KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) เผยความคืบหน้ากองทุนหุ้นนอกตลาดไทยกองแรกของไทย (LH-THAIPE1UI) ล่าสุดได้เข้าลงทุนใน 2 บริษัทขนาดกลางศักยภาพสูงของไทย ได้แก่ นารา ไทย คูซีน (NARA Thai Cuisine) เครือร้านอาหารไทยชั้นนำ และ DRJL Group ผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอันดับหนึ่งของไทย แบรนด์ Dr.JiLL จากการผนึกกำลังขององค์กรชั้นนำ ได้แก่ ผู้จัดการกองทุนหลัก Fullerton Fund Management ซึ่งมีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านไพรเวทอิควิตี้ พร้อมด้วยคำปรึกษาจาก Hatton Equity Partners ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาดไทย วางกลยุทธ์ปั้นบริษัทเติบโต ขยายกระแสรายได้ ยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน โดยกองทุนเตรียมลงทุนเพิ่มเติมในหลากหลายธุรกิจ ภายในสิ้นปีนี้ อาทิ ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ การศึกษาและโลจิสติกส์ คาดสร้างผลกำไรให้นักลงทุนได้ใน 7 ปีตามแผน
ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “กองทุนหุ้นนอกตลาด หรือ ไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity) เป็นนวัตกรรมการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Asset) รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดสากล เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงธุรกิจซึ่งอยู่ในวัฏจักรที่หลากหลาย และได้รับประโยชน์จากการเติบโตของกิจการก่อนที่จะเข้าตลาดฯ สำหรับในประเทศไทย KBank Private Banking ได้นำเสนอนวัตกรรมการลงทุนนี้แก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา เราได้เสนอขายกองทุน LH-THAIPE1UI (LH Fund Thai Private Equity 1 Not for Retail Investors) ซึ่งถือเป็นกองทุนแรกที่ลงทุนในบริษัทไทยที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยสามารถระดมทุนไปได้กว่า 3 พันล้านบาท ล่าสุด ผลการดำเนินงานของกองทุนฯ มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยพันธมิตรระดับโลกอย่าง Fullerton Fund Management ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนหลัก เผยว่า กองทุนฯ ได้ปิดดีลในการเข้าถือหุ้นใน 2 บริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดและสภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาว โดยคาดว่า ปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศจะขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัทเติบโตต่อเนื่อง และสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้ตามเป้าหมาย”
จุดเด่นของกองทุน LH-THAIPE1UI คือ เป็นกองทุนรวมหุ้นนอกตลาดกองทุนแรกที่ลงทุนในบริษัทไทย ลงทุน ซื้อขาย แลกเปลี่ยนในหน่วยไทยบาท ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ใช้ระยะเวลาการลงทุนสั้นกว่าการลงทุนลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ เน้นบริษัทเป้าหมายในประเทศไทยที่มีศักยภาพในการพัฒนาและการเติบโตที่รวดเร็ว
สำหรับบริษัทเอกชนไทยที่กองทุน LH-THAIPE1UI ได้เข้าลงทุน คือ
นารา ไทย คูซีน (NARA Thai Cuisine) เครือร้านอาหารไทยชั้นนำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ก่อตั้งในปี 2546 โดยปัจจุบันนอกเหนือจากร้าน Nara (นารา) บริษัทได้ขยายร้านอาหารในเครืออีกกว่า 9 แบรนด์ อาทิ อั้งม้อ (Ang Morr) อิงคฺ (Inka) Co Limited (โคลิมิเต็ด) อภินารา (Apinara) เลดี้นารา (Lady Nara) Madame Mae (มาดามแม่) ฯลฯ รวมกว่า 40 สาขาทั่วโลก และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่คลี่คลายลง กลุ่มธุรกิจร้านอาหารจะเป็นธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์ในการเติบโตหลังเปิดประเทศ
DRJL Group ผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ Dr.JiLL เริ่มก่อตั้งในปี 2554 และก้าวขึ้นเป็นเซรั่มที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยติดต่อกันหลายปีซ้อน โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อปีมากกว่าล้านขวด และมีอัตราการซื้อซ้ำอยู่ที่ร้อยละ 70 ด้วยรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์ที่แตกต่างจึงมีศักยภาพในการเติบโตสูงในยุคอีคอมเมิร์ซเฟื่องฟู ปัจจุบันนอกเหนือจากเซรั่ม Dr. JiLL ทางบริษัทได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม อาทิ ครีมกันแดด Cielo Blue Light ครีมมอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้า GlowX ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Glowx Fiber FIT เป็นต้น
ด้านนายมาร์ค หยวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Fullerton Fund Management ได้เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตให้กองทุนฯ ว่า “หลังจากที่กองทุนฯ ได้เข้าถือหุ้นในบริษัท นารา ไทย คูซีน และ ดร.จิล เราได้เฟ้นหามืออาชีพในการวางกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจ อาทิเช่น เพิ่มกระแสรายได้ ขยายเซ็กเมนต์ต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการจัดการต้นทุน ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งของบุคลากรในแต่ละหน่วยงาน”
ภายในปี 2565 ผู้จัดการกองทุนฯ มีแผนเข้าลงทุนเพิ่มเติมในกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ของโลก อาทิ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) กลุ่มการศึกษา (Education) และกลุ่มธุรกิจส่งเสริมสุขภาพ (Health and Wellness)
“กองทุนหุ้นนอกตลาดเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานจริงของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนและเพิ่มเสถียรภาพของพอร์ตการลงทุนได้ในระยะยาว KBank Private Banking จะเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมการลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไทยที่มีศักยภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้” ดร.ตรีพล กล่าวปิดท้าย
กองทุน LH-THAIPE1UI เป็นกองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น มีระยะการเวลาการลงทุน 7 ปี พร้อมการขยายการลงทุนไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี สอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมติดต่อไพรเวทแบงค์เกอร์ที่ดูแลหรือติดต่อ KBank Private Banking Contact Center 02-8888811
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
KBank Private Banking announces the successes of Thailand’s first Thai private equity fund,
with investments in NARA and Dr. JiLL
Planning to secure more deals in health and wellness, education, and logistics businesses, to diversify return opportunities for investors
KBank Private Banking (KPB) has announced the progress of LH-THAIPE1UI, Thailand’s first-ever Thai private equity fund, which recently made investments in two mid-sized Thai companies with high potential: NARA Thai Cuisine, a leading Thai restaurant group, and DRJL Group, the owner of Thailand’s leading facial serum brand Dr. JiLL. The expert teams from the master fund manager with experience in private equity products, Fullerton Fund Management, and the fund sub-advisor, Hatton Equity Partners, which has expertise in the Thai market, will implement strategies to drive growth, diversify revenue streams and enhance operational standards of the invested companies. The fund has a strong pipeline in various industries including health and wellness, education, and logistics businesses and expects to make additional investments by the end of this year, with the goal to maximize exit valuations within seven years.
Dr. Triphon Phumiwasana, Senior Managing Director, Private Banking Business Head, KASIKORNBANK (KBank), said, “Private equity funds are alternative investment products which have seen consistently higher demands in the global market. They offer investment opportunities in businesses with different cycles and enable investors to benefit from growth opportunities from said companies before they are listed in the public market. In Thailand, KBank Private Banking has been offering this innovative solution to high-net-worth clients for the past few years and one example is the LH-THAIPE1UI fund we launched in late 2021. This is the first Thai private equity fund that invests solely in Thai companies not listed in the stock exchange, and have raised over 3 billion baht in investment. According to the latest update from the global partner and the master fund manager, Fullerton Fund Management, the fund has successfully closed investment deals with two companies which have high growth potentials in-line with long-term market trends and the Thai economy. We expect the country’s reopening will accelerate the performance of the portfolio and generate returns in accordance with our target.”
The launch of LH-THAIPE1UI marked the first time Thai private equities were being set up as a fund and offered to investors in Thailand. The fund currency is in Thai baht, which reduces exposure to foreign exchange risks. It also offers a shorter fund term than similar funds in other international markets. Target companies are Thai businesses with rapid development and growth potentials.
LH-THAIPE1UI has invested in two Thai companies as follows:
NARA Thai Cuisine, a leading Thai restaurant group with a distinctive identity, was first established in 2003. Apart from Nara restaurants, the company has founded another nine restaurant brands with 40 branches worldwide, including Ang Morr, Inka, Co Limited, Apinara, Lady Nara, and Madame Mae. The business is well-positioned to take advantage of an improved pandemic situation and economic recovery after the country reopening.
DRJL Group, is the owner of a leading facial serum brand, Dr. JiLL. Founded in 2011, it has become Thailand’s best-selling serum for many consecutive years, with an average of over 1 million bottles sold annually and 70% of the revenue coming from recurring customers. Due to its unique online marketing strategies, the company is likely to benefit from the booming e-commerce. Apart from Dr. JiLL serum, DRJL Group has expanded its product portfolio, which now includes Cielo Blue Light sunscreen, GlowX moisturizer and GlowX Fiber FIT supplement.
Discussing the fund’s growth strategies, Mr.Mark Yuen, Chief Business Development Officer, Fullerton Fund Management, lshared, “After the fund made investments in NARA Thai Cuisine and Dr. JiLL, we have been working with a team of experts in implementing growth strategies. These include diversifying revenue streams, expanding product segments, strengthening operations, optimizing costs and capital structures, and professionalizing the management team.”
By the end of 2022, the fund manager plans to make additional investments in businesses within the world’s mega trends, namely logistics, education, and health and wellness.
“Private equity funds serve as attractive investment options in the period of high volatility in the stock market. With valuations reflecting real fundamentals of the invested companies, this asset class can reduce portfolio volatility and increase long-term stability. KBank Private Banking will continue to offer innovative investment solutions to reinforce our ‘Perfect Wealth’ promise as well as strengthen the potentials of Thai businesses, enabling them to compete on the global stage,” concluded. Dr. Triphon.
LH-THAIPE1UI is offered to high-net-worth customers only. The fund term is 7 years with 2 one-year extensions. For more information, please contact your private banker or KBank Private Banking Contact Center 02-8888811.
