สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

เอ็มเอฟซีส่ง 2 กองทุน SSF สนับสนุนการออมระยะยาวเพื่ออนาคต แนะหุ้นไทยน่าลงทุน

เอ็มเอฟซี สนับสนุนส่งเสริมการออมระยะยาว ออกกองทุน Super Savings Fund หรือกองทุนรวมเพื่อการออม โดยเป็นกองทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมระยะยาวมากขึ้น เน้นการจัดการออมเงิน หลังเกษียณตามสมัยของสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเติบโต และกองทุนนี้ยังสามารถนำเงินที่ลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับร้อยละ 0.75 ทำให้การลงทุนในตราสารทุน, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) มีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Yield) สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นสู่ภาวะปกติในอีก 1-2 ปีข้างหน้าแล้ว จะส่งผลให้ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายสดาวุธ เตชะอุบล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 ส่งผลให้ราคาหุ้นในปัจจุบันปรับตัวลดลง จนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานเป็นอย่างมาก จึงถือได้ว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่สนใจในการลงทุนระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากการประกาศซื้อหุ้นคืนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยรัฐบาลได้มีมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางนโยบายการเงิน (Monetary Policy) และรัฐบาลได้ใช้นโยบายการคลัง (Fiscal Policy) ในส่วนของงบลงทุน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อที่จะช่วยพยุงภาพรวมของเศรษฐกิจตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป โดยจะส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจไทยปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี และฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังได้ เอ็มเอฟซีจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน พร้อมเปิดตัว  2 กองทุน SSF เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจออมเงินลงทุนในระยะยาว และยังสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ได้แก่

1.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หุ้นไทย เพื่อการออม หรือ MFC Thai Equity Super Savings Fund (MTQS)  เป็นกองทุนรวมตราสารทุน ลงทุนในตราทุน และ/หรือหน่วยลงทุนโดยมี net exposure ในตราสาร โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนนี้จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (MTQ-SSFX) และชนิดเพื่อการออม (MTQ-SSF)

2.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไทยเฟล็กซิเบิล เพื่อการออม หรือ MFC Thai Flexible Super Savings Fund (MTFS) เป็นกองทุนรวมผสม ลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หน่วย infra หน่วย property REITs กองทุนรวมอีทีเอฟ เงินฝาก และ อื่นๆ กองทุนนี้จะมีให้เลือก 2 รูปแบบเช่นกัน ได้แก่ ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (MTF-SSFX) และชนิดเพื่อการออม (MTF-SSF)

โดยทั้งสองกองทุน MTQS และ MTFS ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาด SET และหรือตลาด MAI โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV และอาจลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ไม่เกิน 25% ของ NAV โดยจะไม่ลงทุนใน Derivatives และ Structured Note ทั้งนี้มีนโยบายจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ต้องถือครองหน่วยลงทุนกองทุน SSF และSSFX เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยนับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน สำหรับการลงทุนในกองทุน SSFX สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนกองทุน SSF แบบปกติ)  เริ่มซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2563 นี้ แตกต่างจากกองทุน SSF ที่สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ในปี 2563-2567 โดยกองทุน SSF สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกับวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนรวมเพื่อการเกษียณอื่นๆ แล้วสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปีภาษี

กองทุนเปิด SSF และ SSFX เหมาะสำหรับผู้สนใจลงทุนในระยะยาว  มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เริ่มต้นวัยทำงานและประชาชนทั่วไปที่ต้องการเริ่มสะสมเงินเพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และต้องการลดหย่อนภาษี โดยสามารถเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนต่าง ๆ ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้เพียง 1,000 บาท โดยสามารถซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ

โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ที่ลงทุนในกองทุน SSF และ SSFX รวมไปถึงกองทุนในกลุ่ม RMF เฉพาะกองทุน M-VALUE M-PROPRMF และ HI-DIV RMF ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย.63  โดยมียอดเงินลงทุนสะสมครบทุกๆ 50,000 บาท รับทันทีหน่วยลงทุน MM-GOV มูลค่า 100 บาท ตามเงื่อนไขที่บลจ.กำหนด

ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมก่อนการตัดสินใจลงทุน สำหรับ ผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014-16 สาขาเชียงใหม่ โทร. 0-5321-8480-82 สาขาระยอง โทร. 033-100-340 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25 หรือที่ www.mfcfund.com

Political News