สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

ซิตี้แบงก์ แนะ 5 กองทุนเด่นด้านสุขภาพ เพิ่มความมั่งคั่งพอร์ต ตอบโจทย์ยุคโลกาภิวัตน์

จากหลากหลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะหลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระตุ้นให้ผู้คนหันมาตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องการออกกำลังกาย รวมถึงการดูสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจกันมากขึ้น หรือแนวโน้มที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมประชากรสูงอายุ โดยจากข้อมูลการเติบโตของประชากรโลกขององค์การสหประชาชาติ ปี 2562 พบว่าประชากรทั่วโลกที่มีอายุมากกว่า 65 ใช้จ่ายมากขึ้นถึง 3 เท่าในการดูแลสุขภาพ รวมถึงคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 หนึ่งในหกของคนในโลกจะมีอายุเกิน 65 หรือคิดเป็น 16% ของประชากรโลก ซึ่งจะนำไปสู่การใช้จ่ายดูแลสุขภาพที่มากขึ้นตามลำดับ อีกทั้งอัตราการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของประชากร ตลอดจนการพัฒนาการทางด้านการแพทย์ต่าง ๆ ที่ทำให้สามารถรักษาโรคได้หลากหลายมากขึ้น ฯลฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายด้านสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจกลุ่มสุขภาพแบบก้าวกระโดด เห็นได้จากภาคธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโต รวมถึงการลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญอย่างเห็นได้ชัด

ซิตี้แบงก์ ในฐานะสถาบันทางการเงินระดับโลก ผู้ให้บริการด้านบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในชื่อ “ซิตี้โกลด์” (Citigold) ประกอบไปด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในทุกสถานการณ์เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด จะมาแนะนำ 5 กองทุนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมให้นักลงทุนได้เลือกกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าว ประกอบด้วย

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นโกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCB Global Health Care Equity Fund) กองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุนหลัก Janus Global Life Sciences Fund โดยจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิตโดยทั่วไปและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือยกระดับคุณภาพชีวิต เช่น การวิจัยและพัฒนาผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร เป็นต้น โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลัก 3  ปี  พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10.51% ต่อปี

กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์เเคร์อิควิตี้ปันผล (Krungsri Global Healthcare Equity Dividend Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนหลัก JPMorgan Funds - Global Healthcare Fund เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลก เช่น กลุ่มเภสัชกรรม กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ และกลุ่มการบริการด้านการแพทย์  โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 6.44% และ กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (Krungsri Global Healthcare Equity Hedged FX Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม JPMorgan Funds - Global Healthcare Fund, Class C (acc) – USD มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนหมวดอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.82%

ทั้งนี้ซิตี้โกลด์ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าลงทุนตรงผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศ ในสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วย เช่น กองทุน JPM Global Healthcare Fund A (Acc) USD ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนกรุงศรีที่กล่าวถึงข้างต้น โดยเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ เภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ เทคโนโลยีทางการแพทย์ และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.55%

กองทุน BGF World Healthscience Fund A2 USD กองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มบริษัทที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ และการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ โดยข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10%

อย่างไรก็ตามธนาคารฯ แนะนักลงทุนต้องติดตามประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้น รวมถึงกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนและรักษาผลประโยชน์ท่ามกลางสภาวะตลาดผันผวน โดยซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริการความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 250 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศและ 12 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซิตี้โกลด์ เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในทุกสถานการณ์เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น บริการผู้ดูแลบัญชีที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การลงทุนให้กับลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ พร้อมทั้งให้ลูกค้าสามารถการบริหารความมั่งคั่งสะดวกในทุกโอกาสผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน โดยลูกค้าซิตี้โกลด์สามารถทำการซื้อ-ขายกองทุนได้ด้วยตัวเอง การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การโอนเงินผ่านทางพร้อมเพย์ไปยังต่างธนาคาร หรือโอนเงินไปยังบัญชีต่างประเทศได้ง่าย ๆ รวมถึงสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินต่างประเทศได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ เป็นต้น

ตลอดจนมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์สามารถที่ซื้อและขายกองทุนผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมการซื้อ 10%* หรือสูงสุด 150,000 บาท* เมื่อมียอดซื้อกองทุนรวมที่ร่วมรายการขั้นต่ำรวม 100,000 บาท หรือรับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุดอีก 150,000 บาท* เมื่อลงทุนด้วยเงินลงทุนใหม่ในกองทุนที่ร่วมรายการ สำหรับลูกค้าใหม่รับเครดิตเงินคืนสูงสด 15,800 บาท* เมื่อเปิดบัญชีใหม่และมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยผู้สนใจสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิตี้โกลด์ กรุณาติดต่อธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย โทร. 0-2081-0999 หรือ www.citibank.co.th/th/citigold

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ขายให้บุคคลอเมริกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ซิตี้แบงก์”ชี้ภาคธุรกิจต้องการดิจิทัลโซลูชันด้านการเงิน-การค้า เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

“ซิตี้แบงก์”ประกาศแต่งตั้ง นฤมล จิวังกูร ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซิตี้แบงก์ประเทศไทย

ซิตี้แบงก์ ฉลองครบรอบ 21 ปี บัตรเครดิตซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส จัดเต็มดีลสุดปัง

ซิตี้แบงก์ จับมือ การบินไทย และไทยสมายล์ ส่งแคมเปญ Happy Vacay ชวนพักร้อนออกเดินทางกันให้แฮปปี้

บัตรเครดิตซิตี้ ส่งโปรครบครันจัดเต็มทั้งกิน ดื่ม ช้อป สำหรับนักเดินทาง

บัตรเครดิต ซิตี้ เมอร์เซเดส ร่วมฉลอง 3 ปี ส่งแคมเปญมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านให้แก่สมาชิกบัตร ตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 65

Political News