สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

มูลนิธิซิตี้ จับมือคีนัน และ พอช.โชว์ความสำเร็จ“โครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน”

มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เผยความสำเร็จการดำเนินโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน” หลังสร้างผู้นำชุมชนให้มีความรู้เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคล และสามารถให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่สมาชิกชุมชน พร้อมทั้งต่อยอดให้สามารถเขียนข้อเสนอโครงการและบริหารโครงการด้านการเงินที่ออกแบบให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสมาชิกชุมชนให้มีศักยภาพทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

มร. ทีบอร์ พานดิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจากมูลนิธิซิตี้ เปิดเผยว่า “จากข้อมูลแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประมาณ 5.84 ล้านครัวเรือน จากจำนวน 21 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไทย เป็นผู้มีรายได้น้อยและไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของตัวเอง ซึ่งพบว่าปัญหาหลักด้านการเงิน คือ การขาดความรู้เรื่องการบริหารจัดการทางการเงิน ทำให้สมาชิกชุมชนประสบกับปัญหารายจ่ายสูงกว่ารายรับและมีภาระหนี้สิน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกในชุมชนดังกล่าวต้องได้รับความรู้ด้านการเงิน ตั้งแต่การวางแผนการเงินในระดับครัวเรือน อาทิ การจดบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่ายครัวเรือน การลดรายจ่าย การออมเงิน การเพิ่มรายได้ ไปจนถึงการมีผู้นำชุมชนที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับสมาชิกและเป็นที่ปรึกษาทางการเงินชุมชน เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงินของสมาชิกชุมชนให้มีวินัยการเงินและกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งในระยะยาว”

 “มูลนิธิซิตี้ มีพันธกิจในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยในชุมชนทั่วโลก มูลนิธิฯ ได้จับมือกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ในการริเริ่มโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน” ขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างเสริมความรู้และวินัยทางการเงินที่ดีในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่านการให้ความรู้ด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมเรื่องการกำหนดเป้าหมายทางการเงิน การบริหารค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การออมเงิน และการบริหารจัดการหนี้สิน สำหรับสมาชิกและผู้นำชุมชนกว่า 49 ชุมชนในจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการฯ ดังกล่าว ได้ดำเนินงานต่อเนื่องจนครบ 3 ปีครึ่ง และได้บรรลุวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาชุมชนเป้าหมายให้สามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาวได้สำเร็จ ทั้งยังได้สร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ทั้งชุมชน หน่วยงานธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในการเผยแพร่ความรู้เรื่องทางการเงินไปยังเครือข่ายชุมชนอื่น ๆ ให้มีความมั่นคงทางการเงิน”

 “สำหรับโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ปีที่ 3 มูลนิธิซิตี้ได้ร่วมมือกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จัดกิจกรรมการประกวดโครงการทางด้านการเงินชุมชนขึ้น โดยให้ผู้นำชุมชนมีโอกาสได้นำเสนอแนวคิดและที่มาที่ไปของโครงการฯ รวมทั้งวัตถุประสงค์ แผนการดำเนินกิจกรรม ตัวชี้วัด และผลที่คาดว่าจะได้รับ จากโครงการฯ โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกโครงการที่มีความโดดเด่นจำนวน 17 โครงการ เพื่อมอบงบประมาณสนับสนุน 30,000 บาทต่อโครงการ ในการจัดทำโครงการให้เกิดขึ้นจริงในชุมชน และคัดเลือก 6 โครงการต้นแบบ เพื่อมอบงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมอีกจำนวน 390,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายผลไปสู่สมาชิกในชุมชนเพิ่มเติม” มร. ทีบอร์ พานดิ กล่าว

ด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ได้ร่วมกับมูลนิธิซิตี้ และ พอช. ดำเนินโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน” มาเป็นระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยมีผู้นำชุมชนจำนวน 226 คน และสมาชิกชุมชนจำนวน 2,032 คน จาก 49 ชุมชน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา ได้เข้าร่วมการอบรมเรื่องการบริหารจัดการการเงินกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ซึ่งผลความสำเร็จโครงการฯ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านการเงินที่ดีขึ้น โดยผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 23% ซึ่งวัดผลจากแบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม และสมาชิกชุมชนกว่า 90% มีการออมอย่างสม่ำเสมอ และกว่า 57% มีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเป็นประจำ ตามลำดับ”

 “หลังจากการดำเนินงานโครงการฯ ในปีที่ 1 และ 2 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจให้แก่สมาชิกและผู้นำชุมชนเกี่ยวกับการบริหารการเงินส่วนบุคคล ปลูกฝังนิสัยการออม การใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการหนี้ครัวเรือน รวมถึงการสร้างผู้นำชุมชนให้สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่และขยายผลให้กับสมาชิกในชุมชนต่อได้ ในปีที่ 3 ทางมูลนิธิซิตี้และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จึงได้ยกระดับการดำเนินงานไปสู่การพัฒนาศักยภาพของผู้นำชุมชนให้มีความรู้ด้านการพัฒนาและบริหารโครงการในการสร้างอาชีพและต่อยอดความรู้ทางด้านการเงินภายในชุมชนต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินของแต่ละชุมชนได้อย่างแท้จริง ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการฯ ที่ช่วยสร้างรายได้ในครัวเรือน ลดภาระหนี้สิน และเพิ่มเงินออมให้แก่สมาชิกชุมชน”

 “ตัวอย่างชุมชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ปีที่ 3” ได้แก่ สหกรณ์เคหสถานบ่อฝรั่งริมน้ำพัฒนา จำกัด หรือ ชุมชนบ่อฝรั่ง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ 5 ชุมชนรอบบึงบางซื่อมาอาศัยอยู่ร่วมกันบนที่ดินขนาด 8 ไร่ และมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 250 ครัวเรือน ซึ่งนอกจากผู้นำและสมาชิกชุมชนจะได้รับการอบรมเรื่องการบริหารจัดการการเงินแล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังได้จัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเล่าเรื่องราวผลิตภัณฑ์ชุมชน และการตลาดออนไลน์ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ออร์แกนิกแบรนด์บ้านบ่อฝรั่ง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกในชุมชนนำออกไปจำหน่ายในวงกว้าง พร้อมกับมีแผนที่จะวางจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ในราคาที่ถูกกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ผลจากการดำเนินโครงการสร้างอาชีพและการบริหารการเงินส่วนบุคคลทำให้สมาชิกในชุมชนนี้มีการออมเงินเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 56% เมื่อเทียบกับก่อนดำเนินโครงการฯ”

 “มูลนิธิคีนันแห่งเอเซียเชื่อมั่นว่า ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิซิตี้และพอช. การดำเนินงานโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะสามารถช่วยบรรเทาภาวะหนี้ครัวเรือนให้กับหลายชุมชนได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินที่ดีให้แก่สมาชิกชุมชน ให้รู้จักเก็บออม สร้างอาชีพของตัวเอง และหยุดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัว ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา การพนัน หรือการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังมีส่วนทำให้สมาชิกในหลายชุมชนหันมาเห็นคุณค่าและศักยภาพในตนเอง เคารพตัวเอง และมีความหวังในชีวิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายหลังจากจบโครงการ  ผู้นำชุมชนยังคงนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องให้แก่สมาชิกในชุมชนของตนเองและชุมชนใกล้เคียง รวมทั้งนำไปใช้ในการสร้างแผนพัฒนาชุมชนของตัวเอง ให้เกิดเป็นระเบียบปฏิบัติและกติกาภายในสังคมของชุมชนต่อไป อีกทั้ง พอช. ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนชุมชนในการสร้างที่อยู่อาศัยและมีเครือข่ายชุมชนภายใต้การดูแลอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,658 ชุมชน สามารถนำโมเดลการพัฒนาชุมชนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของมูลนิธิซิตี้และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซียไปต่อยอดและขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป” นายปิยะบุตร กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ซิตี้แบงก์”ชี้ภาคธุรกิจต้องการดิจิทัลโซลูชันด้านการเงิน-การค้า เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

“ซิตี้แบงก์”ประกาศแต่งตั้ง นฤมล จิวังกูร ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซิตี้แบงก์ประเทศไทย

ซิตี้แบงก์ ฉลองครบรอบ 21 ปี บัตรเครดิตซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส จัดเต็มดีลสุดปัง

ซิตี้แบงก์ จับมือ การบินไทย และไทยสมายล์ ส่งแคมเปญ Happy Vacay ชวนพักร้อนออกเดินทางกันให้แฮปปี้

บัตรเครดิตซิตี้ ส่งโปรครบครันจัดเต็มทั้งกิน ดื่ม ช้อป สำหรับนักเดินทาง

บัตรเครดิต ซิตี้ เมอร์เซเดส ร่วมฉลอง 3 ปี ส่งแคมเปญมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านให้แก่สมาชิกบัตร ตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 65

Political News