สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เผยไตรมาส 1 ปี 62 กำไรสุทธิ 1,006 ล้านบาท

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เริ่มต้นไตรมาส 1 ปี 2562/63 ด้วยผลประกอบการที่โดดเด่น โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานสูงถึง 9,086 ล้าน เพิ่มขึ้น 5,996 ล้านบาท หรือ 194% จากปีก่อนหน้า และโชว์กำไรสุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จำนวน 1,006 ล้านบาท เติบโตถึง 534 ล้านบาท หรือ 113% จากปีก่อน เป็นผลมาจากความรุดหน้าของงานก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางที่เป็นไปตามแผน รวมถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงินและธุรกิจขนส่ง ภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.วีจีไอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย

นายกวิน กาญจนพาสน์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่น่าพึงพอใจและเติบโตทะลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยบีทีเอส กรุ๊ปฯ ตั้งเป้ากำไรสุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ 5 ปีจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี จากการวางรากฐานที่ดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเรายังคาดว่าจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ที่จะเปิดให้ประมูลในอนาคต

โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2562/63 (งวดเดือนเมษายน – มิถุนายน 2562) ถือเป็นการเริ่มต้นปีงบประมาณที่โดดเด่นสำหรับธุรกิจระบบขนส่งมวลชน โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 7,208 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 298% หรือ 5,395 ล้านบาท จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง จำนวน 4,335 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการติดตั้งงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าภายใต้สัญญาสัมปทานสำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้และเหนือ โดยเพิ่มขึ้น 444 ล้านบาท หรือ 48% จากปีก่อน เป็น 1,370 ล้านบาท

นอกจากนี้ การเปิดให้บริการโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง - เคหะฯ) ทั้งสายตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เติบโตขึ้น 84% หรือ 378 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 830 ล้านบาท

ในด้านธุรกิจสื่อโฆษณายังคงสร้างผลงานที่โดดเด่นเป็นที่น่าพอใจตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ โดย บมจ.วีจีไอ (VGI) สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 25% หรือ 274 ล้านบาท จากปีก่อน เป็น 1,392 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริการด้านดิจิทัล อันเป็นผลมาจากการควบรวมงบการเงินของกลุ่ม Trans.Ad (ผู้ให้บริการด้านงานระบบแสดงสื่อมัลติมีเดียแบบครบวงจร) รวมไปถึงการเติบโตของรายได้ในแรบบิท กรุ๊ป กำไรสุทธิของธุรกิจสื่อโฆษณาในไตรมาสนี้ จำนวน 304 ล้านบาท เป็นผลมาจากความร่วมมือทางด้าน synergy ภายในกลุ่ม VGI ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากวีจีไอยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านการขยายไปในธุรกิจใกล้เคียง การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการปรับเปลี่ยนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสนอแก่ลูกค้า

นอกจากนี้ จากการผนึกกำลังกับ PlanB ในการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ จะทำให้ วีจีไอเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวต่อไป

“จากการที่รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดนับเป็นเรื่องดี เนื่องจากสอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจระบบขนส่งมวลชนเป็นหลัก โดยเราคาดว่าการพัฒนาธุรกิจดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจอื่นๆ ที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการ นอกจากนี้ จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เรามีในธุรกิจระบบขนส่งมวลชนทางรางตลอด 19 ปีที่ผ่านมา เราจึงมีความพร้อมที่จะขยายโอกาสและศึกษาความเป็นไปได้ครอบคลุมไปยังระบบขนส่งมวลชนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักของเราที่มุ่งหวังจะเป็นผู้นำและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองในกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เราไม่เพียงแต่มุ่งหวังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองเท่านั้น แต่ยังคงมองหาโอกาสในการเพิ่มมูลค่าและให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของเราอีกด้วย”

ด้านนายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน ให้ข้อมูลว่า ธุรกิจขนส่งมวลชนจะยังเป็นธุรกิจหลักในการเติบโตของทั้งรายได้และกำไร และในส่วนของรัฐบาลชุดใหม่ยังคงมุ่งเน้นการขยายโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง บีทีเอส กรุ๊ปฯ เองนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงข่ายดังกล่าว โดยในขณะนี้เรากำลังพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง รวมถึงโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียว การเปิดให้บริการของทั้ง 3 โครงการดังกล่าวภายในปี 2564 จะทำให้จำนวนระยะทางในการให้บริการของเราขยายตัวประมาณ 3 เท่าจากระยะทางปัจจุบัน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เปิดทดลองการให้บริการสถานีแรกของโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (N9: ห้าแยกลาดพร้าว) และยังคาดว่าจะเปิดให้บริการอีก 4 สถานี (ถึงสถานี N13: สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ภายในปีนี้

“เราเชื่อมั่นว่าการเปิดให้บริการทั้ง 5 สถานีดังกล่าวในปีงบประมาณนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าสายหลักของเราได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงจะช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงได้อย่างมีนัยสำคัญ”

ทั้งนี้ โครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือทั้งสายจากหมอชิตถึงคูคต (ระยะทาง 17.8 กม., 16 สถานี) คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563” นายดาเนียล กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรบบิท โฮลดิ้งส์ กลุ่ม บีทีเอส กรุ๊ปฯ ตั้ง อนันดาฯ และ ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด เสริมแกร่ง เปิดตัวโครงการเวิลด์คลาสเรสซิเดนซ์ THE RESIDENCES 38

แรบบิท โฮลดิ้งส์ กลุ่ม บีทีเอส กรุ๊ปฯ ผนึกอนันดาฯ เปิดตัวเวิลด์คลาสเรสซิเดนซ์ THE RESIDENCES 38

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เตรียมออกหุ้นกู้เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไปจำนวน 4 รุ่น ดอกเบี้ยระหว่าง 3.60 – 4.95%

Robinhood จับมือ Rabbit Rewards ส่งแคมเปญนั่ง Robinhood Ride แลกเที่ยว BTS

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เตรียมออก ‘หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน’ เสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในไทย

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ร่วมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ชวนลูกค้าสนุกกับกิจกรรม “ดูใบเฟิร์นเพลินทุกขบวน”

Political News