-บริการ

ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นรถกระบะ ดับเบิ้ล แค็บ รุ่นแรก คว้ามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด 5 ดาว จาก ANCAP 2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ พร้อมเดินหน้าเสริมทัพ สร้างความเติบโตต่อเนื่อง

มิตซูบิชิ มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสานฝันเยาวชน ร่วมกิจกรรมจูงมือนักเตะลงสู่สนาม ปีที่ 2

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คว้าอันดับ 1 แบรนด์น่าเชื่อถือสูงสุด หมวดยานยนต์ MPV

Political News