สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

"โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล กับความเป็นไปได้ในการไล่ล่าสถิติ LPGA

การแข่งขัน LPGA Tour ฤดูกาล 2018 อยู่ในช่วงพักก่อนจะย้ายเวทีแข่งขันจากสหรัฐอเมริกาไปยังยุโรปในรายการ Aberdeen Standard Investments Ladies Scottish Open ที่สกอตแลนด์ ช่วงสุดสัปดาห์หน้า

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนศึกเมเจอร์ที่ 4 ของปี รายการ Ricoh Women's British Open ที่ประเทศอังกฤษ 1 สัปดาห์หลังจากนั้น

ตอนนี้ LPGA Tour ผ่านพ้นมาแล้ว 19 รายการ จากทั้งหมด 32 รายการในปฏิทินแข่งขัน เท่ากับว่าผ่านมาเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดแล้ว

ยิ่งเหลือจำนวนทัวร์นาเมนต์แข่งขันน้อยลงเท่าไร การพิจารณาผลงานและสถิติต่างๆ ก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

LPGA Tour ประเมินความน่าจะเป็นจากแนวโน้มผลงานของนักกอล์ฟแต่ละคนในทัวร์ โดยคำนวณค่าเฉลี่ยสถิติแต่ละอย่างสำหรับนักกอล์ฟที่แข่งขันอย่างน้อย 10 รายการในปีนี้ จนได้ข้อสรุปว่า ปี 2018 นี้น่าจะเป็นปีที่น่าจับตามองในแง่ของการ "ทำลายสถิติ" หลังจากคิม เซ ยอง โปรสาวชาวเกาหลีใต้เพิ่งจะทำสถิติสกอร์ต่ำสุดในการเล่น 72 หลุม รวม 31 อันเดอร์พาร์ ในศึก Thornberry Creek LPGA Classic เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม

ในจำนวนสถิติที่ LPGA คำนวณออกมามีทั้งสิ้น 4 หัวข้อ ซึ่งน่าสนใจว่า ใน 4 หัวข้อนี้ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 1 ของไทย และมืออันดับ 3 ของโลก มีลุ้นติดโผอยู่หลายประเภทด้วยกัน

สถิติแรกคือสถิติจำนวนเบอร์ดี้สูงสุด โดยโปรเมทำสถิติสูงสุดตลอดกาลรวมทั้งฤดูกาล 469 ครั้งไว้เมื่อปี 2016

มาปีนี้โปรเมนำสถิติดังกล่าวอยู่ที่ 293 ครั้ง ตามมาด้วย "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล ซึ่งเพิ่งประเดิมแชมป์ LPGA Tour หนแรกในปีนี้ กับสถิติรวม 260 ครั้ง ขณะที่อันดับ 3 เป็นชาร์ลี ฮัลล์ โปรสาวชาวอังกฤษ ทำได้ 256 ครั้ง

LPGA คำนวณแล้วบอกว่า โปรเมอาจจะนำอยู่ แต่เนื่องจากฮัลล์มีสถิติออนกรีนตามเรกูเลชั่นถึง 82 เปอร์เซ็นต์ และทำสถิติเบอร์ดี้เฉลี่ย 17.07 ครั้งต่อ 1 ทัวร์นาเมนต์ จึงมีโอกาสปิดฤดูกาลด้วยสถิติเบอร์ดี้รวมสูงถึง 478 ครั้ง ขณะที่โปรเมตามมาเป็นอันดับสอง 455 ครั้ง

ในส่วนของสถิติอีเกิ้ล เล็กซี่ ธอมป์สัน โปรสาวมือ 5 ของโลกชาวอเมริกัน นำอยู่ในปัจจุบันที่ 12 อีเกิ้ล ตามมาติดๆ ด้วยโปรเมและเอมิลี่ พีเดอร์เซ่น จากนอร์เวย์ ต่างทำได้ 10 อีเกิ้ลเท่ากัน

สถิตินี้เล็กซี่มีภาษีดีกว่า เนื่องจากทำ 12 อีเกิ้ลกการการเล่น 12 รายการ รวม 49 รอบ ส่วนโปรเมทำ 10 อีเกิ้ล จาก 18 รายการ รวม 67 รอบ ค่าเฉลี่ยของเล็กซี่อยู่ที่ 0.83 อีเกิ้ลต่อทัวร์นาเมนต์ เหนือกว่าเอรียาที่มีสถิติ 0.55 อีเกิ้ลต่อทัวร์นาเมนต์ ทั้งคู่มีจุดเด่นเรื่องการตีไกลพอๆ กัน แต่เล็กซี่ล้ำหน้ากว่านิดๆ เพราะโปรเมเลือกจะไม่ใช้ไดรฟ์เวอร์เสียเป็นส่วนใหญ่

ทำให้ LPGA ฟันธงว่า สาวอเมริกันจะทำสถิติอีเกิ้ลสูงที่สุดเป็นประวัติกาล 23 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมที่ลอร่า เดวี่ส์ เคยทำไว้ 19 ครั้ง เมื่อปี 2004 ส่วนโปรเมก็มีชื่อติดโผมาด้วยเช่นกันในอันดับ 4 ร่วม ที่ 15 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงผลงานที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพโดยรวมอย่างการติดอันดับท็อปเทนของการแข่งขันแล้ว LPGA ยกให้โปรเมเป็นเต็งหนึ่งที่จะทำสถิติสูงสุดในปีนี้

เนื่องด้วยปัจจุบัน โปรเมติดอันดับท็อปเทนไปแล้วถึง 10 จากทั้งหมด 18 รายการที่ร่วมแข่งขัน คิดเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าอันดับสอง โค จิน ยอง จากเกาหลีใต้ ที่ติดท็อปเทน 8 จาก 15 ครั้ง คิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ และโปรโมเป็นอันดับสาม ทำได้ 7 จาก 18 ครั้ง คิดเป็น 39 เปอร์เซ็นต์

LPGA ประเมินว่า เมื่อปิดฤดูกาลนี้ โปรเมน่าจะทำผลงานติดอันดับท็อปเทนได้เพิ่มอีกถึง 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2016 ที่สาวไทยทำผลงานสุดยอดติดท็อปเทนถึง 16 รายการ มากที่สุดในทัวร์

ส่วนเรื่องจะทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมิคกี้ ไรต์ ตำนานกอล์ฟชาวอเมริกัน เคยทำไว้ถึง 27 รายการ เมื่อปี 1963 ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีใครเคยเฉียดใกล้สถิติดังกล่าวได้เลย

สำหรับสถิติสุดท้ายคือการทำสกอร์ต่อรอบต่ำกว่าพาร์นั้น LPGA ยกให้ชาร์ลี ฮัลล์ มีโอกาสมากที่สุด เนื่องจากทำผลงานต่ำกว่าพาร์ได้ถึง 42 จาก 54 รอบ คิดเป็น 78 เปอร์เซ็นต์ และน่าจะปิดฤดูกาลที่ 87 ครั้ง เหนือกว่าสถิติ 85 ครั้งของสเตซี่ ลูอิส อดีตมือ 1 ของโลกที่ทำไว้ในปี 2014

สุดท้ายนี้ LPGA ย้ำว่า ทั้งหมดเป็นแค่การคำนวณจากความเป็นไปได้โดยพิจารณาจากสถิติต่างๆ ในปัจจุบันเป็นพื้นฐานเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่กระนั้นคนที่ติดอันดับต้นๆ ในแต่ละประเภทก็มีแนวโน้มที่ดีที่จะไปถึงสถิติดังกล่าว

หมายความว่าโปรเมซึ่งปัจจุบันนำสถิติหลายอย่างก็มีโอกาสสูงที่จะปิดฤดูกาลด้วยผลงานเหนือความคาดหมายอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงอีก 1 สถิติที่ LPGA Tour ไม่ได้พูดถึง แต่บรรดาสื่อกอล์ฟตะวันตกกำลังจับตามอง นั่นคือ การปิดฤดูกาลด้วยการเป็นนักกอล์ฟหญิงคนแรกของโลกที่ทำเงินรางวัลสะสมทะลุหลัก 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ในปีเดียว โดยปัจจุบันโปรเมทำเงินรางวัลสะสมเป็นอันดับหนึ่งที่ 1,797,765 ดอลลาร์สหรัฐ

Political News