สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

กบข.เชื่อมั่นบริษัทที่ให้ความสำคัญด้านESGสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ดี

กบข. ร่วมเสวนาออนไลน์ในงาน “Thailand Focus 2021” ภายใต้หัวข้อ “Accelerating Sustainable Investing in Thai Capital Market” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์การบริหารกองทุนในฐานะนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Investing) พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนการลงทุนอย่างยั่งยืนในตลาดทุนไทย 

ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เผยมุมมองของนักลงทุนต่อการนำปัจจัยด้าน ESG ประกอบการพิจารณาลงทุนว่า นักลงทุนทั่วไป มักจะมองแค่ความสำคัญของผลตอบแทนและความเสี่ยงการลงทุน เช่น หากบริษัทที่ลงทุนมีผลประกอบการที่ดี ย่อมนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน แต่หากบริษัทมีการกระทำที่สร้างความเสียหายและเกิดผลกระทบด้าน ESG ย่อมสร้างความเสี่ยงให้กับบริษัท ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ลดลง และส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกลงทุนในบริษัทนั้น แต่สำหรับนักลงทุนสถาบัน ในฐานะเจ้าของสินทรัพย์ที่ลงทุนทั่วโลก (Universal Owner) จึงตระหนักถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลกระทบด้าน ESG ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ลงทุน มีการนำปัจจัยด้าน ESG มาประกอบในกระบวนการพิจารณาลงทุน ซึ่ง กบข. ในฐานะนักลงทุนสถาบันได้มีเป้าหมายสำคัญ นั่นคือ การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคม (Impact Investing) 

สำหรับข้อมูลเชิงลึกที่ใช้ประกอบการตัดสินในลงทุนอย่างยั่งยืนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีกลยุทธ์หรือแบบแผนมาตรฐานสำเร็จรูป (No One Size Fits All) กบข. จึงได้มีการวางกระบวนการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก สำหรับเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาลงทุนได้อย่างถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้ กบข. ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการลงทุนภายใต้กรอบ ESG โดยบูรณาการแนวทางมาตรฐานขององค์กรชั้นนำระดับสากล ได้แก่ OECD และ PRI เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์ประเมินมาตรฐานด้าน ESG โดยเชื่อว่า บริษัทที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน ESG จะสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ดีกว่า

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจะต้องตระหนักว่า ข้อมูลที่เปิดเผยไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะแต่ละแห่งมีเกณฑ์ประเมินคะแนนด้าน ESG ที่แตกต่างกัน ดังนั้น การรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและการประเมินด้าน ESG จึงเป็นเรื่องท้าทายและจะต้องพัฒนาต่อไป เพื่อให้สอดคล้องตามแต่ละบริบทของสินทรัพย์และประเภทธุรกิจได้อย่างเหมาะสม ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“ตลาดทุนไทยสามารถเกิดความยั่งยืนและมีแนวโน้มดีขึ้นในอนาคตได้ หากทุกภาคส่วนร่วมมือ และก้าวไปในทิศทางเดียวกัน” ดร. ศรีกัญญากล่าวทิ้งท้าย

สำหรับงานสัมมนาออนไลน์ดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้งาน “Thailand Focus 2021” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยในช่วงเสวนานี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดทุนไทย ได้แก่ ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข., ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล, ดร.ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาคารทหารไทยธนชาต โดยมีคุณพิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความรู้ด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ 

Political News