สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ"รับที่ปรึกษาสมาคมรักบี้ ลุยขจัดปัญหาภายในยกมาตรฐานสู่สากล

        เปิดตัวบอร์ดหนำเลี้ยบ "สุวัจน์  ลิปตพัลลภ" รับเป็นที่ปรึกษาสมาคมฯยุค "สารวัตรต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกคนใหม่ป้ายแดง พร้อมเร่งขจัดปัญหาภายใน เพื่อยกระดับมาตรฐานทั้งระบบมุ่งไปสู่สากล ล่าสุดได้รับข่าวดีจากผู้ว่ากทม.ให้ “สนามกีฬาศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน” เป็นสนามฝึกซ้อมหลักประจำแล้ว

                  เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่สโมสรราชพฤกษ์ ถ.วิภาวดีรังสิต "สารวัตรต้น" พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าว “การแถลงนโยบายการบริหารสมาคมฯ และเปิดตัวคณะกรรมสัมปทิกสภาชุดใหม่" หลังชนะการเลือกตั้งและเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีบุคคลสำคัญในวงการรักบี้ไทยร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

                  ทั้งนี้ พ.ต.ท.กุลธน เปิดเผยว่า ขอขอบคุณสโมสรสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ ให้ตนเข้ามารับบทบาทหน้าที่อันทรงเกียรติในตำแหน่งนายกสมาคมฯ ปีนี้เป็นปีมงคล ที่สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลฯได้ก่อตั้งมาครบ 80 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2481 ด้วยความรักและผูกพันกับกีฬานี้ ตนอยากให้วงการรักบี้บ้านเรา เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะสานต่อนโยบายดีๆ ของคณะกรรมการชุดเก่า แต่จะเพิ่มเติมการพัฒนาในด้านต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น วันนี้จึงจัดการแถลงนโยบายและทิศทางของสมาคมฯ พร้อมเปิดตัวแนะนำคณะกรรมสัมปทิกสภาชุดใหม่ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยตนในแต่ละด้าน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายของสมาคมฯ ให้วงการรักบี้ไทยและทีมชาติไทย กลับไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของวงการรักบี้ในทวีปเอเชียให้จงได้

                  นอกจากนี้ตนยังได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ที่รักในวงการกีฬาหลายๆท่าน ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุน และผลักดันนโยบายการพัฒนาวงการรักบี้ไทยอีกด้วย อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย รับหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาของสมาคมฯเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายถิรชัย วุฒิธรรม ผู้มีประสบการณ์และความรู้ในแวดวงกีฬา รับเป็นที่ปรึกษาของสมาคมฯเหมือนกัน ล่าสุดสมาคมฯยังได้รับการสนับสนุนจากกรุงเทพมหานครให้สามารถนำ “สนามกีฬาศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บางบอน”  มาใช้เป็นสนามหลักที่ใช้ในแข่งขันรักบี้ของสมาคมฯ รวมถึงใช้ในการฝึกซ้อมและเก็บตัวของทีมชาติไทยอีกด้วย

                  "สารวัตรต้น" พ.ต.ท.กุลธน ยังกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายและทิศทางการพัฒนาที่สมาคมฯ อยากจะมุ่งเน้นมีดังนี้ 1.การเสริมสร้างความสามัคคีในวงการรักบี้ : ส่งเสริมค่านิยม และส่งผ่านคุณค่าของกีฬารักบี้ การเป็นองค์กรที่มีการบริหารงานแบบมืออาชีพ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิก และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.ส่งเสริมกีฬารักบี้ให้เป็นที่แพร่หลาย : การจัดการและเผยแพร่องค์ความรู้ของกีฬารักบี้ (Knowledge Management) การส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกีฬารักบี้ได้โดยง่าย

                  3.การส่งเสริมและพัฒนากีฬารักบี้ โดยเฉพาะประเภทรักบี้ 7 คนทั้งชายและหญิงแบบกึ่งอาชีพ เพื่อให้นักกีฬาเหล่านี้มีรายได้หาเลี้ยงตัวเองตลอดจนมีหน้าที่การงานที่ดีในอนาคต : การพัฒนาเทคนิคกีฬารักบี้ การพัฒนาบุคลากรรักบี้ (นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้จัดการแข่งขัน) และ 4.การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ : การส่งเสริมบทบาทสมาคมฯ ให้มีบทบาทนำในระดับนานาชาติ การรับเป็นเจ้าภาพจัดอีเว้นท์ การผลักดันบุคลากรของสมาคมฯ ไปเป็นผู้บริหารองค์กรกีฬาในระดับภูมิภาค ทวีป และนานาชาติ

                   อย่างไรก็ตามช่วง 4 ปีที่ตัวเองบริหารงานจากนี้ไป จะมุ่งมั่นการทำงานพัฒนาทั้งระบบ โดยเฉพาะสิ่งแรกที่จะต้องเร่งทำคือ ขจัดปัญหาความข้ดแย้งภายในของสโมสรสมาชิกทั้งหมด ล่าสุดวันที่ 9-10 มิ.ย.นี้ จะมีการทำเวิร์คช็อปสโมสรสมาชิกทุกคน ที่สวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ เพื่ออยากให้ทุกคนช่วยกันระดมความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยกันพัฒนาวงการรักบี้ไทยให้ดียิ่งขึ้นทั้งระบบ ไล่ตั้งแต่ชุดเยาวชน ไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เราจะรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกรักบี้ระดับ "เวิลด์ซีรีย์" มาอยู่ในเมืองไทยให้ได้ เพราะขนาดรักบี้ 7 คนของเกาะฮ่องกงที่สมัยก่อนไม่มีใครสนใจ แต่ทุกวันนี้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาล ทั้งนี้ศักยภาพของบ้านเราอย่าง ภูเก็ต, หัวหิน และ พัทยา มีดีเหนือกว่ามาก ดังนั้นตัวเองจะต้องเอามาจัดให้ได้

                  ส่วนทีมรักบี้ไทยประเภท 7 คน ทั้งชายและหญิงจะเดินทางไปร่วมศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย ช่วงเดือนส.ค.นี้ เวลานี้อยู่ในระหว่างการเก็บตัวฝึกซ้อม ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า น่าจะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาได้ โดยเฉพาะทีมหญิงของเราก่อนหน้านี้ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย คว้าเหรียญทองมาแล้วเป็นสมัยที่ 3 ส่วนทีมชายได้เหรียญทองแดงกลับมา เวลานี้กำลังหาจุดบกพร่องและเร่งแก้ไขให้ดีที่สุดก่อนจะส่งนักกีฬาทั้งหมดไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนก.ค.นี้

Political News