สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ขับ นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค ลุยภาคเหนือ พิสูจน์เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ไปได้ทุกที่ ปีนได้ทุกดอย

โดย...สิริวิทย์ บ่อจันทึก

ช่วงหน้าหนาวต้นเดือนธันวาคม อากาศเย็นสบาย แถมมีทะเลหมอกให้ได้ชม ผมจึงถือโอกาสนี้ ขับนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค รุ่นที่มีการไมเนอร์เชนจ์ จับแต่งหน้าทาปากให้มีความโฉบเฉี่ยบ เติมสเกิร์ต ด้านหน้าและหลัง ใส่สีทูโทน ให้ความทันสมัย และมองดูเป็นสปอร์ตยิ่งขึ้น

ในการขับรถเที่ยว และพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์ ครั้งนี้ ผมเลือกภาคเหนือ เป็นเป้าหมายแรก ด้วยนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค สีทูโทน ตัวรถสีเทา ตัดกับ หลังสีดำ ให้ความความรู้สึกขลังไปอีกแบบ แต่ก่อนเดินทาง เรามารู้จักกับ นิสสัน อัลเมร่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของนิสสันตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และได้รับรางวัลประเภทรถยนต์คอมแพคซีดานมาแล้วมากมาย ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัย และมีระบบเชื่อมต่อที่โดดเด่น

นอกจากนี้ยังประหยัดน้ำมัน และขับขี่ได้สนุกทุกเส้นทาง พร้อมทั้งมั่นใจเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน (360-degree Safety Shield)  ระบบอินโฟเทนเมนต์ NissanConnect สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto** และ Apple CarPlay เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันในมือถือผ่านจอเครื่องเสียงรถยนต์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX-IN พร้อมระบบนำทาง (Navigation System) ผ่าน Google Map และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) ให้ความสะดวกสบายและความสุนทรีย์ตลอดเส้นทาง  นิสสัน อัลเมร่า มาพร้อมพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง  นั่งสบาย ขับง่ายสะดวก ด้วยเบาะนั่งพรีเมียม “Quole Modure” ที่ไม่สะสมความร้อน ให้ความรู้สึกที่นั่งสบายตลอดการเดินทาง

สำหรับ คันที่ผมขับ คือ นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค” ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นพิเศษ แต่ยังคงเอกลักษณ์ในการเป็นรถยนต์คันเก่งสำหรับขับขี่ในเมืองที่นั่งสบาย ให้ความสะดวกเต็มที่  และเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งพิเศษที่สะท้อนสมรรถนะและความปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต

นิสสัน อัลเมเร่า สปอร์ตเทค ภายนอกมาในรูปลักษ์ที่สะดุดตาด้วยกระจังหน้าใหม่สีดำเงา มีโลโก้กลม ครอบแก้ววางอยู่ตรงกลาง ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สไตล์สปอร์ต ปลายท่อไอเสียแบบโครเมียม พร้อมโลโก้ Almera และ Sportech อยู่ซ้าย-ขวา ด้านท้ายรถ ภายในตกแต่งด้วยสีดำเดินด้ายสีเบอร์กันดี แป้นวางเท้าทรงสปอร์ต และ Ambient Light ใหม่เพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟ เบาะนั่ง Quole Modure ที่ไม่สะสมความร้อน นั่งสบายตลอดทุกการขับขี่ ที่สำคัญ นิสสัน อัลเมร่า ถือเป็นรถในคลาสเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง

ขณะที่ สมรรถนะโดดเด่น ประหยัดน้ำมัน การปกป้องที่เหนือระดับ และการเชื่อมต่อที่ราบรื่น  เครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มีกำลังสูงสุด 100 แรงม้า (Ps) แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็ว จากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (flat torque)   นอกจากนี้ยังประหยัดน้ำมัน และขับขี่ได้สนุกทุกเส้นทาง พร้อมทั้งมั่นใจเต็มพิกัดด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน (360-degree Safety Shield)  ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์ NissanConnect สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto* และ Apple CarPlay เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันในมือถือผ่านจอเครื่องเสียงรถยนต์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX-IN พร้อมระบบนำทาง (Navigation System) ผ่าน Google Map และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) ให้ความสะดวกสบายและความสุนทรีย์ตลอดเส้นทาง

หลังจากทราบรายละเอียดคร่าวๆ เรามาเริ่มขับรถเที่ยว ชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของภาคเหนือ พร้อมพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ โดยผมเริ่มออกเดินทางจากถนนสาทร ใจกลางกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดลำปาง ผ่านจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทาง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร และตาง ก่อนไป พักที่ จังหวัดลำปาง

สถานที่แรกในการขับ นิสสัน อัลเมร่า สปอรต์เทค ไปเที่ยวชม คือ อำเภอแม่ทะ โดยมีจัดหมายปลายทางที่ วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตำบล ป่าตัน อำเภอ แม่ทะ จังหวดลำปาง ห่าวจากตัวเมืองลำปางประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในปัจจุบัน สำหรับ ผู้ที่มาเยือนลำปาง ดินแดน ที่เต็มไปด้วยจุดท่องเที่ยว ที่วัดแห่งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงปากประตูวัดสามารถเดินทางขึ้นได้ 2 แบบคือ ด้วยรถ และเดินขึ้นบันไดประมาณ 600 ขั้น

เมือขึ้นถึงตัววัด สามารถเดินชมความวิจิตรตระการตาของพระอุโบสถ ลวดลายศิลปะแบบล้านร่วมสมัย กราบนนมัสการพระพุทธรูปในพระอุโบสถ พระธาตุ และที่พลาดไม่ได้ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ไดบุตซึ พระสีเขียวขนาดใหญ่ เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คล่าสุดของดอยพระฌาน ที่ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ประดิษฐานตระหง่านอยู่บนยอดเขา

นอกจาก นี้ ยังมีจัดชมวิวหน้าพระอุโปสถ บอกได้เลยว่า วิวหลักล้าน มองเห็นทุ่งนาเขียวขจีของชาวบ้าน เห็นลำน้ำแม่จาง แม่น้ำสายสำคัญของชาวแม่ทะ เทือกเขาน้อยใหญ่ที่โอบล้อมพื้นที่ลำปาง

หลังจากได้ชมวัดสวย พระธาตุดอยพระฌาน แล้ว ก็เดินทางต่อมุ่งหน้า สู่จังหวัดพระพะเยา โดยระยะทางจากตัวจังหวัดลำปาง ถึง พะเยา อยู่ที่ 131 กิโลเมตร ใช้เวลาขับประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ มีช่วงที่ต้องได้พิสูจน์สมรรถนะ นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค อย่างเต็มที่ เพราะช่วงเริ่มตั้งแต่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถึง อ.งาว จ.ลำปาง เป็นเส้นทางขึ้นเขาล้วนๆ ประมาณ 60 กิโลเมตร ลัดเลาะตามช่องเขา ผ่านศาลเจ้าพ่อประตูผา และอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ก่อนเข้าสู่ อ.งาว ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่สูง จากนั้น มู่งสู่ จ.พะเยา เส้นทางช่วงนี้ จะค่อยๆ ลงจากเขา และเข้าสู่ตัวเมืองพะเยา ผ่าน มหาวิทยาลัยพะเยา แห่งบ้านแม่กา ที่ในอดีตเป็นแค่ทางผ่าน แต่ตอนนี้ บรรยากาศคึกคักทั้งวัน ถือเป็นเมือง แห่งมหาวิทยาลัย

พักผ่อนริมฝั่งก๊วนพะเยา สักพัก ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง อ.เทิง จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ 80 กิเมตร ผ่าน อ.ภูกามยาว อ.ป่าแดด ก่อนเข้าสู่เขต อ.เทิง จ.เชียงราย ที่บ้านแม่ลอยไร่ จากนั้น เขาพักที่ ตัวอำเภอเทิง สำหรับ อ.เทิง ถือเป็นหนึ่งในอำเภอที่มีจุดขาย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยเฉพาะภูชี้ฟ้า สถานที่ยอดนิยมในการขึ้นไปสัมผัสทะเลหมอกยามเช้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวกับภาพวาดของศิลปินดัง

 ตั้งอยู่ที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย–ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ภูชี้ฟ้า" จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 ถึง 1,628 เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว

ดอยเอียน (Ian Mountain) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาผีปันน้ำ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สุดของจังหวัดเชียงราย บรรจบกับเหนือสุดของ จังหวัดพะเยา ห่าจากชายแดนไทย - ลาว ประมาณ 9 กิโลเมตร ของแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว

อีกหนึ่งแหล่งยอดนิยม คือไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์  ใน ต.งิ้ว ที่ซึ่งพัฒนา และก่อตั้งโดย ศิริวิมล กิตะพาณิชย์ กรรมการ บริษัท เซฟ ไลฟ์ โปรดักส์ จำกัด คนรุ่นใหม่ที่เรียนจบจากต่างประเทศ ดีกรีนักเรียนนอกนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

ผมมีโอกาสได้เข้าพักที่โรงแรมในอำเภอเทิง ซึ่งถือว่า อากาศในเดือนธันวาคม หนาวมากแห่งหนึ่งในประเทศไทย กลางคืนอยู่ที่ประมาณ 8 องศาเซลเซียส ตื่นเช้า สัมผัสทะเลหมอก ซึ่งลอยปกคลุมทั้งอำเภอ แถมไอหมอก ปลิวปะทะตัว แบบหาเจอได้ยากยิ่ง

ผ่านการดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้า จากนั้น เรามีมีจุดมุ่งหมายที่แลนด์มาร์คสำคัญของ อำเภอเทิง นั่น คืน วัดพระธาตุภูจอมจ้อ พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย วัดพระธาตุจอมจ้อ เป็นหนึ่งในพระธาตุ 9 จอม ตั้งอยู่ที่ ม.20 บ้านเวียงจอมจ้อ ตำบลเวียง อำเภอเทิง ห่างจากที่ว่าการอำเภอเทิงไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร การเดินทางขึ้นสู่ยอดภุจอมจ้อ แม้ไม่สูงมาก แต่ก็ค่อนข้างชัน แต่สำหรับ นิสสัน อัลเมน่า สปอร์ตเทค ถือว่า ไร้ปัญหาขับขึ้นยอดภูได้แบบสบาย

พระธาตุจอมจ้อ  ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกาแบบสถาปัตยกรรมล้านนา ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิที่อยู่คู่เมืองเทิงมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ประวัติพระธาตุจอมจ้อจากคัมภีร์เก่าแก่ที่ตั้งโดยนักปราชญ์ผู้ชำนาญในด้านภาษาบาลีของอำเภอเมืองเทิง (เมืองเถิง) ในสมัยนั้นได้กล่าวว่า ในกาลสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาสุวรรณภูมิ พระองค์ได้พักอยู่ใต้ต้นอโศกบนดอยใกล้น้ำแม่อิง มีพญานาคตนหนึ่ง รู้ว่าพระพุทธองค์เสด็จมาจึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลถามความต่างๆแล้วจึงนำจ้อคำ 3 ผืนแล้วจ้อแก้วอีก 3 ผืน มาถวายพระพุทธองค์ พระอานนท์จึงขอทูลพระธาตุให้พระยานาคตนนั้น พระพุทธองค์จึงนำพระหัตถ์ลูบพระเศียรได้พระเกศาธาตุเส้นหนึ่ง จึงโปรดให้พญานาคไว้พญานาคจึงนำความแจ้งให้เจ้าเมืองเทิงสร้างพระธาตุไว้ที่กลางดอยเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ ต่อมาจึงมีการขนานนามพระธาตุนั้นว่า พระธาตุจอมจ้อ

พระธาตุจอมจ้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว 1 ในพระธาตุ 9 จอมของจังหวัดเชียงราย มีความเชื่อในการไหว้พระธาตุจอมจ้อ คำว่าจ้อ หมายถึง พูดเก่ง พูดดี จึงเชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้ก็จะประสบความสำเร็จทุกสิ่ง เหมือนกับการเริ่มเจรจาก็จะนำมาซึ่งความสำเร็จและสมประสงค์ ส่วน อีกความหมายหนึ่ง คำว่า “จ้อ” เป็นคำล้านนา ความหมายเทียบได้กับ “ช่อ” ในภาษาไทยกลาง “จอมจ้อ” จึงควรหมายความถึง ชูขึ้น หรือสูงเด่น เป็นสง่า สูงส่ง

เมือขึ้นไปกราบพระธาตุ รอบๆ จะเป็นลาน สามารถมองเห็นอำเภอเทิง และวิวทิวทัศน์ อย่างสวยงาม เต็มตา บึงน้ำขนาดใหญ่กลางเมือง หลังจากชมทัศนีย์ภาพอันสวยงามบนพระธาตุภูจอมจ้อม แล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ คราวนี้ เราเดินทางสู่อำเภอพญาเม็งราย  ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากนั้นมุ่งสู่จังหวัดเชียงรายผ่านหลายดอย ซึ่งมีทั่งสูงชัน คดเคี้ยว ลัดเลาะตามไหล่เขา ก่อนเข้าสู่อำเภอเวียงชัย

เข้าสู่อำเภอเวียงชัย ผมมีโอกาส ได้ขับรถข้ามอ่างเก็บน้ำหนองหลวง เป็นอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ประมาณ 9000 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล 2 อำเภอ คือ ตำบลเวียงชัย อำเภอเวียงชัย จำนวนกว่า 1000 ไร่ ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย จำนวนกว่า 1000 ไร่ และตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงรายกว่า 6000 ไร่ โดยตัวสะพานถือว่า ได้สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เพลินตาไปอีกแบบ แถมทิวทัศน์สวยงาม ระยะทางจากอำเภอพญาเม็งราย ผ่านอำเภอเวียงชัย ไปถึงเชียงราย ประมาณ 50 กิโลเมตร

จากนั้น เราเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่อำเภอ แม่สายแต่ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตกของเชียงราย หนีรถติดไม่ต้องเข้าตัวเมือง ทางค่อนข้างโล่ง ได้แตะคันเร่งพิสูจน์ ความเร็วของนิสสัน อัลเมร่า ได้อย่าวเต็มที่ มีเฉียดๆ วัดห้วยปลากั้ง มองเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม สีขาว สูงเด่นเป็นสง่า แต่ไกล จากนั้น ผ่าน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่จัน และเข้าสู่อำเภอแม่สาย เหนือสุดแดนสยาม ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร

จุดหมายในอำเภอแม่สายคือชมบรรยากาศ ทิวทัศน์ 2 แผ่นดิน ไทย-พม่า บนลานชมวัดวัดพระธาตุดอยเวา และบรรยากาศการค้าขายของตลาด แม่สาย ที่คึกคักเป็นพิเศษ หลังโควิด-19 สร่างซา โดยเฉพาะวันเสา-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก

 ได้เวลาอำลาแม่สาย ดินแดนสูงสุดของประเทศไทย เดินทางกลับ โดยมุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน จังหวัด พะเยา และลำปาง ก่อนเข้าสู่เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร เพื่อชมบรรยากาศการท่องเที่ยว ที่เริ่มกลับมาในวันที่อากาศหนาวเย็น เดือนธันวาคม ขับนิสสัน อัลเมร่า ชมเมือง และขึ้นไปไหว้ขอพร หลวงพ่อทันใจ ที่วัดพระธาตุดอยคำ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่          

  

 จากนั้น ได้เวลา เดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร ถึงกรุงเทพฯ เตรียมพร้อมเดินทางท่องเที่ยวต่อ โดยมีจุดหมายปลายทางที่ น้ำตกไทรโยคน้อย อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงน้ำตก เราได้แวะชมสกายวอล์คกาญจนบุรี หรือ สกายวอร์คสองแคว-แม่กลอง ที่ริมแม่น้ำแควใหญ่ อำเภอเมือง ใกล้กับศาลหลักเมืองกาญจนบุรี และถนนคนเดินปากแพรก ซึ่งเคยเป็นจุดลงเรือสำหรับล่องเรือไปชมแม่น้ำสองสีเดิม ถือเป็น จุดชมวิวแม่น้ำสองสี คือ แม่น้ำแควน้อย และ แม่น้ำแควใหญ่ ไหลมาบรรจบกันที่ บ้านลิ้นช้าง กลายเป็น แม่น้ำแม่กลอง แหล่งเช็คอินแห่งใหม่ของกาญจนบุรี     

   

จากนั้น เราเดินทางต่อไปเช็คอินถ่ายรูปบนสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแคว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ก่อนเดินทางต่อไป ยังน้ำตกไทรโยคน้อย อำเภอไรโยค ซึ่งบรรยากาศ ถือว่า คึกคักอย่างมาก นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากแห่ไปเล่นน้ำตกกัน ขณะที่ตลาดริมทางย่านน้ำตกก็คึกคักไม่แพ้กัน สะท้อนให้เห็นว่า การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว

ชมบรรยกาศน้ำตก พอหอมปากหอมคอ ได้เวลา ขับนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค กลับสู่กรุงเทพมหานคร ถือเป็นการจบทริป การเดินทางด้วยการขับรถเที่ยว อย่างสมบูรณ์แบบ รวมระยะทาง กว่า 4,000 กิโลเมตร

จากการขับทดสอบนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค คนนี้ ต้องบอกได้เลยว่า ถึงแม้จะเป็นรถซีดาน ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มีกำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ แถมขับสนุก เพลิดเพลิน อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็ว จากแรงบิดแบบต่อเนื่อง ขึ้นดอยได้อย่างมั่นใจ บอกได้คำเดียวว่า อัลเมร่า ขึ้นได้ทุกดอยจริงๆ ขอแค่เป็นทางลาดยางเรียบๆ  ยิ่งขับในเมืองยิ่งตอบโจทย์ ของคนเมือง

สิ่งที่ชอบนอกจากสรรถนะในการขับขี่แล้ว สิ่งที่เหนือกว่ารถยนต์ ในคลาสเดียวกัน คือ ความกว้างขวาง ในส่วนของเบาะหน้า และเบาะหลังของผู้โดยสาร ที่สำคัญให้ความประหยัดเป็นเลิศ ใครที่มองหารถเก๋งขนาดเล็กสมรรถนะเยี่ยม ประหยัด กว้างขวาง นั่งสบาย กับราคา 5 แสนกลางๆ ถึง 6 แสนบาทปลายๆ ผมว่า นิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค คันนี้ น่าสนใจ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

Political News