สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

บสย.เร่งอนุมัติค้ำฯ สินเชื่อ SMEsจ่อคิวรอเงินกู้ เผย SMEs รายเล็ก วงเงินกู้ต่ำ 5 ล้านบาท มาแรง

บสย.ขานรับดีมานด์  SMEs จ่อคิว รอเงินกู้  หลังเปิดใช้โครงการค้ำประกันสิ นเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7) วงเงินค้ำฯ 150,000 ล้านบาท  โดยเริ่มแรกมี 7 ธนาคารร่วมโครงการ  เริ่มส่งคำขอค้ำฯ เพิ่มต่อเนื่อง  พบยอดค้ำฯ วงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาทมาแรงในกลุ่ม SMEs รายเล็ก ขณะที่โครงการค้ำประกันสินเชื่ อรายย่อยสร้างอาชีพ วงเงินค้ำฯ 15,000 ล้านบาท มี  3 ธนาคารร่วมโครงการ

นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุ ตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการสินเชื่อ และการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ในไตรมาส 3 และ 4 มีสัญญาณที่ดี หลังจากรัฐบาล ประกาศตัวเลขการเติ บโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 2 เติบโตสูงกว่า 4.5% โดยในส่วน บสย. ซึ่งมุ่งเน้นภารกิจ ด้านการค้ำประกันสินเชื่อ ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน  พบว่า การขอใช้วงเงินค้ำประกันสินเชื่ อ บสย.ของธนาคารและผู้ประกอบการ SMEs มีสัญญาณที่ดี  โดยขณะนี้มี 7ธนาคารเข้าร่วมโครงการ และได้เริ่มส่งคำขอค้ำประกันสิ นเชื่อ  รวมกว่า  250 ราย วงเงิน 700 ล้านบาท ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7)

“ขณะนี้ บสย.ได้รับคำขอค้ำประกันสินเชื่ อ (ณ 22 ส.ค.) ให้กลุ่มผู้ประกอบการนิติบุ คคลบัญชีเล่มเดียว  จำนวน  35 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ กลุ่ม SMEs ทั่วไป จำนวน  42 ราย อนุมัติแล้ว 17 ราย และกลุ่ม SMEs รายเล็ก จำนวน 153 ราย อนุมัติแล้ว 58 ราย  ผ่าน 7 ธนาคารที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1.ธนาคารทหารไทย  2.ธนาคารกสิกรไทย 3.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย 4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อมแห่ งประเทศไทย 5.ธนาคารทิสโก้ 6.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย 7.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้ าแห่งประเทศไทย” นายวิเชษฐ กล่าว

ทั้งนี้ ยังพบว่า กลุ่มผู้ประกอบการที่มาแรงและคึ กคัก ในการขอวงเงินค้ำประกันสินเชื่ อกับ บสย. คือกลุ่ม SMEs รายเล็ก ที่ขอกู้เงินจากธนาคาร วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อราย ซึ่งได้ยื่นคำขอเข้ามาถึง 153 ราย เป็นสถิติสูงสุดหลังการเปิดใช้ โครงการ

นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการค้ำประกันสิ นเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ (MICRO3) วงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย ได้รับการตอบรับจากธนาคารขอเข้ าร่วมโครงการแล้วจำนวน 3 ธนาคาร ได้แก่ 1.ธนาคารทิสโก้ 2.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อมแห่ งประเทศไทย และ  3.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย  ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการที่ช่ วยให้ผู้ประกอบการ SMEs รายย่อยที่ต้องการวงเงินสินเชื่ อไม่สูงมาก มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อภายใต้ โครงการดังกล่าว สอดคล้องและเป็ นไปตามนโยบายและแผนงานของ บสย.คือการขยายฐานผู้ ประกอบการทุกกลุ่มให้สามารถเข้ าถึงสินเชื่อและการค้ำประกันสิ นเชื่อ

Political News