สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

แกร็บหนุนรัฐออกกฎ “แอป” ถูกกฎหมาย แต่ค้านจำกัดโควตา หวั่นเกิดการผูกขาด

ผู้บริหารแกร็บ นักวิจัย หนุนรัฐออกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารแบบบริการทางเลือก แต่ค้านการกำหนดจำนวน แนะสนับสนุนผู้ขับขี่เปิดใจขับทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์

วันที่ 17 ธันวาคม 2563 เวลา 13.00 น. กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารแบบบริการทางเลือก พ.ศ. …. (ร่างกฎกระทรวงฯ) โดยมีนายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดี (ฝ่ายบริหาร) เป็นประธานฯ และมีหน่วยงานในสังกัดกรมการขนส่งทางบก รวมถึงตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจทางหลวง กสทช. สคบ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ภาคประชาชนผู้ใช้บริการ กรมการท่องเที่ยว กลุ่มผู้ให้บริการแท็กซี่สาธารณะ ฯลฯ เข้าร่วมประชุมฯ รวมกันกว่า 100 คน ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ชั้น 3 กรมการขนส่งทางบก

นายธานี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรมฯได้เปิดเวทีสาธารณะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียผ่านช่องทางออนไลน์มาก่อนแล้ว แต่เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นที่รอบด้านจึงได้เปิดเวทีนี้ขึ้นมา เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาก่อนที่จะออกเป็นกฎกระทรวงในโอกาสต่อไป

จากนั้น ได้เปิดให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้แสดงความเห็น โดย นายสุรพงษ์ สุขปูรณะ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายรถยนต์รับจ้างแบบบริการทางเลือก (กลุ่มเครือข่ายฯ) กล่าวว่า กลุ่มฯสนับสนุนร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะทำให้การบริการรับส่งทำได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเนื้อหาในข้อ 3 ที่ระบุว่า การรับจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างแบบบริการทางเลือก จะจดทะเบียนในจังหวัดใด จำนวนเท่าใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิผู้ให้บริการและอาจเกิดขบวนการซื้อขายใบอนุญาต

ด้านผศ.ดร.สุทธิกร กิ่งแก้ว หัวหน้าโครงการศึกษาและวิจัย CONC Thammasat  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า โดยภาพรวมสนับสนุนการออกร่างกฎกระทรวงฉบับนี้  แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อ 3  ในการกำหนดโควตาหรือการกำหนดจำนวน เพราะในฐานะนักวิจัย การให้บริการสาธารณะผ่านทางแอปพลิเคชัน จะช่วยทำให้สังคมมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ลดการใช้น้ำมัน ลดมลพิษ   ดังนั้น หน่วยงานของรัฐจึงไม่ควรกำหนดจำนวน แต่ควรสนับสนุนให้ผู้ขับขี่รถสาธารณะหันมาให้บริการทั้งในรูปแบบของออนไลน์และออฟไลน์ 

“การพูดถึงเรื่องโควตาเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในยุคดิจิทัล ที่กำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน ในการสร้างความสมดุลให้กับระบบหรืออุตสาหกรรมอยู่แล้ว”

ขณะที่ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย (GRAB) กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน แกร็บ ยินดีที่กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันให้มีการแก้ไขร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกต้อง แต่บริษัทฯ มีความกังวลในประเด็นของการกำหนดโควตาการจดทะเบียนเพื่อเป็นคนขับ เนื่องจากเป็นระบบที่สวนทางและขัดแย้งกับแนวคิดของการแข่งขันอย่างเสรี ทั้งยังเป็นการปิดกั้นโอกาสในการหารายได้ของประชาชน โดยระบบดังกล่าวถือเป็นต้นตอของปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการมีจำนวนคนขับที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ มาตรฐานการให้บริการที่ต่ำลง และอาจเกิดการซื้อขายสิทธิจนเกิดการผูกขาด

“เราได้เห็นตัวอย่างจากหลายประเทศที่เคยประสบปัญหาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีการกำหนดโควตาจนส่งผลให้คนขับกว่าครึ่งในระบบที่เคยสามารถหารายได้เสริมถูกตัดช่องทางทำมาหากิน เกิดการประท้วงของคนขับ มีปัญหาราคาค่าโดยสารเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความไม่สมดุลของระบบอุปสงค์และอุปทาน จนในที่สุดรัฐบาลต้องประกาศขยายโควตา  ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย ศาลสูงสุดได้ตัดสินให้การกำหนดโควตาผิดหลักการออกกฎหมาย เนื่องจากเป็นการปิดกั้นการแข่งขันอย่างเสรี”

บริษัทฯ จึงอยากขอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาทบทวนในประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง และสนับสนุนให้มีการเปิดเสรีเรื่องการจดทะเบียนเพื่อให้บริการ ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด

Political News