สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

COVID-19ส่งผลไตรมาสแรกที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ลดลง30% ใกล้เคียงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานสถานการณ์โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2563 พบว่า มีจำนวน 68 โครงการ ลดลงจากช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 (YoY) ร้อยละ 40.4 มีจำนวนหน่วย 15,932 หน่วย ลดลง YoY ร้อยละ 29.6 ซึ่งเป็นการเปิดขายโครงการใหม่ที่น้อยที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และมีการเปิดขายโครงการใหม่เพียง 67 โครงการ 15,858 หน่วย

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า โครงการเปิดขายใหม่ในไตรมาสนี้ แบ่งออกเป็น โครงการอาคารชุด 23 โครงการ 7,111 หน่วย และโครงการบ้านจัดสรร 45 โครงการ 8,821 หน่วย โดยจำนวนหน่วยอาคารชุด ลดลงมากถึงร้อยละ 42.9 ส่วนบ้านจัดสรร มีจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2558 – 2562) ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยจะเปิดขายเฉลี่ยไตรมาสละ 116 โครงการ  28,490 หน่วย จะเห็นได้ว่า ในไตรมาสนี้ โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเกือบครึ่ง โดยจำนวนโครงการต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 41.4 และจำนวนหน่วยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ร้อยละ 44.1

โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ ในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 15,932 หน่วย เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Companies) จำนวน 12,206 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 76.6 และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Non-Listed Companies) จำนวน 3,726 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 23.4

 โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Companies) จำนวน 12,206 หน่วย จะเห็นได้ว่าเป็นโครงการอาคารชุด 5,016 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 24.4 แต่โครงการบ้านจัดสรรมี 7,190 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3

ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Non-Listed Companies) จำนวน 3,726 หน่วย พบว่า มีจำนวนลดลงทั้งโครงการอาคารชุดและบ้านจัดสรร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโครงการอาคารชุดมีจำนวน 2,095 หน่วย ลดลงร้อยละ 64.0 และโครงการบ้านจัดสรรมีจำนวน 1,631 หน่วย ลดลงร้อยละ 65.9

โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ ไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 15,932 หน่วย เมื่อแยกตามระดับราคา ที่มีการเปิดขายมากที่สุด 3 อันดับแรก พบว่า อันดับแรก เปิดขายในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาทมากที่สุด มีจำนวน 5,970 หน่วย มีสัดส่วนร้อยละ 37.5 ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์  อันดับสอง ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีจำนวน 3,586 หน่วย มีสัดส่วนร้อยละ 22.5 ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์ และ อันดับ 3 ระดับราคา 1.51 – 2.00 ล้านบาท มีจำนวน 2,035 หน่วย มีสัดส่วนร้อยละ 12.8 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารชุด

โครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 7,111 หน่วย เมื่อแยกตามที่ตั้งโครงการ พบว่า โซนที่มีการเปิดขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด มีจำนวน 1,653 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ร้อยละ 57.0 ส่วนใหญ่เป็นอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (เตาปูน-ท่าพระ) ถนนจรัญสนิทวงศ์ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการในปี 2562 2) โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีจำนวน 978 หน่วย เพิ่มขึ้นจากที่ไม่มีการเปิดขายใหม่ในช่วงเดียวกันของปีก่อน 3) โซนเมืองนนทุบรี – ปากเกร็ด มีจำนวน 921 หน่วย ลดลงร้อยละ 38.1  4) โซนบางซื่อ- ดุสิต มีจำนวน 710 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.1 และโซนสุขุมวิท มีการเปิดขายใหม่จำนวน 609 หน่วย ลดลงร้อยละ 68.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ จำนวน 8,821 หน่วย พบว่า โซนที่มีการเปิดขายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีจำนวน 1,976 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งไม่มีโครงการเปิดขายใหม่เลย 2) โซนหลักสี่-ดอนเมือง-สายไหม-บางเขน มีจำนวน 1,087 หน่วย เพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีการเปิดขายใหม่เพียง 330 หน่วย 3) โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีจำนวน 923 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 4) โซนคลองสามวา-มีนบุรี-หนองจอก-ลาดกระบัง มีจำนวน 874 หน่วย ลดลงร้อยละ 2.6 และ 5) โซนลำลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ มีจำนวน 715 หน่วย ลดลงร้อยละ 31.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

Political News