บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) โชว์ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2564 รายได้รวมแตะ 5,792 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 936 ล้านบาท ชี้พิษโควิด-19 เลื่อนการเปิดโครงการและชะลอการออกแคมเปญ ส่งผลให้ผลประกอบการลดลง ด้านผู้บริหาร “นายธงชัย บุศราพันธ์” ระบุ พร้อมเดินหน้าฝ่าวิกฤต ลุยเปิดโครงการ“นิว คอนเนค เฮ้าส์ ดอนเมือง” มูลค่า 800 ล้านบาท พร้อมโอนทันที ส่งท้ายปี มั่นใจ Q4/64 เศรษฐกิจฟื้นตัว ขณะที่มาตรการ LTV ส่อแววกระตุ้นกำลังซื้อกลับมา สบช่องเล็งเปิดตัว 18 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 47,400 ล้านบาท ในปี 2565
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 สิ้นสุด ณ 30 กันยายน 2564 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,792 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 936 ล้านบาท ลดลง 22% และ 24% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) ขณะที่ไตรมาส 3/2564 บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 877 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท ลดลง 74% และ 71% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) ทั้งนี้สาเหตุที่ผลการดำเนินงานที่ลดลง เป็นการสะท้อนถึงการได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ในช่วงไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อ Sentiment ของผู้บริโภค
ขณะที่ยอดขาย (Pre-sales) สะสมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,525 ล้านบาท โดยกว่า 3,400 ล้านบาทมาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอีกกว่า 2,100 ล้านบาทมาจากยอดการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการคือ โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ และโครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา และโครงการนิว โนเบิล อื่นๆที่ทยอยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการภายในไตรมาส 4/2564 คือโครงการนิว คอนเนค เฮ้าส์ ดอนเมือง มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบประกอบด้วยสินค้าประเภทบ้านแฝดและทาวน์โฮม ตั้งอยู่ในทำเลใกล้สนามบินดอนเมือง สามารถเข้าออกได้ทั้งถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน ในระดับราคาขายที่ 5-8 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากเป็นโครงการประเภทแนวราบซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดปัจจุบันและด้วยทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพของโครงการ พร้อมทั้งเร่งการขายโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่มีอยู่ในมืออีกกว่า 3,500 ล้านบาท สอดรับกับภาพรวมตลาดในช่วงไตรมาส 4/2564 จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศไทยฟื้นตัว รวมถึงทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขี้นและจะเป็นผลดีต่อ Sentiment ของผู้บริโภค
“สำหรับปี 2564 บริษัทฯ ได้มีการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ โครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา และ โครงการนิว คอนเนค เฮ้าส์ ดอนเมือง คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 6,900 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าแผนที่วางไว้จากเดิม 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 45,100 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นบริษัทฯจึงได้มีการปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 7,700 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) เป็นการชั่วคราว โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็น 100% (จากเดิม 70% - 90%) สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการหนุนกำลังซื้อในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทางตรง และจะเป็นอีกปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี 2564
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565นั้น นายธงชัย มองว่า จะฟื้นตัวขึ้นจากปีนี้ หากไม่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ โดยปัจจัยบวกยังคงเป็นการคลี่คลายของโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อ Sentiment ของประชาชนในประเทศ ประกอบกับ ภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เป็นข้อจำกัดมากขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไปถึงสิ้นปี 2565 ด้วย
โดยในปี 2565 NOBLE ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการฟื้นตัวของตลาด ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 47,400 ล้านบาท (ส่วนหนึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดมาจากปี 2564) ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในพอร์ตให้มากขึ้น เพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้ากระจายและคลอบคลุมในหลายทำเลมากขึ้น อีกทั้งการพัฒนาโครงการในลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นเนื่องจากใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยลง โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบในพอร์ตเกือบ 50% (ตามสัดส่วนการลงทุนของ NOBLE) โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการในทำเลที่กระจายตัวมากขึ้น เช่น ในทำเลถนนดอนเมือง ถนนราชพฤกษ์ ถนนเอกมัย-รามอินทรา ถนนกรุงเทพกรีฑา และในทำเลที่ใกล้เมกาบางนา เป็นต้น
นอกจากนี้ ในช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯมีแผนออกหุ้นกู้ มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
NOBLE reveals 9-month net profit of THB 936 million
Launching “Nue Connex House Don Mueang” before year-end as well as speeding up the inventory sale in response to LTV measure signaling its 2022 plan to develop 18 new projects
Noble Development Plc (NOBLE) announced its performance in the first nine months of 2021 with total revenue of THB 5,792 million and net profit of THB 936 million. The Covid-19 pandemic has caused a delay of the launch of new projects and postponement of sale campaign, resulting in the decrease of company’s financial result. Executive “Mr.Thongchai Busrapan” reveals that NOBLE is ready to move forward its business plan and will launch the “Nue Connex House Don Mueang” worth THB 800 million before the year-end. NOBLE is confident that an economic recovery will take place in the Q4/21 while Bank of Thailand’s loan-to-value (LTV) measure will boost homebuyers’ purchasing power. Total of 18 new projects worth combined THB 47,400 million are in the pipelines to be launched in 2022.
Mr. Thongchai Busrapan, First Vice Chairman and Co-CEO of Noble Development Plc (NOBLE), a leading residential developer in prime locations of Greater Bangkok, reveals the performance in the first nine months of 2021 ending 30 September that the company recorded total revenue at THB 5,792 million and net profit at THB 936 million, a decrease of 22% and 24%, respectively, from the same period of last year. For Q3/2021, the company generated total revenue of THB 877 million and net profit of THB 150 million, a decrease of 74% and 71%, respectively, from the same period of last year. The decrease was mainly impacted from a new round of Covid-19 pandemic spread in Q3/2021, which was uncontrollable and affected the consumer’s sentiment.
Meanwhile, the outstanding pre-sales level in the nine-month period were THB 5,525 million in which more than THB 3,400 million came from sale of inventory projects and more than THB 2,100 million came from new projects launched i.e, Noble Form Thonglor, Nue Noble Centre Bangna, and other Nue Noble Projects that were launched earlier . In the last quarter of this year, the company has a plan to launch one more project, Nue Connex House Don Mueang worth THB 800 million, which comprises of semi-detached house and townhome, located near Don Mueang Airport. This project can access two way via Vibhavadi-Rangsi Road and Phahonyothin Road with selling price ranging from THB 5-8 million per unit. The company believes that this housing project will get a positive response from customers due to its potential location and market trend. Also, the company is speeding up to sale of inventories on hand amounting more than THB 3,500 million which aligned with the overall property market which will start to pick up in the Q4/2021 after the country is re-opened to welcome foreign tourists. This is a positive factor to drive the Thai economy and people’s purchasing power, strengthening economic confidence and consumer sentiment.
“For 2021, the company has delayed new projects launched only three new projects comprising Noble Form Thonglor, Nue Noble Center Bang Na and Nue Connex House Don Mueang worth combined THB 6,900 million, which is lower than the original target to launch 11 new projects worth THB 45,100 million, mainly due to the impact from Covid-19 pandemic. Thus, the company has lowered the target to generate pre-sales around THB 7,700 million this year.
Furthermore, the Bank of Thailand announced to temporarily relax its loan-to-value measure by raising the LTV ratio cap for mortgages from its previous range of 70%-90% to 100% for mortgage agreement signed during 20 October 2021 until 31 December 2022. This LTV measure is expected to boost purchasing power of potential homebuyers, a positive factor to directly drive the property market and year-end sales for 2021.
For the overall property market in 2022, Mr. Thongchai foresees that the market will recover if there is no new round of Covid-19 virus spread. The easing of Covid-19 situation will remain a positive factor to boost people sentiment, together with the government’s relaxing measures including the raised mortgage LTV ratio until the end of 2022.
Next year, NOBLE has its readiness to cope with the better market sentiment by launching 18 new projects worth combined THB 47,400 million (some are the delayed projects from 2021). The company will continue to develop housing projects, including low-rise condominiums to diversify its product portfolio for a wider coverage. These projects will help the company to have a faster revenue recognition as they require a shorter construction period. Noble plans to increase the proportion of low-rise projects to be 50% of the portfolio (based on equity portion of NOBLE), and plans to develop housing projects in various location such as Don Muang Road, Ratchaphruek Road, Ekkamai Ram Inthra Road, Krungthepkreeta Road, and surrounding area of Mega Bangna etc.
Additionally, the company plans to issue debenture worth THB 1,500 million to fund its business expansion and build sustainable growth.
