สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

LPN จัดโปรแรงจับมือShopeeดีเดย์วันที่ 5 เดือน 5 ส่งตรง Voucher 55 บาท แลกรับส่วนลด 70,000 บาท

LPN ผนึกพันธมิตร Shopee เอาใจลูกค้าห้องชุดพร้อมอยู่ จัดโปรแรงต่อเนื่องผ่านแคมเปญ “LPN Connect x Shopee 5.5 Brands Festival” วันที่ 5 เดือน 5 เพียงซื้อบัตรกำนัลจองซื้อห้องชุด 55 บาท ผ่านแอพพลิเคชั่น Shopee นำไปยืนยันสิทธิในวัน “จองซื้อ-ทำสัญญา” ห้องชุด LPN 8 ทำเลทอง โอนสิทธิ ภายในวันที่ 30 มิ.ย. รับส่วนลดทันทีสูงสุด 70,000 บาทต่อยูนิตต่อหนึ่งสิทธิ 

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัส COVID-19 ยังคงสร้างความเสียหายให้แก่ทุกภาคธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและตึกสูงก็ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลง แต่บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ไม่เคยหยุดคิดในการเดินหน้าแผนการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าห้องชุด หรือคอนโดมีเนียมพร้อมอยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะได้รับห้องชุดที่มีคุณภาพแล้ว ยังได้รับราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ (Affordable Price) ในสถานการณ์ขณะนี้ 

โดย นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ยืนยันว่า LPN ยังคงจับมือกับพันธมิตรอย่าง Shopee ส่งผ่านแคมเปญ “LPN Connect x Shopee 5.5 Brands Festival” เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่กำลังมองหาหรือต้องการห้องชุดพร้อมอยู่อาศัย โดยการใช้บัตรกำนัล หรือ Voucher ที่จำหน่ายผ่าน Shopee นำไปใช้เป็นส่วนลดพิเศษเพื่อซื้อห้องชุดของ LPN 

“วันที่ 5 เดือน 5 (พฤษภาคม) นี้ LPN เตรียมพร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับทุกท่าน เพียงซื้อ Voucher จากร้าน LPN Connect  บนแอพพลิเคชั่น Shopee ในราคา 55 บาท เพื่อเป็นการจองซื้อห้องชุด ซึ่ง Voucher ดังกล่าว ลูกค้าสามารถนำไปเป็นหลักฐานการยืนยันสิทธิขอรับส่วนลดในการซื้อห้องชุดของ LPN ทั้งหมด 8 โครงการ ซึ่งจะได้รับส่วนลดตั้งแต่ 30,000 บาทและสูงสุดถึง 70,000 บาทต่อยูนิต เมื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563 นี้” นายโอภาส กล่าว 

บัตรกำนัลดังกล่าว ลูกค้าสามารถนำมาแสดงสิทธิในวันที่จองซื้อห้องชุด 1 ยูนิต ได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขการยืนยันสิทธิขอรับส่วนลดจากบัตรกำนัลดังกล่าวจะมีผลเมื่อลูกค้าทำการจองซื้อ ทำสัญญา ชำระเงิน และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ครอบคลุม 8 โครงการ ได้แก่ 

  1. โครงการลุมพินี ซีวิว ชะอำ อาคาร A และอาคาร B
  2. โครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 อาคาร E 2
  3. โครงการลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว อาคาร B1
  4. โครงการลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 อาคาร C และ D
  5. โครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76-แบริ่ง สเตชั่น (2) อาคาร A
  6. โครงการลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร อาคาร D
  7. โครงการลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2 อาคาร A
  8. โครงการลุมพินี เพลส พระราม 3 -ริเวอร์ไรน์

โดยราคาขายห้องชุดของทั้ง 8 โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่าง 790,000-2,260,000 บาทต่อยูนิต ซึ่งส่วนลดเป็นไปตามสัดส่วนราคาของห้องชุดดังกล่าว สูงสุดที่ 70,000 บาท

ด้านนางสาวอากาธา โซห์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ช้อปปี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ LPN ในฐานะพันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของ   ช้อปปี้ที่ต้องการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดั่งเดิมสามารถขยายธุรกิจมาสู่โลกอีคอมเมิร์ซ อีกทั้ง ยังสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มประสิทธิภาพจากความสามารถในการเข้าถึงฐานผู้ใช้งานทั่วทั้งประเทศของช้อปปี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการประกาศพันธมิตรอย่างเป็นทางการในแคมเปญ Shopee 5.5 Brands Festival ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 เดือน 5 (พฤษภาคม) นี้ พิเศษสำหรับลูกค้า 20 ยูนิตแรกที่ทำการซื้อ Voucher และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563 รับทันที 3,000 Shopee Coins โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีของทั้งสองพันธมิตร จนนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือต่อไปในอนาคต”

สำหรับ การขายผ่าน Shopee ถือว่าเป็นการขายห้องชุดผ่านออนไลน์ เพิ่มความสะดวกต่อการซื้อของลูกค้าซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงลูกค้าเข้า Application Shopee และศึกษาสินค้า พร้อมดูรายละเอียดส่วนลดของแต่ละโครงการตามภาพประกอบ จากร้าน LPN Connect  จากนั้นกดปุ่มซื้อสินค้า กดชำระเงิน ต่อมายืนยันคำสั่งซื้อสินค้า โดยระบบจะทำการเลือกวิธีจัดส่งอัตโนมัติ เลือกวิธีการชำระเงิน และตรวจสอบข้อมูล และกดสั่งซื้อสินค้า และสุดท้ายก็ทำการบันทึกภาพเพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้า เพื่อใช้เป็นเอกสารยืนยันในวันจองที่โครงการ กรณีที่ลูกค้าผิดเงื่อนไขตามสัญญาที่กำหนดไว้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการมอบสิทธิประโยชน์ตาม Voucher นี้ ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรณีเกิดข้อโต้แย้งในการพิจารณามอบสิทธิประโยชน์ตาม Voucher นี้ ให้ถือดุลพินิจของบริษัทเป็นที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-689-6888

นายโอภาสกล่าวด้วยว่า “สำหรับแคมเปญนี้ บริษัทคัดเลือกห้องชุดมาจาก 8 โครงการ ซึ่งราคาพื้นฐานของลุมพินีเป็นราคาที่ "พอดี" อยู่แล้ว คือ ราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับทำเลและคุณภาพห้องชุด เพราะเราเน้น “ความพอดีที่ดีกว่า” เพื่อมอบประโยชน์ให้กับลูกค้า และในยุคที่โควิด-19 ระบาด การไปตระเวนชมโครงการต่างๆ คงเป็นเรื่องไม่สะดวกสำหรับลูกค้า ดังนั้น 8 โครงการที่นำมาเสนอนี้ น่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ที่มองหาห้องชุดในราคาพิเศษ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกชมห้องชุดในโครงการอื่นๆ ของลุมพินี ได้จาก www.lpn.co.th หรือ Facebook : Condo Lumpini อีกด้วย และเมื่อสนใจโครงการใดสามารถนัดเข้าชมโครงการได้”

สำหรับจุดแข็งของ LPN คือการบริหารหลังการขายภายใต้กลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” ที่ให้การดูแลอย่างดีแก่การอยู่อาศัยของเจ้าของร่วม ซึ่งได้รับคำยืนยันจากลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ที่บอกปากต่อปาก (Word of Mouth) ไปยังเพื่อนหรือครอบครัวตนเองจนได้รับการยอมรับจากสาธารณชน นอกจากนี้ ในภาวะวิกฤตไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาด นายโอภาส ยืนยันว่า บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือ LPN ซึ่งเป็นผู้ดูแลห้องชุดหลังการขาย ได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเจ้าของร่วมอย่างใกล้ชิดและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในโครงการได้อย่างดี "เรามีโครงการในการดูแลถึง 180 โครงการ มีลูกบ้านติดโควิด-19 มาจากที่อื่นบ้าง แต่ไม่มีการแพร่ระบาดในโครงการเพิ่มเติม ปัจจุบันผู้ติดเชื้อรักษาหายกลับมาอยู่ร่วมในชุมชนแล้วและสมัครใจบริจาคพลาสมาเพื่อสภากาชาดนำไปรักษาผู้ป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด-19"

“ผมขอให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่าอาคารชุดของ LPN มีความคุ้มค่า และการพักอาศัยในอาคารชุดของ LPN จะยังคงปลอดภัยอย่างแน่นอน ด้วยมาตรการที่ LPP วางหมากไว้” นายโอภาสย้ำ

Political News