สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

CKPower โตหยุดไม่อยู่ ไตรมาสแรกปีนี้รายได้เพิ่มกว่า 30% ย้ำตั้งเป้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 68

นายธนวัฒน์ตรีวิศวเวทย์กรรมการผู้จัดการบริษัทซีเคพาวเวอร์จำกัด(มหาชน) หรือCKP เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในปี2562 ว่าCKPower มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า30% จากช่วงเดียวกันของปี2561 เป็น2,418 ล้านบาทโดยในช่วงไตรมาสแรกของปี2561 มีรายได้1,829 ล้านบาทนับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น589 ล้านบาทส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของCKPower เพิ่มขึ้นเป็น139.4 ล้านบาทนับเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นกว่า10 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนเป็นการย้ำประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นแสดงถึงการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าหลักที่CKPower บริหารงานอยู่ทั้ง3 ประเภทได้แก่โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม2 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมบางปะอินโคเจนเนอเรชั่นและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บางเขนชัย

ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรของCKPower เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี2562 มาจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม2 มีปริมาณเพิ่มขึ้น110 ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง30% ประกอบกับการปรับค่ารับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพิ่มขึ้น8% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม2562 อีกทั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านCKPower เริ่มจ่ายไฟโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาขนาดกำลังการผลิต0.9 เมกะวัตต์  ให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนแล้วจำนวน1 โครงการจากจำนวนทั้งสิ้น5 โครงการและยังมีโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีก1 โครงการรวมกำลังการผลิต6.75 เมกะวัตต์  ซึ่งได้เริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาสที่3 ปี2561 คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ครบทั้งหมดในปี2562 นี้ขณะเดียวกันโครงการไฟฟ้าพลังงานระบบความร้อนร่วมโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น(BIC) มีการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน5-6%

นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่าขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีมีความคืบหน้ากว่า98% ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่กฟผ.อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยเป็นการจ่ายไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด175 เมกะวัตต์เครื่องแรกจากจำนวนทั้งหมด7 เครื่องซึ่งCKPower คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่2 และ3 ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนได้ภายในไตรมาส4 ของปี2562 นี้

จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่23 เมษายน2562 คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการซื้อหุ้นบริษัทเซาท์อีสท์เอเชียเอนเนอร์จีจำกัดเพิ่มในสัดส่วนร้อยละ5.33 เป็นมูลค่ารวม681.5 ล้านบาทซึ่งจะส่งผลให้CKPower เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเซาท์อีสท์เอเชียเอนเนอร์จีจำกัดจากร้อยละ56.0 เป็นร้อยละ61.3 ของทุนจดทะเบียนและเพิ่มสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมในโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม2 จากร้อยละ42.0 เป็นร้อยละ46.0 โดยคาดว่าจะดำเนินการเข้าทำสัญญาและดำเนินการต่างๆแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน2562

ในส่วนของสถานะทางการเงินเมื่อวันที่7 มีนาคม2562 บริษัทไฟฟ้าน้ำงึม2 จำกัดได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่1/2562 จำนวนรวม6,000 ล้านบาทซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดีโดยบริษัททริสเรทติ้งจำกัดจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ที่ระดับ“A” และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่นๆทั้งหมดของบริษัทไฟฟ้าน้ำงึม2 จำกัดเป็นระดับ“A” และมีแนวโน้มอันดับเครดิต“คงที่” โดยบริษัทไฟฟ้าน้ำงึม2 จำกัดได้นำเงินจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่เหลือทั้งหมดเพื่อลดต้นทุนและเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มCKPower

“จากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้รวมถึงกิจกรรมการดำเนินงานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของกลุ่มCKPower ในการส่งเสริมผลประกอบการในอนาคตให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศและในภูมิภาคอาเซียนและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน(Sustainable) ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม(Social and Environmental Responsibility) ซึ่งCKPower จะยังคงมุ่งหาโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่5,000 เมกะวัตต์ภายในปี2568” นายธนวัฒน์กล่าว

ข้อมูลเกี่ยวกับCKPower : บริษัทฯประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ3 ประเภทจำนวน13 โครงการรวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่2,167 เมกะวัตต์ประกอบด้วย  โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ2 โครงการภายใต้บริษัทไฟฟ้าน้ำงึม2 จำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้น42% (ถือผ่านบริษัทเซาท์อีสท์เอเชียเอนเนอร์จีจำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง615 เมกะวัตต์และบริษัทไซยะบุรีพาวเวอร์จำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้น37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง1,285 เมกะวัตต์โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจำนวน2 โครงการภายใต้บริษัทบางปะอินโคเจนเนอเรชั่นจำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้นอยู่65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง238 เมกะวัตต์และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์9 โครงการภายใต้บริษัทบางเขนชัยจำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้น100% จำนวน7 โครงการขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง15 เมกะวัตต์ภายใต้บริษัทเชียงรายโซล่าร์จำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้น30% จำนวน1 โครงการขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง8 เมกะวัตต์และภายใต้บริษัทนครราชสีมาโซล่าร์จำกัดซึ่งบริษัทฯถือหุ้น30% จำนวน1 โครงการขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง6 เมกะวัตต์

Political News