สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

โอสถสภาเดินหน้าโครงการ“ขวดแก้วล่องหน” ผนึกตลาดหุ้นและ 13 พันธมิตร เป็นต้นแบบเส้นทางสู่ความยั่งยืน

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ13 พันธมิตร ในโครงการ Care the Whale เดินหน้าโครงการ “ขวดแก้วล่องหน” โดยมี นายกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานบัญชีและการเงินและหัวหน้ากลุ่มงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นางสุธิดา เสียมหาญ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และนางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ดำเนินโครงการCare the Whale พร้อมด้วยตัวแทนจาก 13 พันธมิตร ร่วมประกาศความร่วมมือในการเป็นต้นแบบเส้นทางสู่ความยั่งยืน ส่งเสริมให้สถานประกอบการร่วมแยกขยะขวดแก้วและนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็ว ๆนี้

โครงการ “ขวดแก้วล่องหน” นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของโครงการส่งขวดแก้วสู่ขวดแก้ว (Bottle to Bottle) ซึ่งโอสถสภาได้ริเริ่มขึ้นเพื่อช่วยลดปริมาณขยะและลดผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างโมเดลเพิ่มประสิทธิภาพการนำขยะขวดแก้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดแก้วใหม่ โครงการขวดแก้วล่องหนเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยต่อยอดจากโครงการ Care the Whale ขยะล่องหน ที่มีการส่งเสริมให้พันธมิตรในย่านถนนรัชดาภิเษกและนอกย่านร่วมกันแยกขยะและจัดเก็บขยะเข้าสู่ระบบรีไซเคิล พร้อมกับนำ Care the Whale Calculator มาช่วยคำนวณ ทบทวน และประมวลผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการลดขยะ โครงการขวดแก้วล่องหนจะขยายผลส่งเสริมให้มีการรับขยะขวดแก้วเพิ่มเติมอีกหนึ่งประเภท ด้วยการมอบถังขยะสำหรับรับขวดแก้วให้ทุกหน่วยงานในโครงการและจะแปลงขยะขวดแก้วที่ได้รับเป็นผลิตภัณฑ์ของโอสถสภา โดยสมทบผลิตภัณฑ์มูลค่าตามปริมาณขยะที่ได้รับ (1 บาท ต่อขยะขวดแก้ว 1 กิโลกรัม) ไปใช้ในการช่วยเหลือสังคมหรือกิจกรรมสาธารณกุศลในโครงการ Care the Whale  

โครงการขวดแก้วล่องหนนับเป็นการผนึกกำลังกับพันธมิตร Care the Whale ให้เป็นต้นแบบเส้นทางสู่ความยั่งยืน โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทั้ง 13 แห่ง ซึ่งมีทั้งสถานประกอบการประเภท สำนักงานออฟฟิศ ศูนย์การค้า สำนักงานให้เช่า คอนโดมิเนียม สถานศึกษา ในย่านถนนรัชดาภิเษกและนอกย่าน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอไอเอ จำกัด (อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์) นิติบุคคลอาคารชุด ไอดีโอ รัชดา-ห้วยขวาง บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะสตรีท รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เดอะไลน์ อโศก รัชดา CW Tower  และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  สาขา เซ็นทรัล พระราม 9

นางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารองค์กรและพัฒนาเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ Care the Whale ได้ส่งเสริมให้องค์กรสมาชิกได้มีการคัดแยกขยะและนำส่งขยะที่รีไซเคิลได้ ไปสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกต้อง สำหรับขยะขวดแก้วนั้น ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนกรกฎาคม มีจำนวนขยะขวดแก้วที่คัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ถึง 6,493 กก. โดยเป็นขวดแก้วใส 3,823 กก. และขวดแก้วสี 2,670 กก. สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 110,154.70 กก.คาร์บอนไดซ์ออกไซต์เทียบเท่า การต่อยอดโครงการขวดแก้วล่องหน ร่วมกับ บมจ.โอสถสภา จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกขยะขวดแก้วมากขึ้น เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและแปรรูปเป็นขวดแก้วใหม่ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรทรายที่เป็นส่วนประกอบสำคัญทางธรรมชาติในการผลิตขวดแก้ว”   

          นางสุธิดา เสียมหาญ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บมจ. โอสถสภา กล่าวว่า “โอสถสภามุ่งเน้นด้านการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยปฏิบัติตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน มีการจัดตั้งศูนย์รีไซเคิลขั้นสูง เพื่อลดปริมาณของเสีย เพิ่มการรีไซเคิล และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการนำขยะเศษแก้วมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดใหม่ อย่างไรก็ตาม การจะบรรลุเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภคได้นั้น ต้องมีความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่า โครงการขวดแก้วล่องหนถือเป็นการผนึกพลังของพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดการแยกขยะที่ต้นทาง ลดปริมาณขยะ และนำขยะเศษแก้วกลับมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนต่อไป” 

          โครงการขวดแก้วล่องหนจะช่วยขยายพลังสีเขียวของชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น หลังจากที่โอสถสภาได้ใช้โมเดลนี้นำร่องกับชุมชนรอบข้างสำนักงานใหญ่ ย่านหัวหมาก ในปีที่ผ่านมา  และสามารถนำขวดแก้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแล้วทั้งสิ้น 11,758 กิโลกรัม ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังสำคัญของชุมชนในการลดผลกระทบจากการดำเนินชีวิตต่อสิ่งแวดล้อม โอสถสภาจะยังคงเดินหน้าเชิญชวนคนไทยให้ร่วมกันแยกขยะ เพื่อเปลี่ยนขยะที่มีมูลค่าซ่อนอยู่ ให้เป็นความสุขของชุมชน และสร้างสังคมที่ยั่งยืนร่วมกัน

+++++++++++++++++++++++++++++

 

Political News