สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

บลจ.พรินซิเพิล เตรียมจ่ายปันผลกองทุน PRINCIPAL iPROP คาดจ่ายอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย

บลจ.พรินซิเพิล โชว์ศักยภาพบริหารกองทุน พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (PRINCIPAL iPROP) (กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก) เตรียมจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 34 แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน คาดจ่ายที่อัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย กำหนดปิดสมุดทะเบียน (XD Date) 30 กันยายนนี้ ชูจุดเด่นกองทุน ได้รับการจัดอันดับ 4 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ และจ่ายเงินปันผลมาตลอดนับจากปี 2555 รวม 33 ครั้งรวม 6.295 บาทต่อหน่วย แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน REITs และ Infrastructure Fund เป็นกลุ่ม Laggard ที่ราคายังไม่ได้ปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มต่างๆ ชี้ภาพรวมอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัลช่วยเพิ่มความน่าสนใจการลงทุน 

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิด พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม (PRINCIPAL iPROP) เป็นหนึ่งในกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง โดยนับจากเดือนพฤศจิกายนปี 2555 ได้จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 33 ครั้ง คิดเป็นอัตรารวม 6.295 บาทต่อหน่วย ล่าสุด กองทุน ได้ประกาศประมาณการจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 34 สำหรับงวดบัญชี 31 สิงหาคม 2563 แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Class R) และชนิดจ่ายเงินปันผล (Class D) ในอัตรา 0.10 บาทต่อหน่วย กำหนดปิดสมุดทะเบียน (XD Date) ในวันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งผู้ซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ปิดสมุดทะเบียนเป็นต้นไปจะไม่ได้รับเงินปันผลงวดดังกล่าว ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Class R) สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในกองทุน PRINCIPAL TREASURY ได้ตั้งแต่ 2 ตุลาคมนี้ ขณะที่ผู้ถือหน่วยลงทุนชนิดจ่ายเงินปันผล (Class D) จะได้รับเงินปันผลเข้าบัญชีเงินฝากในวันที่ 7 ตุลาคมนี้  

จุดเด่นกองทุน PRINCIPAL iPROP ได้รับการจัดอันดับ 4 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563) โดยมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ที่จดทะเบียนในไทยและเอเชียแปซิฟิก เน้นทรัพย์สินที่มีคุณภาพดี มีรายได้จากค่าเช่าที่มั่นคง ภายใต้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom up Stock Selection เลือกลงทุนในหลักทรัพย์คุณภาพที่ราคาเหมาะสมและมีโอกาสเติบโต โดยมีทีมจัดการลงทุนในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนใน REITs และ Infrastructure Fund รวมทั้งความร่วมมือกับทีมจัดการลงทุนระดับภูมิภาค  ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ จากภาพรวมอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกได้รับผลระทบจากโรคระบาด COVID-19 ช่วยเพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุนใน REITs และ Infrastructure Fund ประกอบกับการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล  เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดดีมานด์ใน REITs โดยเฉพาะ REITs ที่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอีคอมเมิรซ์ โลจิสติกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงในช่วงที่ผ่านมากลุ่ม REITs และ Infrastructure Fund ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังคง Laggard เนื่องจากราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหุ้นกลุ่มอื่นๆ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ดังนั้นจึงมองว่าเป็นโอกาสลงทุนในกองทุน PRINCIPAL iPROP ในจังหวะที่ราคาของ REIT มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ถือเป็นโอกาสเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดี ในราคาที่ถูก ซึ่งมองในระยะยาวมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  หรือผู้สนับสนุนการขายฯ หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02 686 9595  www.principal.th ท่านสามารถเปิดบัญชีและทำรายการผ่าน Principal TH Mobile App ดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play และ https://www.principal.th/th/principalTH.html 

โปรดศึกษาเงื่อนไขการจ่ายเงินปันผลและการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ บริษัทจัดการจะพิจารณาอัตราการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและการจ่ายเงินปันผลข้างต้น ณ วันที่จ่ายจริง ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับน้อยกว่าหรือมากกว่า อัตราประมาณการที่แจ้งไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุน ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียน (XD Date) เป็นต้นไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและเงินปันผลที่จะจ่ายในครั้งนี้

Political News