สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

BGC เตรียมขาย IPO 194,444,000หุ้น หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง ลุยสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว

บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BG Container Glass Public Company Limited) หรือ BGC เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 194,444,000 หุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง คาดนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แ ห่งประเทศไทยภายในปีนี้ พร้อมชูศักยภาพเป็นผู้ผลิตบรรจุ ภัณฑ์แก้วที่มีกำลังการผลิตมากที่ สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิต 3,095 ตันต่อวัน และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้า งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วแห่งใ หม่ที่ จังหวัดราชบุรี อีก 400 ตันต่อวัน ใช้งบลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็น 3,495 ตันต่อวัน รองรับดีมานด์ในไทยและต่างประเท ศ คาดเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิช ย์ในปีนี้

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจาก บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลั กทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลก ารเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุ นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาต เสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งเ ป็นที่เรียบร้อย โดย บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 194,444,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละไม่เกิน 28 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรีย กชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งมีการจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิ น 19,444,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายในค รั้งนี้ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัทฯ โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้ง นี้เพื่อชำระเงินกู้ยืมสำหรับกา รขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วแ ห่งใหม่ในจังหวัดราชบุรี  และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิ จการ ทั้งนี้ หลังจากที่ สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แ ห่งประเทศไทยภายในปีนี้

ทั้งนี้ บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส และบริษัทย่อย เป็นผู้ผลิต จัดจำหน่าย ส่งออก และนำเข้าบรรจุภัณฑ์แก้ว โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วมา กที่สุดในประเทศไทย (อ้างอิงจากรายงาน GlobalData Plc วันที่ 2 ก.พ. 2561) ด้วยกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 3,095 ตันต่อวันในปัจจุบัน เนื่องจากบรรจุภัณฑ์แก้วใช้กันอ ย่างแพร่หลาย แต่มีผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศไทย เพียงไม่กี่ราย ธุรกิจของบมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จึงถือเป็นธุรกิจที่มีความมั่นค ง และมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “BGC”) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัทฯ”) ผู้ผลิต จัดจำหน่าย ส่งออก และนำเข้าบรรจุภัณฑ์แก้ว กล่าวว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์จะก้าวสู่การเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก้ วและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพในภู มิภาคอาเซียน โดย BGC มีความสามารถเชิงการผลิตและจำหน่ ายบรรจุภัณฑ์แก้วที่หลากหลาย ซึ่งปัจจุบันแบ่งบรรจุภัณฑ์แก้ว ที่ผลิตออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ขวดเบียร์ 2.ขวดเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ 3.ขวดอาหาร 4.ขวดยาและยาฆ่าแมลง และ 5.ขวดผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เครื่องดื่มที่ให้พลังงาน สุรา ฯลฯ

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 BGC มีบริษัทย่อยที่ผลิตและจำหน่ายบ รรจุภัณฑ์แก้ว 6 บริษัท มีเตาหลอมแก้วรวมทั้งสิ้น 10 เตา กำลังการผลิตรวม 3,095 ตันต่อวัน และปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนิ นการก่อสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณ ฑ์แก้วและเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ที่ จังหวัดราชบุรีอีก 1 เตา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ าทั้งในและต่างประเทศ ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิ ชย์ภายในปีนี้ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอี ก 400 ตันต่อวัน รวมเป็นประมาณ 3,495 ตันต่อวัน โดยโรงงานแห่งใหม่ดังกล่าวได้รั บการออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีที่ทั นสมัย เช่น นำระบบสื่อสารข้อมูลการผลิตแบบอ อนไลน์เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภา พการผลิต และสามารถผลิตสินค้าในปริมาณมาก เพื่อให้ได้ต้นทุนการผลิตต่อหน่ วยต่ำและมีความยืดหยุ่นในการปรั บเปลี่ยนสายการผลิตอีกด้วย

กรรมการผู้จัดการ BGC กล่าวว่า บริษัทฯ มีโรงงานผลิตกระจายตัวอยู่ในหลา ยพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำ คัญ ๆ เช่น จังหวัดปทุมธานี ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี ส่งผลดีต่อการจัดหาแหล่งวัตถุดิ บที่มีต้นทุนต่ำ การบริหารต้นทุนโลจิสติกส์ และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้น ที่ต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นผู้จำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ วเพียงรายเดียวให้แก่กลุ่มบุญรอ ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มเบีย ร์และโซดารายใหญ่ของประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิ ตบรรจุภัณฑ์แก้ว จะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติ บโตของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอาห ารและเครื่องดื่มทั้งในประเทศแล ะต่างประเทศ รวมถึงเทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวด ล้อม เนื่องจากสามารถนำผลิตภัณฑ์ที่ใ ช้แล้วกลับมารีไซเคิลได้ทั้งหมด และยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีข้อจำ กัดในการเข้าแข่งขันสูง (High barrier to entry) เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนจำนวน มาก

นางสาวศิริกุล มังกรกนก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักงานการเงินและบัญชี BGC กล่าวว่าบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีเมื่อเทีย บกับผลการดำเนินงานในปีก่อนหน้า โดยในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2561) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 270.1 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ มีมีกำไรสุทธิ 121.7 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 122.0 โดยมีสาเหตุหลักจากต้นทุนคงที่ล ดลงจากการย้ายฐานการผลิตจากโรงง านระยองที่ปิดตัวลงไปยังเตาที่ มีประสิทธิภาพการดำเนินงานดีขึ้ น และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่ างมีประสิทธิภาพ

Political News