สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

เรนาสโซ มอเตอร์ เผยโฉม Lamborghini Revueltoซูเปอร์สปอร์ตปลั๊กอินไฮบริด V12 ราคา 47.49 ล้านบาท

   บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย เปิดตัว Lamborghini Revuelto รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกของ    แบรนด์อย่างเป็นทางการราคา 47.49 ล้านบาท พร้อมร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปีของแบรนด์ งานครั้งนี้ยังจัดขึ้นเพื่อยกย่องมรดกด้านนวัตกรรมของเครื่องยนต์ระดับตำนานของลัมโบร์กินี โดยภายในงานได้พาแขกผู้มีเกียรติทุกท่านย้อนรอยไปชมความสำเร็จของเหล่าตำนานเครื่องยนต์ V12 ไม่ว่าจะเป็น Diablo, Murcielago 40th Anniversary, Aventador SV LP750-4 Coupe, Aventador LP700-4 Coupe, Aventador SVJ 63 Roadster และ Aventador Ultimae Coupe ที่แบรนด์รวบรวมมาจัดแสดง ร่วมด้วยโชว์เคสชิ้นพิเศษในรูปแบบ Generative Art ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีสไตล์และทรงพลัง

   Lamborghini Revuelto สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านสมรรถนะ ภาพลักษณ์แนวสปอร์ต และประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน นวัตกรรมการออกแบบรถยนต์ ระบบอากาศพลศาสตร์ประสิทธิภาพสูง และคอนเซ็ปต์ใหม่ของการใช้โครงคาร์บอนไฟเบอร์ มอบพละกำลังมากถึง 1,015 CV ที่ผสานพลังระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยทำงานร่วมกับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ดีไซน์ใหม่ ซึ่งถูกเปิดตัวในรถยนต์ลัมโบร์กินี 12 สูบรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

   ระบบส่งกำลังประสานพลังของขุมพลังแรงสูง ทั้งจากเครื่องยนต์สันดาปรุ่นใหม่ที่มีค่ากำลังจำเพาะถึง 128 CV ต่อลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Axial Flux Motor ด้านหน้า 2 ตัว ซึ่งมอบอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ดีเยี่ยม ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Radial Flux Electric Motor อีก 1 ตัว ซึ่งติดตั้งด้านบนชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีดดีไซน์ใหม่ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในรถยนต์ลัมโบร์กินี 12 สูบรุ่นนี้ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังสูง (4,500 วัตต์ต่อกิโลกรัม) ซึ่งสามารถรองรับโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า 100%

   วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งผลิตขึ้นด้วยศาสตร์และศิลป์ขั้นสูงในโรงงานที่ Sant’Agata Bolognese ถือเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างหลักของรถยนต์รุ่นใหม่นี้ ซึ่งไม่เพียงใช้กับส่วนโครง Monofuselage และเฟรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบหลายส่วนของตัวถัง ด้วยคอนเซ็ปต์การใช้คาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุน้ำหนักเบาที่ครอบคลุมตัวรถเกือบทั้งหมด เมื่อบวกกับขุมพลังเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง จึงมอบอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ 1.75 kg/CV ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี

   Revuelto ผสานขุมพลังเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดในเซกเมนต์ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 350 กม./ชม. โดยประสิทธิภาพพลวัตขั้นสูงนี้เกิดจากการใช้ระบบกระจายแรงบิดไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าได้ 100% เพื่อสร้างความมั่นใจว่า Revuelto คือรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในการขับขี่ทุกสถานการณ์ ทั้งการโลดแล่นในสนามแข่งและการเดินทางในชีวิตประจำวันบนท้องถนน     

   นายฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอ Revuelto ให้แก่แฟน ๆ ในประเทศไทย เพราะ Revuelto ได้นำเราเข้าสู่ยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฮบริด และยังเป็นก้าวสำคัญในการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของลัมโบร์กินี ซึ่งผมเชื่อมั่นว่ารถยนต์รุ่นนี้จะสร้างนิยามใหม่ให้แบรนด์ของเราได้ก้าวไปอีกขั้น ตลอดจนร่วมปฏิวัติโลกยานยนต์ด้วยเครื่องยนต์รุ่น V12 อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา”

   นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “ในโอกาสพิเศษครบรอบ 60 ปี แบรนด์ลัมโบร์กินีในปีนี้ ลัมโบร์กินีกำลังจะพาเราข้ามผ่านพรมแดนของประวัติศาสตร์และอนาคต โดยการเปิดตัว Lamborghini Revuelto ซูเปอร์สปอร์ตปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูงรุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งถือเป็นจุดผ่านสำคัญทางเทคโนโลยีของลัมโบร์กินี เพื่อข้ามพ้นขีดจำกัดของสมรรถนะ แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์อันเป็นตัวตนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของลัมโบร์กินี ซึ่งเรามั่นใจว่า ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การขับขี่และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”

   นวัตกรรมการออกแบบรถยนต์ Revuelto นำอนาคตแห่งการออกแบบรถยนต์ของลัมโบร์กินีสู่ท้องถนนในวันนี้ โดยยังคงยึดมั่นในดีไซน์ระดับ   เอ็กซ์คลูซีฟของลัมโบร์กินีอย่างไม่เปลี่ยนแปลง หากสื่อสารด้วยสไตล์การออกแบบแนวใหม่ในทุกรายละเอียด รวมถึงการเชื่อมโยงเครื่องยนต์ V12 ระดับตำนานอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ ตลอดจนการออกแบบสัดส่วนใหม่ เพื่อเปิดประตูสู่อนาคตใหม่ของลัมโบร์กินี

   การเปิดตัว Revuelto ทำให้ลัมโบร์กินีนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ร่วมกันระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารได้อย่างเต็มอารมณ์ โดยรู้สึกเสมือนเป็นนักบินและนักบินร่วม โดยสามารถมองเห็นข้อมูลการขับขี่เดียวกันบนจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วบนฝั่งผู้ขับและจอขนาด 9.1 นิ้วที่ติดตั้งบนแผงหน้าปัดด้านผู้โดยสาร อีกทั้ง Revuelto ยังนำเสนอฟังก์ชั่น “การปัดหน้าจอ” สู่รถยนต์ลัมโบร์กินี ช่วยให้นักบินและนักบินร่วมสามารถเลื่อนแอปพลิเคชันและข้อมูลจากจอแสดงผลกลางไปยังจอด้านข้างได้เหมือนกับการปัดหน้าจอสมาร์ตโฟน จอดิจิทัลทั้ง 3 จอนี้ไม่เพียงมอบความโปร่งโล่งในห้องโดยสารอย่างมีสไตล์ด้วยการขจัดปุ่มกดที่ดูรกตาส่วนใหญ่ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ยังมอบฟีเจอร์ใหม่อีกมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถมีสมาธิจดจ่อกับการขับได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเมื่ออยู่ในรถแข่ง

   การออกแบบพวงมาลัยได้แรงบันดาลใจมาจากโลกมอเตอร์สปอร์ตและประสบการณ์จากรุ่น Essenza SCV12 โดยติดตั้งโรเตอร์สี่ตัวบนก้านพวงมาลัยเพื่อใช้เลือกทั้งโหมดการขับขี่และระบบยกตัวรถและการปรับระดับสปอยเลอร์หลัง กล่าวได้ว่า การออกแบบห้องโดยสารและระบบควบคุมถูกจัดมาให้ใช้งานง่ายเพื่อมอบสัมผัสที่เป็นธรรมชาติในแบบฉบับของลัมโบร์กินี โดยปุ่มต่าง ๆ บนพวงมาลัยจะใช้เพื่อเปิดปิดสัญญาณเลี้ยวและควบคุมของฟังก์ชั่นต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับสามารถจับพวงมาลัยได้อย่างมั่นคงตลอดเวลาในขณะขับขี่

   Revuelto คือโมเดลการผลิตรถยนต์ลัมโบร์กินีที่มอบทางเลือกในการปรับแต่งรูปลักษณ์ได้มากที่สุด โดยการเลือกสีรถของ Revuelto มีให้เลือกมากถึง 400 เฉดสีเลยทีเดียว ร่วมกับออปชันการปรับแต่งได้อีกมากมายเพื่อรังสรรค์รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตในฝันของลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างตรงใจมากที่สุด ซึ่งจิตวิญญาณแห่งรถยนต์สปอร์ตที่ยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการใช้ระบบไฮบริดในทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสีที่นำมาใช้ทั้งหมดนั้นเป็นแบบสูตรน้ำ (Water-based) มากกว่าสูตรน้ำมันเคมี (Solvent-based)

   “แนวคิดความยั่งยืน” ยังครอบคลุมถึงทุกส่วนของการตกแต่งห้องโดยสาร ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการหลีกเลี่ยงการสร้างขยะสู่สิ่งแวดล้อม และได้กลายเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกบริษัทในเครือลัมโบร์กินี แนวคิดนี้ยังรวมไปถึงการใช้วัสดุหุ้มเบาะ การทำเบาะหนังสไตล์ลัมโบร์กินี (Lamborghini Selleria) ซึ่งใช้เครื่องจักรรุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของงานฝีมือและกระบวนการเย็บที่ยังคงใช้แรงงานช่างฝีมือ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่ทรงคุณค่าของลัมโบร์กินี

   งานออกแบบห้องโดยสารนำเสนอความโดดเด่นจากการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งส่วนแผงหน้าปัด ช่องแอร์รูปหกเหลี่ยม รวมถึงกรอบแผงหน้าปัดและช่องแอร์กลาง งานหุ้มเบาะผสานการใช้หนังเนื้อละเอียดเข้ากับวัสดุสิ่งทอน้ำหนักเบาพิเศษ Corsa-Tex ในผ้าไมโครไฟเบอร์ของ Dinamica® ซึ่งเป็นโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลด้วยกระบวนการผลิตแบบน้ำ ลูกค้ายังสามารถตกแต่งห้องโดยสารได้ตามต้องการ โดยเลือกผสมทั้งวัสดุหนังและ Corsa-Tex หรือเลือกวัสดุที่ต้องการเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 70 เฉดสี

   ชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์มีขนาดกะทัดรัดมาก โดยยาวเพียง 560 มม. กว้าง 750 มม. และสูง 580 มม. เท่านั้น น้ำหนักรวมเพียง 193 กิโลกรัม ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนพื้นฐานใหม่ในโครงสร้างรถยนต์ไฮบริดด้วย นั่นคือมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหลังซึ่งมีกำลังไฟสูงสุด 110 กิโลวัตต์และแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร

   มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านบนชุดเกียร์ทำหน้าที่สองด้าน ทั้งเป็นมอเตอร์สตาร์ตและเจเนอเรเตอร์ รวมถึงจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหน้าผ่านทางแบตเตอรี่ในท่อระบบส่งกำลัง เมื่อเปลี่ยนมาใช้โหมดไฟฟ้าทั้งหมด มอเตอร์นี้ยังส่งกำลังให้กับล้อหลัง ซึ่งนอกจากเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ยังทำให้การขับเคลื่อนสี่ล้อมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์

   การปรับฟังก์ชั่นการทำงานให้สอดคล้องตามโหมดการขับขี่นี้เกิดจากการกลไกแบบแยกส่วนที่ควบคุมผ่านตัวประสานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์  โดยในขณะส่งกำลังเสริมให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน V12 มอเตอร์ไฟฟ้านี้จะอยู่ในตำแหน่ง P3 โดยแยกตัวจากชุดเกียร์ และจะเคลื่อนไปอยู่ตำแหน่ง P2 เพื่อชาร์จไฟแก่แบตเตอรี่ในขณะวิ่งด้วยความเร็วต่ำและจอดนิ่ง จึงทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ตด้วย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Political News