สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ธีรศิลป์ ซัดเบิ้ลพา ช้างศึก ถล่ม เมียนมา 4-0 แซงขึ้นจ่าฝูงกลุ่ม เอ ชิงแชมป์อาเซียน

ธีรศิลป์ กดเบิ้ล นำ ช้างศึก ถล่ม เมียนมา 4-0 แซงขึ้นจ่าฝูงกลุ่ม เอ โปรแกรมนัดต่อไป พบกับ ฟิลิปปินส์ 14 ธันวาคม 264 เวลา 16.30 น. ด้าน มาโน ยันไม่ติดใจ เจอเมียนมาร์ เล่นหนัก พร้อมยินดีธีรศิลป์ทำสถิติทาบ นอห์ อลัม ชาห์

วันที่ 11 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบกับ เมียนมา

ช้างศึก ออกสตาร์ทเกมแรก ด้วยการชนะ ติมอร์ เลสเต 2-0 ส่วน เมียนมา แพ้ สิงคโปร์ มาและ ชนะ ติมอร์ เลสเต

เกมนี้ มาโน โพลกิ้ง ใช้กองหน้าคู่อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา กับ ศุภชัย ใจเด็ด ส่วนกองกลาง 4 คน มี ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร พร้อมด้วย สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และ ชนาธิป สรงกระสินธิ์ ด้าน เมียนมา นำมาโดย ธัน เปียง และ มอง มอง ลวิน กัปตันทีม

 เริ่มเกมมานาทีที่ 23 ทีมชาติไทยมาได้ประตูออกนำจนได้ จากจังหวะที่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม จ่ายตัดเข้ากลางให้ ธีรศิลป์ แดงดา แต่งด้วยซ้ายแล้วซัดด้วยขวาเข้าไปให้ช้างศึก นำเมียนมา ก่อน 1-0

นาทีที่ 30 ไทยมาได้ ฟรีคิกและเป็น มานูเอล ทอม เบียร์ห ที่ได้โขกกดลงพื้นแต่ไปติดเซฟของประตูเมียนมา และช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมจบครึ่งแรก ไทยนำเมียนมา อยู่ 1-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 52 ไทยมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มานูเอล ทอม เบียร์ห โดนทำฟาวล์ และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป ให้ ไทยนำห่างเป็น 2-0 และ ทำให้ ธีรศิลป์ กลายเป็น ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของศึกชิงแชมป์อาเซียน เทียบเท่ากับ นอห์ อลัม ชาห์ ที่ 17 ประตูทันที

หลังจากนั้นนาทีที่ 65 ไทยเปลี่ยนตัวสามคน โดยส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ พร้อมด้วยสุภโชค สารชาติ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ลงสนามไปแทนที่ของสารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธิ์ และ ศุภชัย ใจเด็ด

หลังจากนั้นไทยพยายามบุกอย่างหนัก และนาทีที่ 78 เป็นสุภโชค สารชาติ ที่หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เพิ่งลงสนามมายิงเข้าไปให้ ไทยนำ เมียนมา ห่างเป็น 3-0

ช่วงทดเจ็บ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แอสซิสต์ คืนให้ สุภโชค สารชาติยิงเข้าไปเป็นประตูที่สองของตัวเองในทัวร์นาเมนต์นี้และทำให้ ทีมชาติไทยเอาชนะ เมียนมาไป 4-0 มีเพิ่มเป็น 6 แต้มเท่ากับสิงคโปร์ แต่ประตูได้เสียดีกว่าเลยแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของกลุ่มทันที

โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทยจะต้องพบกับ ฟิลิปปินส์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในศึกชิงเจ้าอาเซียนนัดที่ 3 ในวันที่ 14 ธันวาคม 264 เวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ไทย : ฉัตรชัย บุตรพรหม (GK), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, กฤษดา กาแมน, มานูเอล ทอม เบียร์ห, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ศุภชัย ใจเด็ด, ธีรศิลป์ แดงดา

ด้าน ธีรศิลป์ แดงดา กล่าวว่า "ผมก็ดีใจที่ตัวผมสามารถทำประตูได้ และเป็นการยิงในทัวร์นาเมนต์นี้ได้อีกครั้ง และที่ดีใจมากกว่านั้นคือทีมของเราได้ชัยชนะมาครอง มีหลายอย่างดีๆเกิดขึ้น ทั้งการเล่นร่วมกัน การทำงานเป็นทีม ดีใจกับทีมมากกว่า ที่เรากลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดี"

"ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เล่นรายการนี้ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลร่วมกับ นอห์ อลัม ชาห์ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ดีใจที่ตัวผมทำเต็มที่มาตลอด และถือเป็นผลงานที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือผลงานของทีม เพราะสถิติจะไม่มีความหมายเลย ถ้าหากเราไม่ชนะในเกมนี้ และเกมต่อไป เราไปไม่ถึงปลายทาง ผลงานของทีมสำคัญที่สุดสำหรับผม"

ขณะที่ มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า ไม่ติดใจกับการเล่นหนักของเมียนมา ในเกมล่าสุดของศึกชิงแชมป์อาเซียน 2020 รอบแบ่งกลุ่มกลุ่ม เอ พร้อมแสดงความยินดี กับ ธีรศิลป์ แดงดา ที่กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทัวร์นาเมนต์นี้เท่ากับนอห์ อลัมชาห์ ที่ 17 ประตู

"เรามีความสุขกับฟอร์มการเล่นของทีมในวันนี้เป็นอย่างมาก ผมคิดว่า เรายกระดับการเล่นของเราจากเกมแรกได้มากพอสมควร เรามีแนวทางชัดเจน ในการควบคุมสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะเกมรุก ที่สร้างโอกาสได้ชัดเจน มากกว่าเกมก่อน และเรามีความสุขมากที่ได้ชัยชนะ และยิงได้ถึงสี่ประตู และมุ้ยก็ได้กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของรายการนี้ หลังยิงไปสองประตู ผมมีความสุขมาก เช่นเดียวกับเกมนี้ แต่งานของเรายังไม่จบ เส้นทางยังอีกยาวไกล และสองเกมต่อไปของพวกเราก็ถือเป็นเกมที่ยากมาก เราต้องมีสมาธิ และยกระดับให้ได้ต่อเนื่อง" มาโน กล่าว

"ตอนที่ผมมาทำงานที่ไทยครั้งแรก ผมได้เห็นสุดยอดนักเตะคนหนึ่ง และเขาก็ก้าวไปติดทีมชาติได้อย่างรวดเร็ว พูดได้เลยว่า ธีรศิลป์ คือนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยร่วมงานรวมถึง เคยได้เห็นมา เขามีคุณภาพที่ชัดเจน มีประสบการณ์ แม้ตอนนี้จะไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วก็ตาม แต่คุณภาพ วันนี้เขาก็แสดงให้เห็น โดยเฉพาะการเป็นกองหน้า เขาคือนักเตะที่ดี มีเทคนิคที่ดี และสามารถยิงประตูได้สุดยอดมาก ผมเชื่อว่าเขามีทุกอย่างที่กองหน้าคนหนึ่งต้องมี โดยเฉพาะการจบสกอร์ที่เฉียบคม"

"การเล่นของเมียนมา เราเองก็ได้เห็นมาก่อนหน้านี้ ว่าพวกเขามีความดุดันมาก และก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่ไทยได้เจอกับเมียนมา เราจะได้เห็นการปะทะที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างเกมนี้ก็มีหลายครั้งที่ดูเหมือนไม่ใช่การปะทะเพือเอาบอลเลย แต่ผมคิดว่าผมโอเค ที่เราสามารถคุมสมาธิ และเกมได้อยู่ เห็นได้ชัดว่าทุกจังหวะ 50/50 พวกเขาเต็มที่เสมอ แม้จะไม่ได้บอล แต่นี่คือส่วนหนึ่งของฟุตบอล เรารู้ว่าพวกเขามีความดุดัน นี่คือสิ่งหนึ่งที่เราได้เตรียมมาในการซ้อม มันสำคัญที่เราจะต้องพยายามครองบอล พยายามเคลื่อนบอล เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ในเกมนี้ หลายจังหวะเราทำได้ดี เรามีความสุข"

"เกมต่อไปกับฟิลิปปินส์ เราเองก็กังวลกับคุณภาพของพวกเขาเช่นกัน เพราะนักเตะของพวกเขาหลายคนมีประสบการณ์เยอะมาก นักเตะหลายคนมีคุณภาพ และประสบการณ์ และมันเป็นเกมที่ยากแน่นอน และเรารู้จักพวกเขา และเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อย หลายคนของฟิลิปปินส์ ก็เล่นในสโมสรเดียวกับนักเตะของไทย แต่เราต้องพยายามวิเคราะห์เกม เราต้องอย่ามองแต่ผลการแข่งขัน เราต้องดูฟอร์มการเล่น ผมรู้ว่าพวกเขาทำได้ดี แต่เกมล่าสุดเห็นได้ชัดว่าติมอร์ เลสเต เปลี่ยนนักเตะหลายคนจากเกมที่เจอกับไทย พวกเขาเป็นทีมดาวรุ่ง จริงอยู่ว่าสกอร์ออกมาเป็น 7-0 เราชนะ 2-0 มันอาจจะทำให้พวกเขามั่นใจ แต่เราต้องการเดินหน้าต่อไป เราต้องมองไปข้างหน้า และต้องมีสมาธิและเอาชนะให้ได้ในเกมต่อไป"

"เรื่องลูกจุดโทษ ผมไม่อยากพูดถึงมัน ไม่อยากคอมเมนต์ มันชัดเจนว่าเราโดนเตะมันชัด แต่เราไม่ได้ชนะเมียนมาเพราะลูกโทษลูกเดียว ตลอดทั้งเกมเราแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่า อย่างชัดเจนและเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชนะ"

Political News