สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ทดสอบขับ“นิสสัน อัลเมร่า ใหม่”คอมแพค ซีดาน จิ๋ว แจ๋ว กว้าง ทรงพลัง ประหยัด เทคโนโลยี เกินตัว

โดย....สิริวิทย์ บ่อจันทึก

ผมมีโอกาสได้ ทดสอบขับ “นิสสัน อัลเมร่า ใหม่” คอมแพค ซีดาน รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่สนามปทุมธานีสปีดเวย์ “นิสสัน อัลเมร่า ใหม่” คอมแพค ซีดาน  อัจฉริยะสุดปราดเปรียวที่ใส่เทคโนโลยี เกินตัว ยกระดับความปลอดภัย ขณะเดียวกันยังคงรักษาจุดเด่นของอัลเมร่า คือความ กว้างขวาง และให้พลังที่น่าประทับใจภายใต้คอนเซป “แรงจริง จัดให้” ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมสูงมามากกว่าทศวรรษ กับยอดขายนับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบันกว่า 240,000 คัน 

ก่อนจับพวงมาลัยทดสอบในสนาม เรามาดูดีไซน์ทั้งด้านนอกและด้านใน เริ่มต้น ถือว่าโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นแบบ Next-generation V-motion ที่สะท้อนแนวคิดใหม่ในการออกแบบรถคอมแพค  เทรนด์การออกแบบรถยนต์ในอนาคตของนิสสัน โดย V-motion ไม่ได้จำกัดเฉพาะกระจังหน้าเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าทั้งหมดให้โดดเด่นขึ้น ทุกรายละเอียดตั้งแต่กระจังหน้า โลโก้ใหม่ กระโปรงหน้า ไปจนถึงเสา A-pillar มีความชัดเจนมากขึ้น ทรงพลัง ปราดเปรียวสื่อถึงความมีสไตล์

 แนวคิดการออกแบบ V-motion ยังคงลื่นไหลต่อเนื่องไปยังเส้นกรอบหลังคา ด้านข้าง และด้านหลัง สะดุดตาแม้จะมองจากระยะไกล 

นอกจากนี้ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังได้เพิ่มความน่าสนใจด้วยสีภายนอกใหม่ สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl) ที่ดูทันสมัย ซ่อนความพิเศษ โดยเปลี่ยนเฉดไปได้มากมายขึ้นกับช่วงเวลาและมุมที่มอง จากเงาเฉดสีม่วงในขณะที่แสงน้อยไปจนโทนสีฟ้ามากขึ้นในที่ที่มีแสงแดดจัด  และเมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเป็นสีทึบ แต่เมื่อเข้ามาใกล้จะมองเห็นเงาประกายมุกที่ซ่อนอยู่ นอกจากนี้ในช่วงที่เฉดสีดูเข้มขึ้น จะช่วยเน้นรูปลักษณ์ของรถที่ออกแนวสปอร์ต โฉบเฉี่ยวว่องไว

ขณะเดียวกัน นิสสัน ได้จัดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษให้เลือกเพื่อเสริมบุคลิกและสไตล์ได้อย่างตรงใจ ได้แก่  1) ชุดแต่ง Ignite Package ที่เพิ่มลุคสปอร์ตด้วยชุดสเกิร์ตหน้า ชุดสเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง สีเดียวกับตัวถังตัดกับสีดำเงาพรีเมียม เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังสีดำเงาพรีเมียมทรง Duck tail 2) ชุดแต่ง Iconic Package เติมความเท่ด้วยกระจังหน้าสีดำ ชุดตกแต่งหลังคาทรงครีบฉลาม ชุดแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และคิ้วบันไดสเตนเลส  และ 3) ชุดแต่ง Ultimate Package ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมเต็มพิกัด มาพร้อมชุดแต่งภายนอกด้วยชุดสเกิร์ตด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง พร้อมสปอยเลอร์หลังทรง Ducktail  กระจังหน้าและชุดตกแต่งหลังคาทรงครีบฉลามสีดำ พร้อมด้วยชุดตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ต ได้แก่ ชุดแป้นวางเท้าแบบสปอร์ต พรมปูพื้น และคิ้วบันไดสเตนเลส   นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ Stylish Package ทั้งหมดนี้จะเติมความสปอร์ตและพรีเมียมภายในห้องโดยสารมากขึ้นด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่บริเวณแผงประตู และขอบประตูสีเงิน

โดยตั้งราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ให้เลือกตามความพอใจ มีดังนี้ Iconic Package11,900 บาท Ignite Package 19,990 บาท Ultimate Package  29,990 บาท

ส่วนภายในตัวรถ ยังมีการเพิ่มความทันสมัยกับการตกแต่งที่แผงคอนโซลหน้ารูปปีกที่สยายออก (gliding wing) และที่แผงประตูด้วยวัสดุสีน้ำเงินเข้ม เพิ่มความเก๋ ทันสมัย เสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับห้องโดยสาร นั่งสบาย ฟังก์ชันครบ ดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger** เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)  และกุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่ทันสมัย 

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังคงรักษาจุดเด่นเรื่องความสมดุลของพื้นที่ใช้สอย สำหรับผู้โดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ห้องโดยสารมีความกว้างขวาง มีพื้นที่เข่าทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า และด้านหลังที่มีระยะห่างนั่งสบาย เบาะนั่งคู่หน้าพรีเมียมวัสดุ QUOLE MODURE ไม่สะสมความร้อนแม้ในการเดินทางไกล ส่วนที่เก็บสัมภาระทางด้านหลัง ออกแบบให้สามารถบรรจุสัมภาระชิ้นใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบาย 

นอกจากนี้ ยังมี NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุดจากนิสสัน รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android Auto  และ Apple CarPlay รวมทั้งยังสามารถใช้ระบบนำทางผ่าน Google Map ได้สบาย ๆ บนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเสียง และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ เพิ่มความสุนทรีย์ในทุกการเดินทาง เป็นการเชื่อมต่อไร้สายระหว่างผู้ขับขี่และรถผ่านสมาร์ทโฟน  เพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าบอกกับเราว่าใช่เลยนิสสัน YES! Nissan

ที่โดดเด่นเพิ่มขึ้นมาอีก คือ NissanConnect Services เชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชันอัจฉริยะนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมหรือสั่งการรถได้จากระยะไกล เช่น ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู   ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล  ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า ตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการบำรุงรักษาตามระยะ การเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด  การให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางและระยะเวลาที่ใช้รถ   และสั่งระบบแตรระยะไกล  ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัด  และ  My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหา และนำทางไปยังรถได้ในทันที และสามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ เมื่อสัญญาณกันขโมยทำงาน หรือเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด แอปพลิเคชันนี้จะแจ้งไปยังเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถจัดการได้ทันท่วงที  และสามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา และถือเป็นครั้งแรกของเซกเมนท์ที่มีการติดตั้งฟังก์ชั่น SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ใน 360° SAFETY SHIELD ปลอดภัยทุกการเดินทาง  ยังมาครบครัน ยกระดับมาตรฐานไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ที่แต่เดิมจะมีในรถรุ่นพรีเมียม  ได้แก่ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) นับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในเซกเมนท์คอมแพค         ซีดาน ทำให้เจ้าของรถทราบแรงดันลมยางแต่ละเส้น รวมทั้งเตือนเมื่อลมยางต่ำหรือสูงกว่ากำหนด  เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) จะปรับไฟหน้าจากไฟสูงเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีรถสวนมา   และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) ที่จะส่งสัญญาณเตือนด้วยไฟกะพริบและการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ

นอกจากนี้ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังคงมีเทคโนโลยีความปลอดภัย 360° SAFETY SHIELD ที่ให้การปกป้องเต็มพิกัดรอบคัน ได้แก่ เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ซึ่งจะเตือนเมื่อตรวจพบวัตถุกำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังขณะกำลังถอย  เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM) ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)  เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)  เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)  และเทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) 

สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้องสูงสุด ได้แก่ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)  ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย  เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) ที่ช่วยให้รถทรงตัวได้มั่นคงในทุกสภาพถนนและเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ  เทคโนโลยีเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS)  เทคโนโลยีกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution – EBD) และเทคโนโลยีเสริมแรงเบรก (Brake Assist)

ด้าน ขุมพลัง นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็วจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (flat torque) นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ในอัตรา 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

สำหรับ เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร นี้ ยังมีนวัตกรรมทางเทคนิคมากมาย เช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head   หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่การควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง Nissan GT-R ซึ่งเพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อน และการเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น  ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ อัตราเร่งที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และปลอดภัยเมื่อต้องเร่งแซง 

หลังทราบถึงรายละเอียดของการออกแบบทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร รวมทั้ง เทคโนโลยี ต่างๆ ได้เวลา ขับทอดสอบ แล้ว

สถานีการทดสอบ เริ่มตั้งแต่ ขับแบบสลาม หลบ ไพลอน ที่จัดวางไว้ เพื่อทดสอบสมรรถนะ ของการเข้าโค้ง หลบหลีกสิ่งกีดขวาง ความแม่นยำของพวงมาลัย ช่วงล่าง ซึ่งสถานี นี้ บอกได้เลยว่า นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ทำได้ดี คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ด้วยความเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก พวงมาลัย ตอบสนองดี แม่นยำ ที่สำคัญช่วงล่างแน่นหนึบ ทำให้ผู้ขับขี่เกิดความมั่นใจ

จากนั้น ต่อที่สถานี ใช่ความเร็ว และเข้าช่องไพลอน เพื่อพิสูจน์ สมรรถนะการขับทางตรง แล้วเลี้ยวกระทันหัน  เพื่อพิสูจน์ ช่วงล่าง และการเข้าโค้ง วงเลี้ยวแบบแคบๆ ซึ่งตรงนี้ ใช้ความเร็วได้ระดับหนึ่ง 60-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต้องบอกว่า ทำได้ดีเช่นกัน ไม่มีอาการโคงให้เห็น

ต่อด้วย สถานการณ์ทำความเร็วแบบยาวๆ และเข้าโค้ง เพื่อพิสูจน์ ถึงการทำความเร็ว โดยสามารถแตะคันเร่งทำความเร็วๆ ได้ในระดับ 120 กิโลเมตร ขึ้นไป ซึ่งสถานนีนี้ ได้พิสูจน์ ถึงความเร็ว และความแรง ได้รู้ถึงความเป็นเล็กพริกขี้หนูของ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ สมกับคอนเซ็ปต์ “แรงจริง จัดให้” และทำความเร็วได้แบบต่อเนื่องจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (flat torque) ไม่มีอาการหอน หรือ เสียงให้ตกใจ ซึ่งจะทำให้การขับระยะทางไกล ได้มั่นใจมากขึ้น

จากการขับในสนาม ต้องบอกว่า นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ คันนี้ ยังคงขับสนุก มั่นใจ น่าจะตอบโจทย์ ของคนที่ชอบรถคลาสเล็ก แต่กว้างขวาง โดยเฉพาะการใช้งานในเมือง เครื่องยนต์ 1 ลิตรเทอร์โบ ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด แถมประหยัดเป็นเลิศ ขณะที่เทคโนโลยี ใหม่ที่ให้มา ต้องบอกเกินตัว รถขนาดเล็ก

นิสสัน อัลเมร่าใหม่ วางราคาให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้น 549,000 บาท มีให้เลือก มี 4 รุ่นย่อย ได้แก่ E, EL, V และ VL  และมีสีตัวถังภายนอกทั้งแบบสีเดียวทั้งคัน (ทุกรุ่น) และสีทูโทน(เฉพาะรุ่น VL) ได้แก่ สีขาว สตอร์ม ไวท์   สีดำ แบล็ค สตาร์  และ สีเทา กัน เมทาลิค (ทุกรุ่น)  สีแดง เรเดียนท์ เรด สีน้ำเงิน ไนท์ บลู  (รุ่น VL, V, EL) สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (รุ่น VL และV)  และสีทูโทนสำหรับรุ่น VL ได้แก่ สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล  หลังคาสีดำเงา,   สีเทา กัน เมทาลิค หลังคาสีดำเงา,  และสีขาว สตอร์ม ไวท์ หลังคาสีดำเงา

โดย รุ่น E ราคา   549,000 บาท รุ่น EL 589,000 บาท รุ่น V 659,000 บาท  และรุ่น VL 699,000 บาท

พร้อมกันนี้ ยังได้เสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถในช่วงเปิดตัว จะได้รับสิทธิพิเศษครบครันให้เลือกตามที่ต้องการ ทั้งเงินดาวน์ 0% หรือ ผ่อนสบายๆ ต่อเดือนเริ่มต้น 5,977 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%  รวมถึงประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection (NPP) ระยะเวลา 1 ปี พร้อมส่วนลดเงินสด 10,000 บาทสำหรับลูกค้าเก่า และอนุมัติสินเชื่อใน 30 นาที  นอกจากนี้ นิสสันยังได้เตรียมแคมเปญการสื่อสารแบบ 360 องศาที่จะเน้นย้ำไฮไลต์ของอัลเมร่าใหม่ ตามสโลแกน “แรงจริง จัดให้” อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษในการใช้บริการ NissanConnect Services เป็นระยะเวลา 3 ปี* (ระยะเวลาของการให้บริการจะเริ่มในวันเริ่มต้นการรับประกัน) สำหรับรุ่นรถที่รองรับ  และต่ออายุสมาชิกก่อนสิ้นสุดระยะเวลารับบริการ เพื่อรับประโยชน์จากบริการได้อย่างต่อเนื่อง โดย สีเทา กัน เมทาลิค เพิ่ม 5,000 บาท สีขาว และ สีเทา เกรย์สกายเพิร์ล เพิ่ม 10,000 บาท และ สีหลังคาแบบทูโทนเพิ่ม 5,000 บาท จากสีตัวถัง

สนใจเป็นเจ้าของสามารถสัมผัส ทดลองขับที่โชว์รูมทั้ง 162 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

[email protected]

 

Political News