สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

โปรเจครถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์ TE-1ประกาศเสร็จสิ้นโครงการด้วยผลการทดสอบรถต้นแบบขั้นสุดท้าย

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ประกาศถึงโครงการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์ TE-1 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยผลทดสอบรถต้นแบบในขั้นสุดท้ายที่ได้ผลลัพธ์เกินกว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันน่าทึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้

  • ระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์

ผลการทดสอบบนถนนจริง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์ TE-1 สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากกว่าจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ด้วยระยะทาง 161 กม./100 ไมล์ ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ไกลที่สุดเมื่อเทียบกับจักรยานยนต์ไฟฟ้าประเภทเดียวกันในปัจจุบัน

  • กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177PS / 175bhp)

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบไทรอัมพ์ TE-1 มาพร้อมอัตราเร่งพื้นฐานที่น่าทึ่ง โดยสามารถทำความเร็วได้ 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 3.6 วินาที และ ที่ 0 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 6.2 วินาที

  • เวลาในการชาร์จ 20 นาที (0-80%)

พลิกวงการความสามารถในการชาร์จไฟฟ้าได้เร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันในปัจจุบัน

  • น้ำหนัก 220 กก. ด้วยอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่เหลือเชื่อ

น้ำหนัก TE-1 เบากว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบันถึง 25%

  • รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่พัฒนาได้ถึงขั้นสุดท้ายอย่างน่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำการจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ระดับแถวหน้าของไทรอัมพ์ และส่งสัญญาณความน่าตื่นเต้นถึงแฟน ๆ ของไทรอัมพ์ทั่วโลกที่กำลังจะได้สัมผัสในอนาคต

-              เสียงท่อรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์อิเล็คทริคใหม่ที่ให้เสียงดังกระหึ่มและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยความดังที่ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นช่วยปลุกโสตประสาทให้เกิดความรู้สึกเร้าใจไปพร้อมกับการขับขี่

-              หลักสรีรศาสตร์ รูปทรง และการกระจายน้ำหนักของรุ่น Speed Triple ผสานอย่างลงตัวกับขนาดและรูปลักษณ์ของรุ่น Street Triple

-              ให้ความรู้สึกเร้าใจในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ และการควบคุมที่ได้สมดุล พร้อมระบบปรับเปลี่ยนการตั้งค่าคันเร่ง และแรงบิดเทียบเท่ากับรุ่น Speed Triple 1200 RS

-              สไตล์และรูปลักษณ์ที่เป็นไทรอัมพ์แบบ 100% พร้อมดีไซน์ที่บ่งบอก DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Triumph Motorcycles, บริษัท Williams Advanced Engineering, บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG แห่ง University of Warwick โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (The Office for Zero Emission Vehicles หรือ OZEV) ผ่าน Innovate UK ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อการสร้างการพัฒนาที่ก้าวล้ำในด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทางและการออกแบบทางเทคโนโลยีที่มีการบูรณาการเชิงนวัตกรรม

โปรแกรมการทดสอบบนถนนจริงที่ครอบคลุมทั้งการประเมินประสิทธิภาพของจักรยานยนต์บนถนนลูกรังและในสนามแข่ง ได้มีการปรับแต่งค่าสำคัญต่างๆขั้นสุดท้าย ซึ่งในวันนี้รถต้นแบบไทรอัมพ์ TE-1 สามารถตอบโจทย์ของทุกเป้าหมายและวัตถุประสงค์แล้ว

โครงการ เฟส 4 เสร็จสมบูรณ์

ระยะการทดสอบบนถนนจริงของโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์ TE-1 ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการแล้ว พบว่ารถต้นแบบมีสมรรถนะเกินความคาดหมายและให้ผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อ ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของโครงการทั้งหมด ทั้งในด้านการเร่งการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรม การกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับภาคอุตสาหกรรมนี้โดยรวม ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพในขั้นสุดท้ายของแบตเตอรี่และระยะทางวิ่ง ความเชี่ยวชาญและขีดความสามารถที่พัฒนาขึ้นทั่วทั้งโครงการได้ปูทางไปสู่อนาคตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอันน่าตื่นตาตื่นใจจากไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์

ก้าวขึ้นไปอยู่แถวหน้าด้วยระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Triumph TE-1 มีระยะทางวิ่งจริงได้ไกลกว่าระยะทางของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งบรรลุเป้าหมายทั้งหมดของโครงการเกี่ยวกับความจุพลังงานของแบตเตอรี่ที่พัฒนาโดยโครงการ Williams TE-1 โดยวิ่งได้ระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้อ้างอิงจากการทดสอบอย่างเป็นทางการและการคาดการณ์

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 มาพร้อมเบรกระบบใหม่ที่เหมาะสมกับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนประสิทธิภาพที่มากขึ้นในชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบใช้มอเตอร์และเกียร์ ซึ่งสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์รุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคต

สมรรถนะที่ใกล้เคียงกับรุ่น Speed Triple 1200 ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ไมล์/ชม. ที่เร็วกว่าเดิม

ด้วยระดับประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับรุ่น Speed Triple 1200 ปัจจุบัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ TE-1 ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177PS / 175bhp) รวมถึงแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร (80 lb-ft) เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว การควบคุมที่ราบรื่น ให้กำลังสูงสุดตลอดช่วงความเร็วและการขับขี่ที่เร้าใจอย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 ยังมีผลการทดสอบอัตราเร่งอันน่าทึ่ง จาก 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 3.6 วินาที และ ที่ 0 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 6.2 วินาที

และด้วยการปรับแต่งเพิ่มเติมของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและระบบควบคุมการยกล้อหน้าทีมงานที่รับผิดชอบในการส่งมอบโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 คาดหวังว่าประสิทธิภาพจะดีขึ้นไปอีก โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพของแรงบิดเต็มที่เพื่อให้เร่งเครื่องได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อออกตัวหลังจากรถหยุดนิ่ง

นักแข่งแชมป์รายการ Daytona 200 อย่าง แบรนดอน พาชส์ (Brandon Paasch) เข้าร่วมในการทดสอบขั้นสุดท้ายนี้ด้วย ทั้งในการประเมินสมรรถนะของเครื่องยนต์และด้วยการปรับแต่งค่าขั้นสุดท้ายของรถต้นแบบขณะทดสอบในสนามแข่ง

“การตอบสนองของคันเร่งของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 นั้นน่าทึ่ง รู้สึกได้ถึงแรงบิดที่สูงมาก เมื่อคุณสัมผัสคันเร่งครั้งแรกจะสัมผัสได้ถึงกำลังของรถในทันที ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมชอบมากในฐานะนักแข่งรถจักรยานยนต์           ผมชอบที่รถมีแรงบิดสูงและเร่งได้ทันใจ สำหรับผม มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ” แบรนดอน กล่าว “ผมรู้สึกต้องตั้งใจขี่ตั้งแต่การเปิดคันเร่งจาก 0 จนถึง 100% มันเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ มันให้ความรู้สึกถึงแรงกระชากอย่างบ้าคลั่ง”

พลิกวงการด้วยเวลาชาร์จเพียง 20 นาที

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จไฟที่ได้รับการพัฒนาโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Triumph TE-1 โดยความร่วมมือกับ วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง (WAE) ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่นับเป็นการพลิกวงการ นั่นคือ ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 20 นาที (0-80%) ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้โดย Innovate UK ได้สำเร็จ ทั้งนี้ Innovate UK เป็นหน่วยงานวิจัยและนวัตกรรมของรัฐบาลที่สนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาจากภาคธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจในสหราชอาณาจักร

น้ำหนักรวม 220 กก.

ด้วยน้ำหนักโดยรวม 220 กิโลกรัม (485 ปอนด์) รถต้นแบบ TE-1 จึงเบากว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบันถึง 25% ทำให้มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่เหลือเชื่อ พร้อมด้วยขนาดและสัดส่วนที่เทียบได้กับรุ่น Street Triple แต่ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รูปทรง และการกระจายน้ำหนักของ Speed Triple ทำให้ TE-1 ช่วยให้การขับขี่น่าตื่นเต้นอย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ ในขณะเดียวกันก็ให้ความมั่นใจ คล่องตัว และกะทัดรัด

“ผมได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบนี้เมื่อขี่ Daytona การเร่งความเร็วและการเข้าโค้งนั้นให้ความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อ!” แบรนดอน กล่าว “ผมคิดว่านี่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ดีจริง ๆ ที่จะขี่บนถนน ทั้งคล่องตัว และความรู้สึกขณะขับขี่ที่เบาสบาย”

ความรู้สึกเร้าใจอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ พร้อมการควบคุมรถที่สมดุลและช่วยสร้างความมั่นใจ

ด้วยการตอบสนองของคันเร่งและการส่งแรงบิดที่พัฒนาต่อยอดจาก Speed Triple 1200 RS โดยตรงและการทดสอบบนสนามแข่งและการประเมินของผู้ขับขี่แบบไดนามิก บนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ TE-1 ทำให้รถมีระดับการควบคุมที่ตรงกับรถจักรยานยนต์ที่ให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์แบบ 3 สูบของไทรอัมพ์รุ่นปัจจุบัน

ระดับประสิทธิภาพและการเร่งความเร็วที่เร้าใจของ TE-1 ผสานกับการขับขี่ที่เร้าใจ ส่งผลให้ได้จักรยานยนต์ที่มาพร้อมสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์อย่างครบครันและการควบคุมรถที่สมดุลเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การขับขี่ที่ราบรื่น และคล่องตัว เข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยพลังที่ควบคุมได้ ช่วยปลุกเร้าความมั่นใจและรับประกันได้ว่าจะขับขี่ด้วยความสนุก

เสียงท่อรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์อิเล็คทริคที่ให้เสียงดังกระหึ่มชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความดังที่ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นช่วยปลุกโสตประสาทให้เกิดความรู้สึกเร้าใจไปพร้อมกับการขับขี่

เสียงท่อที่โดดเด่นและปลุกเร้าของรถต้นแบบ Triumph TE-1 ซึ่งส่งความดังที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้น ให้เสียงที่ดังชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ น่าดึงดูดและน่าตื่นเต้นกว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบัน ขอบคุณเกียร์ฟันเฉียง  อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ในการทดสอบระดับเสียงรบกวนที่ศูนย์ตรวจวัดเสียงรบกวนภายนอกของสนามทดสอบ Mira รถรุ่น TE-1 ผ่านมาตรฐานการทดสอบ R41 Homologationด้านเสียงทั้งหมดทั้งรูปแบบการขับขี่เปิดคันเร่งจนสุด การขับขี่แบบครุยเซอร์ และการขับขี่ในเมือง

สไตล์และความเป็นไทรอัมพ์ 100% พร้อมดีไซน์อันบ่งบอกถึง DNA

รูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งของรถต้นแบบ TE-1 ที่รับรู้ในทันทีว่าเป็นไทรอัมพ์ ใช้แนวคิดการออกแบบอันเป็นแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของของแบรนด์รถจักรยานยนต์สมรรถนะสูง ในขณะเดียวกันก็สะท้อนความเป็นจักรยานยนต์แห่งอนาคตอย่างชัดเจน โดยล่าสุดได้ปรับปรุงแผงตัวถังและโทนสี รถต้นแบบนี้ได้นำสไตล์และตัวตนที่เป็นแบบไทรอัมพ์ 100% พร้อม DNA การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตั้งแต่โครงอะลูมิเนียมไปจนถึงไฟหน้าคู่อันโดดเด่น  รวมถึงท่านั่งในการขับขี่

เสร็จสิ้นโครงการ TE-1

“เราได้เห็นการตอบสนองเชิงบวกอย่างเหลือเชื่อต่อรถต้นแบบ TE-1 จากนักขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วโลก ซึ่งหลายคนบอกเราว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขามองว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นน่าสนใจ และเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง นับเป็นก้าวแรกในการเดินทางสู่การพัฒนาแนวทางในอนาคตของเราในด้านเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้า รถต้นแบบ  TE-1 และผลลัพธ์อันน่าทึ่งที่รถรุ่นนี้ทำได้ในการทดสอบอย่างเข้มข้นได้ให้ข้อมูลที่สำคัญเชิงลึกและแสดงถึงขีดความสามารถ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในอนาคตของเราในท้ายที่สุด แน่นอน รถจักรยานยนต์ที่ผลิตออกมาเพื่อการจำหน่ายจะไม่เป็นอย่างที่คุณเห็นในวันนี้ แต่วางใจได้เลย ทุกโมเดลที่เราพัฒนาจะครอบคลุมสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมด รวมถึงคุณสมบัติอันน่าหลงใหลและน่าตื่นเต้น” มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าว

โดยรวมแล้ว วัตถุประสงค์หลักของโครงการ TE-1 นั้นมุ่งเน้นที่การพัฒนาความสามารถของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด เพื่อเป็นข้อมูลการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ Triumph นวัตกรรมการขับเคลื่อน ขีดความสามารถ และทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ ตลอดจนการเพิ่มความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของอุตสาหกรรมและการออกแบบของอังกฤษ

ความสำเร็จในขั้นตอนการทดสอบบนถนนจริง ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานและเป้าหมายในปัจจุบัน ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

“เรารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่สามารถแบ่งปันผลลัพธ์เชิงบวกดังกล่าวจากความสำเร็จของโครงการ Triumph TE-1 ซึ่งรถต้นแบบนี้ทำได้เกินเป้าหมายและความคาดหวังในขั้นต้นของเราหลายประการ ทุกคนในทีมต่างตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่เราบรรลุร่วมกับพันธมิตรของเรา และเฝ้ารอดูว่าผลสำเร็จของโครงการจะเอื้อต่ออนาคตการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าจากไทรอัมพ์ได้อย่างไร” มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าว

วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง (WAE)

“WAE รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการอันน่าตื่นเต้นนี้เพื่อพัฒนารถต้นแบบ TE-1 นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2018 พันธมิตรทั้งหมดได้ทำงานด้วยความร่วมมือ นวัตกรรม และความหลงใหลในการนำรถต้นแบบที่ทลายขีดจำกัดต่างๆ มาพัฒนาให้ใช้งานได้ในชีวิตจริง นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ยินความคิดเห็นในเชิงบวกของผู้ขับขี่ ซึ่งยืนยันว่ากลไกของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ตรงกับ DNA ของไทรอัมพ์ซึ่งประเด็นนี้ถูกตอกย้ำด้วยแบตเตอรี่และระบบควบคุมอื่นๆ ระดับแนวหน้า ที่ WAE ได้ผลิตขึ้นให้มีน้ำหนักเบาและเชื่อมประสานกันแบบกลมกลืน เทคโนโลยีหลักของ WAE ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพและการชาร์จสำหรับแบตเตอรี่ซึ่งเราตั้งตารอที่จะได้เห็นในระบบส่งกำลังในอนาคต” มร. ดียร์ อาร์แดช หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง กล่าว

บริษัท Integral Powertrain

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าการทดสอบรถจักรยานยนต์ TE-1 ขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้นลง และด้วยการทดสอบนี้ จะมีการตรวจสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะของมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ที่แปรผันได้แบบ Ultra-Integrated ของเราในลำดับต่อไป”

สำหรับการใช้งาน TE-1 มอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องที่กำลังสูงสุด 13 กิโลวัตต์/กิโลกรัม และ                       9 กิโลวัตต์/กิโลกรัม ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายแผนงานด้านเทคโนโลยีของ APC ในปี 2025  ถึง 60%ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยการใช้วัสดุและกระบวนการที่เข้ากันได้กับการผลิตยานยนต์ในปริมาณมากและบนแพลตฟอร์มมอเตอร์แปรผัน ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องความสามารถในการปรับขยายมอเตอร์ที่ใช้ใน TE-1 ได้จัดเตรียมสปริงบอร์ดสำหรับมอเตอร์ที่ปรับขนาดได้ใหม่ ซึ่งจะประกาศในปลายปีนี้ ที่จะให้ระดับประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน แต่มีกำลังการผลิตที่มากกว่าเดิมมาก

แนวคิดการพัฒนาอินเวอร์เตอร์แบบ ultra-integrated นั้น สามารถปรับขนาดได้เพื่อให้จำนวนสเตจกำลังไฟฟ้าของซิลิกอนคาร์ไบด์ เพิ่มขึ้นและส่งผลให้มอเตอร์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ขึ้น ให้กำลังเพิ่มขึ้น (กำลัง >500 กิโลวัตต์) และเปิดโอกาสให้เราเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนของปริมาณการผลิตหรือตอบสนองความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นอย่างมากได้อีกด้วย

“เราภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนสำคัญของโครงการที่น่าตื่นเต้นนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมของอังกฤษ” มร.แอนดรูว์ ครอส หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของบริษัท Integral Powertrain กล่าว

ศูนย์ WMG  มหาวิทยาลัยวอร์ริค

“เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษของเราในสหราชอาณาจักร เราจะต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของเรา ซึ่งไม่เพียงแต่การเปลี่ยนจากระบบสันดาปภายใน (ICE) ไปเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางโดยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอีกด้วย”

ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติการคมนาคมขนส่งในฐานะตัวเลือกในการลดการปล่อย            ไอเสียเป็นศูนย์

“การเป็นพันธมิตรกับไทรอัมพ์ ช่วยให้ WMG ได้ใช้ประสบการณ์การวิจัยของเราในด้านระบบไฟฟ้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ปล่อยมลพิษน้อยลง รวมทั้งส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะโดดเด่นและขับขี่ได้อย่างสนุกให้แก่ลูกค้า” ศาสตราจารย์ เดวิด กรีนวูด CEO ประจำศูนย์ WMG ด้านระบบขับเคลื่อนขั้นสูง มหาวิทยาลัยวอร์ริค กล่าว

ภาพรวมของโครงการความร่วมมือ Triumph TE-1

ความร่วมมือโครงการความร่วมมือ Triumph TE-1 โดยไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม ผู้นำด้านวิชาการ และรัฐบาลสหราชอาณาจักร

โครงการ Triumph TE-1 แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันยอดเยี่ยมเป็นระยะเวลา 2 ปี ระหว่างไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์และผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าของสหราชอาณาจักร ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ไทรอัมพ์ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาการทดสอบ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านนวัตกรรมทางเทคนิคและขีดความสามารถของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งแต่ละฝ่ายจะสร้างสรรค์นวัตกรรมในสาขาที่ตนเองถนัด ได้แก่

  • บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (Triumph Motorcycles) เป็นผู้นำโครงการในด้านการออกแบบตัวถังรถจักรยานยนต์ขั้นสูงและด้านความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม ความเป็นเลิศด้านการผลิต และระบบความปลอดภัยในการใช้งานที่ล้ำสมัย รวมทั้งกำหนดลักษณะการส่งกำลังของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ทั้งนี้ไทรอัมพ์ยังคงดำเนินการปรับแต่งค่าต่างๆ การควบคุมรถ และปรับจูนรถต้นแบบนี้
  • บริษัท Williams Advanced Engineering เป็นผู้นำอุตสาหกรรมอการออกแบบแบตเตอรี่น้ำหนักเบา ให้ความร่วมมือในการทดสอบและด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาแบตเตอรี่ เพื่อสร้างระบบการจัดการแบตเตอรี่เชิงนวัตกรรมให้เหมาะสมกับระบบอิเลคทรอนิกส์ควบคุมยานพาหนะ
  • บริษัท Integral Powertrain แผนก e-Drive เป็นผู้นำด้านการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าความหนาแน่นสูงและอินเวอร์เตอร์คาร์ไบด์ซิลิกอน (silicon carbide inverter) โดยผสานในกล่องเดียวโดยมีน้ำหนักเพียง 15 กิโลกรัม
  • ศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค (University of Warwick) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานไฟฟ้า และมีวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมจาก R&D ให้เกิดผลกระทบเชิงพาณิชย์ผ่านการสร้างแบบจำลอง และการจำลองตามความต้องการของตลาดในอนาคต
  • สำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) เป็นทีมที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ปลอดการปล่อยมลพิษ รวมถึงให้เงินทุนสนับสนุนสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วสหราชอาณาจักร ภารกิจของ OZEV จะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศบนท้องถนนในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ OZEV ยังเป็นส่วนหนึ่งของกรมขนส่งและกรมยุทธศาสตร์ด้านธุรกิจ พลังงาน และอุตสาหกรรม
  • Innovate UK เป็นหน่วยงานรัฐด้านการวิจัยและสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนกลุ่มธุรกิจที่มุ่งเน้นในการวิจัยและพัฒนารวมถึงการเติบโตของธุรกิจในสหราชอาณาจักร

โครงการดังกล่าวจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ช่วงหลัก โดยมีเป้าหมายหลักคือการพัฒนาระบบโดยรวมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยการพัฒนาโครงสร้างตัวรถจักรยานยนต์ ระบบไฟฟ้า ระบบส่งกำลังและระบบการทรงตัว ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งมอบระบบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ลดความซับซ้อนในด้านชิ้นส่วนและความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ดำเนินงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์และความปลอดภัยของแบตเตอรี่ ขนาดมอเตอร์ไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม การใช้ระบบเบรก รวมถึงระบบเบรกแบบสร้างพลังงานไฟฟ้า (Regenerative Braking) ระบบความปลอดภัยขั้นสูง นวัตกรรมจะถูกบรรจุในกลยุทธ์การพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์ในอนาคต

โครงการความร่วมมือ Triumph TE-1 พร้อมการสนับสนุนของสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) และ Innovate UK มุ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกในการพัฒนาในหัวข้อ

  • ความสามารถของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งที่น้อยลง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สำคัญของสหราชอาณาจักรในการลดการปล่อยมลพิษ
  • การเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ที่ยั่งยืนกับผู้ผลิตและซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร
  • พัฒนาความเชี่ยวชาญ และความสามารถบุคลากรของสหราชอาณาจักร สร้างงาน และพัฒนาให้เกิดการจ้างงานที่ยั่งยืน ตลอดจนผลักดันชื่อเสียง รวมถึงอิทธิพลของสหราชอาณาจักรในเวทีโลก

ดร. ฟรานเซสก้า ลูดิเซลโล ผู้จัดการโครงการยานยนต์ปลอดการปล่อยมลพิษ Innovate UK กล่าวว่า  “Innovate UK ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) ตั้งแต่ปี 2013 ทั้งในด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัยในภาคยานยนต์ เพื่อเทคโนโลยียานยนต์ที่ปลอดการปล่อยมลพิษ แนวคิดไปจนถึงการทำยานยนต์ต้นแบบ

โครงการความร่วมมือ Triumph TE-1 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการแข่งขัน IDP15 ที่สอดคล้องกับนโยบาย Road to Zero และนับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนยานยนต์ที่ปลอดการปล่อยมลพิษ รวมถึงการก้าวไปสู่การปล่อยมลพิษที่เป็นศูนย์

“เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการนี้ซึ่งเป็นโครงการบุกเบิกสำหรับการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ปลอดการปล่อยมลพิษในสหราชอาณาจักร จากการพัฒนาที่ผ่านมาซึ่งประสบความสำเร็จ โดยกลุ่มผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความสามารถ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์คันแรกที่ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเตรียมพร้อมที่จะเป็นรากฐานสำหรับอนาคตแห่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า”

                จอน เบรย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) สำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) กล่าวว่า “การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเป็นกุญแจสำคัญสำหรับพันธกิจของเราในการทำให้สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในการออกแบบ ผลิตและใช้ยานยนต์ที่ปลอดการปล่อยมลพิษ เรากำลังช่วยผลักดันการบรรลุเป้าหมายการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบขนส่งทางถนน ผ่านการสนับสนุนเทคโนโลยีเหล่านี้ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งคือการเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจทั่วสหราชอาณาจักรเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคระบาดไปพร้อม ๆ กับการรักษาสิ่งแวดล้อม

                ซึ่งนี่คือเหตุผลที่สำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) ยังคงทำงานด้านการออกแบบและให้ทุนสนับสนุนการแข่งขันวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เป็นการสนับสนุนนวัตกรรมของสหราชอาณาจักรในการพัฒนารถยนต์ที่ปลอดการปล่อยมลพิษและเทคโนโลยีเพื่อการชาร์จไฟฟ้า

                โครงการความร่วมมือ TE-1 ของไทรอัมพ์เป็นส่วนหนึ่งของผลงานการวิจัยและพัฒนาที่หลากหลายของเราสำหรับโครงการพลังงานไฟฟ้า ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายไปพร้อมกับความพยายามในการยุติการผลิตยานพาหนะที่ใช้น้ำมัน รวมถึงความรับผิดชอบในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในแผนยุทธศาสตร์ 10 ข้อของนายกรัฐมนตรีสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียวของสหราชอาณาจักร (Ten Point Plan)

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าเงินทุนของเราสามารถสนับสนุนไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและขีดความสามารถไปข้างหน้าในแวดวงของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็มีส่วนส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทผู้บุกเบิกความร่วมมือนี้ในสหราชอาณาจักร”

 เกี่ยวกับ TRIUMPH

  • ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1902 และเพิ่งฉลองครบรอบ 120 ปี แห่งการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไปในปี 2022 เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ ที่ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ซึ่งมีฐานการผลิตใน ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไชร์ และได้มีการผลิตรถจักรยานยนต์ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ คุณลักษณะ เสน่ห์ และสมรรถนะเฉพาะตัวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
  • ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 81,500 คันต่อปี และเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษรายใหญ่สุด โดยมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 700 แห่งทั่วโลก
  • ความทุ่มเท นวัตกรรม และความหลงใหลทางวิศวกรรมนี้ ส่งผลให้เกิดรถจักรยานยนต์ที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสมกับนักขี่รถจักรยานยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นใหม่สุดโดดเด่นอย่าง Speed Triple 1200 RR, Tiger Sport 660 และ Trident 660 พลิกโฉม Tiger 1200 และรถในตำนานอย่าง Tiger 900 รถระดับแนวหน้าของโลก Rocket R และ GT รถรุ่น Street Triple 765 RS ที่สมรรถนะสูง ต้นแบบ Scrambler 1200และรถอันเป็นตำนานในตระกูล Bonneville ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ในปี 2021 ประกอบด้วย Bonneville Bobber, Thruxton RS, Street Twin, Street Scrambler และรถอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Bonneville T120 และ T100 รวมทั้งรถจักรยานยนต์กลุ่ม A2
  • ในปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 2,000 คน และมีสาขาตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อเมริกาเหนือ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน (สแกนดิเนเวีย) เบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย จีน และไทย รวมถึงเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอิสระ ไทรอัมพ์ มีโรงงานผลิตอยู่ใน ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไชร์ และประเทศไทย รวมถึงโรงงาน CKD ในบราซิลและอินเดีย
  • ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ (Triumph Bonneville) ซึ่งได้รับชื่ออันโด่งดังจากการทำลายสถิติความเร็วรถจักรยานยนต์ของไทรอัมพ์ในปี 1956 ณ ลานเกลือ บอนเนวิลล์ ในยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เป็นซูเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษแท้ ๆ และเป็นผู้ชนะการแข่งขันแบบแข่งด้วยรถเดิม ๆ ได้รับเลือกจากบรรดานักขี่รถจักรยานยนต์ผู้มีชื่อเสียงในอดีต เนื่องจากการควบคุมรถ สไตล์ และคุณลักษณะที่เป็นตำนาน สำหรับในรุ่นปี 2021 ได้รับการอัพเดทเพื่อเพิ่มในด้านสมรรถนะ ขีดความสามารถ และสไตล์ โดยคุณสมบัติดังกล่าวเกิดจากการผสมผสานการควบคุมรถ คุณลักษณะ และสไตล์ เข้ากับเทคโนโลยีที่สนับสนุนผู้ขับขี่รุ่นใหม่ จึงทำให้รถตระกูลบอนเนวิลล์รุ่นใหม่เป็นตัวเลือกรถจักรยานยนต์คลาสสิกสมัยใหม่อย่างแท้จริง
  • ไทรอัมพ์ มีประวัติศาสตร์ด้านการแข่งขันอันยาวนาน โดยร่วมแข่งขันและคว้าตำแหน่งชนะเลิศในเกือบทุกประเภท และประสบความสำเร็จในวงการกีฬาการแข่งรถจักรยานยนต์เกือบทุกสนาม เริ่มตั้งแต่ชนะเลิศการแข่งขัน Isle of Man TT ครั้งที่สองในปี 1908 ไปจนถึงความสำเร็จทั้งบนถนนและในสนามแข่งช่วงปี 1960 ทั้งในยุโรปและอเมริกา ตลอดจนความสำเร็จด้านการแข่งขันจนถึงปัจจุบัน ด้วยเครื่องยนต์ไทรอัมพ์สามสูบ คว้าชัยชนะใน ในปี 2014 และ 2015 ในการแข่งขัน Supersports และ World SuperSport ชัยชนะในการแข่งขัน Isle of Man Supersports TT ปี 2014 และปี 2019 โดย Gary Johnson และ Peter Hickman และในปี 2022 ด้วยชัยชนะอีกครั้งจากรายการ Daytona 200 ในตำนาน โดย Brandon Paasch ที่ใช้ Street Triple 765 ในการแข่งขัน 
  • ตำนานด้านการแข่งขันของไทรอัมพ์ยังคงได้รับการสานต่อจากการเป็นซัพพลายเออร์เครื่องยนต์เพียงรายเดียวของการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก FIM Moto2™ ตั้งแต่ฤดูกาล 2019 เป็นต้นมา ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์เป็นผู้จัดเตรียมเครื่องยนต์สามสูบ 765ซีซี ที่ปรับแต่งมาเพื่อใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะให้กับทุกทีม โดยเครื่องยนต์ทุกตัวนั้น ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากขุมกำลังระดับแนวหน้าของ Street Triple RS ซึ่งสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ และทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ปีแรก อาทิ ความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 กม./ชม. เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน Moto2™ โดยในฤดูกาล 2020 ยังสามารถทำความเร็วได้มากยิ่งขึ้น จากการทำลายสถิติความเร็วรอบตลอดกาลของสนามแข่งอีก 11 สนามและมีนักแข่งถึง 7 คนที่ชนะเลิศการแข่งขันจากการแข่งขันทั้งหมด 15 สนาม
  • กิจกรรมการแข่งขันของไทรอัมพ์ยังรวมถึงการกลับเข้าร่วมในการแข่งขัน World Superbike ในปี  2022 โดยทีมแข่ง Dynavolt Triumph ที่โรงงานเป็นผู้สนับสนุนใน World Supersport Championship
  • ซึ่งในปี 2021 ไทรอัมพ์ได้ประกาศการเข้าสู่ตลาด Motocross และ Enduro ที่กำลังจะมาถึง เช่นเดียวกับความพยายามของทีมแข่งโรงงานทีมใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะแข่งขันชิงแชมป์ระดับท็อปทั้งในรุ่น Motocross และ Enduro

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News