วรพชร วงษ์เจริญ หรือ นุ่ม อายุ 38 ปีจบการศึกษาปริญญาโท วิศวกรรมซอฟ์แวร์ เป็นมนุษย์ไอทีทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มา 14 ปี มีความสุขกับการทำงาน แต่สุดท้ายต้องลาออกจากงานเพราะออฟฟิศซินโดรม ... ทำให้ได้คิดว่า”สุขภาพ”สำคัญที่สุด จึงหันมาเริ่มต้นการเป็นเจ้านายตัวเอง
หลังออกจากงาน ปีแรกก็ดูแลกิจการร้านกาแฟสด ธุรกิจของครอบครัว แต่ร้านกาแฟสดในจันทบุรีมีมากมาย จึงคิดสร้างอัตลักษณ์ให้กับร้าน มะปี๊ด หรือภาคกลางเรียกว่า ส้มจี๊ด เป็นพืชผักสวนครัวปลูกประจำบ้านของคนเมืองจันท์ที่นำมาใช้ทำเมนูได้สารพัด และครอบครัวเธอก็ทำสวนเกษตรอินทรีย์ (ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติโป่งแรด อ.เมือง จ.จันทบุรี) นุ่มจึงเลือกทำ "น้ำมะปี๊ด" มาเป็นเมนูเด่นประจำร้าน “มาจันท์ต้องห้ามพลาด เมนูน้ำมะปี๊ดผสมน้ำผึ้ง เปรี้ยวอมกลิ่นส้ม เอกลักษณ์จันทบุรี"
จากจุดเริ่มต้นน้ำมะปี๊ดใส่แก้วขาย ลูกค้าติดใจต้องการซื้อกลับไปต่างจังหวัดหรือไกลๆ นุ่มจึงเริ่มศึกษาวิธีการทำน้ำมะปี๊ดบรรจุขวดแบบไม่แต่งสี ไม่เติมกลิ่น ไม่ใส่สารกันเสีย โดยเข้าร่วมโครงการ Start up ของสสว. ได้ความรู้เรื่องกรรมวิธีพาสเจอร์ไรซ์และสเตอริไรซ์ จากอาจารย์ดร.กรรณิการ์ เจริญสุข มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จันทบุรี และสนับสนุนการทดลองจนสำเร็จ จากนั้นได้ส่งน้ำมะปี๊ดตรวจสารปนเปื้อนกับ Central Lab Thai โดยใช้คูปองมูลค่า 5,000 บาทจากโครงการของสสว. นั่นเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ได้รับผลการตรวจว่า "น้ำมะปี๊ดปลอดภัยจากสารปนเปื้อน" น้ำมะปี๊ดบรรจุขวดส่งผลให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นแบบ 100%
จากที่นุ่มนำมะปี๊ด ซึ่งเป็นพืชรองที่ออกผลผลิตได้ทั้งปี แต่เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกแค่เป็นพืชเสริมกินใช้ในบ้าน มาทำเป็นน้ำมะปี๊ดบรรจุขวด ต่อมานุ่มจึงเกิดความคิดที่จะนำมะปี๊ดมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์ให้ได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนได้ทั้งปี จึงเริ่มศึกษาเรื่องประโยชน์ของมะปี๊ดจากงานวิจัยต่างๆ รวบรวมข้อมูลจนตกผลึกเกิดความคิดได้ไอเดียในการนำมะปี๊ดมาทำเป็นเครื่องสำอางค์ ช่วงแรกๆ มีแต่คนขำ เพราะไม่มีใครเขาทำกัน เพราะคนจันท์มีแต่เก็บมะปี๊ดมาทำอาหาร เช่น ตำน้ำพริก ทำกับข้าว ทำน้ำดื่ม
ไอเดียบวกกับองค์ความรู้ นุ่มเริ่มนำมะปี๊ดมาทำสบู่ โลชั่น เครื่องสำอางค์ ... ปีที่ 2 หลังจากนุ่มลาออกจากงาน เธอได้สร้างแบรนด์ "แรบบิทจันท์" ขึ้น และสร้างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ด้วยการใช้มะปี๊ดจากสวนที่ปลอดสารเคมีเท่านั้น ซึ่งเธอบอกว่า แนวความคิดในการสร้างแบรนด์และอัตลักษณ์ได้มาจากการเก็บเกี่ยวความรู้จากการอบรมกับสสว.เช่นเคย
แบรนด์แรบบิทจันท์เริ่มต้นจากสบู่ โลชั่น แชมพู ตามพื้นฐานความรู้เศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ จนได้รับการคัดเลือกเป็น 1 SME Provincial Champions 2018 ของจังหวัดจันทบุรี จากนั้นนุ่มได้รับความรู้เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และโอกาสทางการตลาดโดยทีมที่ปรึกษาอาจารย์ดร.จิราภรณ์ ทองตัน และคุณสุภาวดี บุญงอก แล้ว จึงเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ Sleeping Mask,เจลว่านหางจระเข้,คอนดิชันเนอร์ และยังได้ความรู้เชิงลึกใหม่ๆที่นุ่มจดบันทึกไว้เพื่อจัดทำแผนทดลองและวิจัยทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคต โดยผลิตภัณฑ์สบู่จากมะปี๊ดแรบบิทจันท์ที่รับการพัฒนาแล้วได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์แจกแขกวีไอพีและบุคคลทั่วไปในพิธีเปิดงาน Biofach & Natural Expo Southeast Asia 2018 วันที่ 12 ก.ค.2561 ที่เมืองทองธานี รวมทั้งได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าวางจำหน่ายที่ร้านค้าไร่สุวรรณข้าวโพดหวาน (ศูนย์วิจัยข้าวโพดหวานภายใต้โครงการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) จ.นครราชสีมา อีกด้วย
จากจุดเริ่มต้นที่ได้รับพัฒนาโดยสสว. แรบบิทจันท์เป็นกระต่ายที่มีความรู้และมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์จากมะปี๊ดมากยิ่งขึ้น จึงกล้าที่จะก้าวเข้าไปสมัครกิจกรรม SME Start up Award ครั้งที่ 2 ประจำปี 2561 และได้รับรางวัล SME Startup Award ในปีนี้
นับจากวันที่นุ่มคิดทำเครื่องสำอางจากมะปี๊ด ที่ใครๆก็พากันขำเรา จนถึงวันนี้ ผ่านมา 9 เดือน ความสำเร็จของ "แรบบิทจันท์" ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากมะปี๊ดสวนปลอดสารเจ้าแรกของจันทบุรี สามารถขายได้จริง มีลูกค้าที่ซื้อซ้ำผลิตภัณฑ์ และยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่นำมะปี๊ดมาขายให้เพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่น/เดือน
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะโชคดี แต่เกิดจากการที่เราวางแผน ตั้งเป้าหมาย ลงมือทำ และที่สำคัญมีสสว.เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการช่วยสนับสนุนทั้งความรู้ การให้คำปรึกษา การเป็นผู้ช่วย ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ แพคเกจจิ้ง การตลาด จึงทำให้สินค้าและแบรนด์แรบบิทจันท์ประสบความสำเร็จได้ในวันนี้