บลจ.กรุงไทย เปิดมุมมองนักลงทุน สู้กับการเปลี่ยนแปลงแบบไม่คาดคิด แนะนำการลงทุนต้องปรับตัว เรียนรู้ ตามสถานการณ์และเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ย้ำกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสมลดความเสี่ยงได้ดี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่ผ่านมากระทบคนทั้งโลก ทำให้ทุกคน ทุกอาชีพต้องเร่งปรับตัว หลายคนต้องปรับมาทำงานแบบ Work From Home บางคนต้องเปลี่ยนอาชีพ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา และเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงข้างหน้าที่จะมาถึง
สำหรับด้านการลงทุน ก็ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ และต้องมองให้ออกว่า แนวโน้มและเทรนด์ของโลกในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงนี้การเปลี่ยนแปลงและมีเคลื่อนไหวมาก จะอยู่ในธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพราะในอนาคตสิ่งแวดล้อมหรือธรรมาภิบาลจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการรักษา รวมทั้งกิจการที่ดีที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็จะถูกจับตา เพราะมาจากแนวคิดร่วมกันของบรรดาประชาคมโลก 2.กลุ่มธุรกิจที่เป็นเทคโนโลยีและสุขภาพ อันนี้ก็คิดว่าเห็นกันแน่นอน จากโควิดที่ผ่านมา เทคโนโลยีกับสุขภาพมาคู่กันแน่ ๆ การเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่หลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และยังมีโอกาสในการเติบโตระยะยาว และ 3.กลุ่มธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีความแข็งแกร่ง พร้อมรับการเติบโตในทุกโอกาส
นางชวินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ KTAM มีกองทุนที่ให้นักลงทุนได้ตามเทรนด์และลดหย่อนภาษีได้ ทั้ง 3 กลุ่ม อาทิ กองทุน KT-ESG RMF (ธีมรักษ์โลกแบบยั่งยืน และธรรมาภิบาลที่ดี) กองทุน KT-HEALTHC RMF (ธีมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ) และ KT-WEQ RMF (ธีมการลงทุนในหุ้นทั่วโลก) ดังนั้นถ้าใครมองว่าแนวโน้มของธุรกิจเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต และอยากเตรียมแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเกษียณไว้ล่วงหน้า เราสามารถเลือกลงทุนในกองทุนกลุ่มนี้ก็ได้ เพื่อตอบโจทย์ในการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการลงทุนกลุ่มนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลง ก็สามารถปรับเปลี่ยน กอง RMF ที่ถืออยู่ได้ อย่างไรตาม การเรียนรู้ และปรับตัวเสมอ แม้ว่าสถานการณ์และเทรนด์แนวโน้มต่างๆ ของโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสิ่งสำคัญการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
สินทรัพย์ลงทุน |
|
KT-ESG RMF กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี เพื่อการเลี้ยงชีพ |
เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุน ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีผลตอบแทนรวมอีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR)) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งรวมถึงหุ้นที่อยู่ระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีดังกล่าวด้วย เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR)) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Management Strategy) |
KT-HEALTHC RMF กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (กองทุนนี้มีการลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจํานวนมาก) |
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Janus Global Life Sciences Fund (Master Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund) เพียงกองเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีซึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต |
KT-WEQ RMF กองทุนเปิดเคแทม เวิล์ด อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ |
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB Low Volatility Equity Portfolio (Master Fund) ชนิด Class I (USD) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน |
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ทั้ง 3 กองทุนมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ และความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-WEQ RMF มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้สนใจกองทุน ของทาง KTAM สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงไทย www.ktam.co.th หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02 686 6100 กด 9 ส่วนนักลงทุนท่านไหนที่สนใจ สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุกๆ 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ บลจ. กรุงไทยและบัตรเครดิต KTC กำหนด และยังสามารถลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย อีกด้วย