สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

นักวิชาการ ติง กสทช. ประเด็นตั้งหมอลี่ ขาดความเป็นกลาง ชูประเด็นผิดจริยธรรมและขั้นตอนการวิจัย

นักวิชาการ ติง กสทช. ประเด็นตั้งหมอลี่ ขาดความเป็นกลาง ชูประเด็นผิดจริยธรรมและขั้นตอนการวิจัย หวั่นผลวิจัยไร้ความน่าเชื่อถือ ล่าสุด ทรู-ดีแทค ปฏิเสธร่วมเวที วันที่ 26 พ.ค. 65 แล้ว

แหล่งข่าวจากวงการวิจัย ตั้งคำถามในการจัดโฟกัสกรุ๊ป ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง ของคณะอนุกรรมการศึกษาและวิเคราะห์เรื่องกรณีควบรวมทรูดีแทค ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง ซึ่งมีนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา  หรือ หมอลี่ เป็นประธานฯ กำหนดจัดวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. 65 นั้นเป็นการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นที่ถูกต้องตามกระบวนการวิจัยหรือไม่? และนับเป็นหนึ่งในสามการจัดโฟกัสกรุ๊ปตามโรดแมปของ กสทช. ที่กำหนดไว้ 3 ครั้ง ได้แก่ 1) กลุ่มภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง 2) กลุ่มนักวิชาการ 3) กลุ่มผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป  ทั้งนี้เพราะการจัดโฟกัส กรุ๊ป วันที่ 26 พ.ค. 65 โดยนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ประธานคณะอนุกรรมการฯ ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง ทำให้เกิดคำถามต่อสังคมว่ารูปแบบที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น สามารถให้ผลที่น่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด

คณะกรรมการบริหารสภาวิจัยแห่งชาติ ได้มีการกำหนดจรรยาบรรณนักวิจัยขึ้น ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2541 เพื่อใช้เป็นแนวหลักเกณฑ์ควรประพฤติของนักวิจัยทั่วไป ไม่ว่าสาขาวิชา การใดๆ โดยให้มีลักษณะเป็นข้อพึงสังวรคุณธรรม และ จริยธรรมในการทำงานวิจัย ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงาน วิจัยตั้งอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม และหลักวิชาการที่เหมาะสม

“...ข้อ 6 นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด โดย ปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย นักวิจัยต้องมี อิสระทางความคิด ต้องตระหนักว่า อคติส่วนตน หรือ ความลำเอียงทางวิชาการ อาจส่งผลให้มีการบิดเบือน ข้อมูล และข้อค้นพบทางวิชาการ อันเป็นเหตุให้เกิดผล เสียหายต่องานวิจัย…”

จากหลักการดังกล่าวจึงเป็นที่น่าสังเกตว่า

ประเด็นที 1) หลักแห่งความเป็นกลาง การที่บอร์ด กสทช. แต่งตั้ง นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา  ซึ่งเป็นบุคคลที่มีจุดยืนชัดเจนที่ไม่เห็นด้วยในการควบรวมมาโดยตลอด ซึ่งสามารถเห็นได้จากข้อมูลที่ประจักษ์ในสื่อ แต่กลับได้รับแต่งตั้งมาเป็นประธานการจัดโฟกัสกรุ๊ป ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง จะนำมาซึ่งการขาดคุณสมบัติจริยธรรมการวิจัยหรือไม่? โดยผู้ที่มีความเหมาะสมควรเป็นผู้ที่มีอิสระทางความคิด มีความเป็นกลาง ปราศจากอคติ

ประเด็นที 2) หลักแห่งความยุติธรรมและจริยธรรมการวิจัย มีกระบวนการเลือกผู้เข้าร่วมโครงการอย่างถูกต้องและยุติธรรม (กระจายกลุ่มตัวอย่าง / ประโยชน์ที่ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ลำเอียงต่อกลุ่มใด) ทั้งนี้หากสังเกตการจัดการวิจัยของนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา มีความน่าเคลือบแคลงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการสัมมนา Consumers Forum ของสภาองค์กรผู้บริโภค เรื่องนโยบายสาธารณะกับปัญหาการควบรวมกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 มีผู้ร่วมเสวนาคือ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และแสดงจุดยืนในงานว่า ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม แต่กลับได้รับมอบหมายจาก กสทช. ให้เป็นประธานอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภค และยังปรากฏว่าในวันถัดมาคือ วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2565  นายประวิทย์จะเป็นประธานในการจัดการจัดโฟกัสกรุ๊ป ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง ในนาม กสทช.  ซึ่งการคัดเลือกบุคคลหรือองค์กรที่เข้ามาให้ความคิดเห็นในสถานที่ของ กสทช. นั้น มีการเชิญค่ายมือถือเอไอเอส ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ที่ไม่เข้าข่ายเป็นผู้บริโภค มาร่วมกระบวนการที่ควรเปิดกว้างให้ผู้บริโภคตัวจริงมาเข้าร่วม อีกทั้งการใช้เวลาเฉพาะกับสื่อบางราย ที่แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นกรณีที่ระบุไว้ล่วงหน้า ทำให้เกิดคำถามว่า ขัดต่อหลักการยุติธรรมหรือไม่

ประเด็นที่ 3) หลักแห่งความชอบธรรม คณะอนุกรรมการฯด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมืองมีอำนาจในการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในวงจำกัด (โฟกัสกรุ๊ป) และกระบวนการที่ดำเนินการเป็นไปตามหลักการวิจัยที่ถูกต้องได้รับการยอมรับหรือไม่?

ทั้งนี้จริยธรรมงานวิจัย ถือเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง หากปล่อยให้เกิดการดำเนินการโดยปราศจาการอ้างอิงหลักการด้านจริยธรรมงานวิจัยที่ถูกต้องก็ยากที่ผลลัพธ์จะถูกนำมาใช้ โดยที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ การท้วงติงของสังคมจึงเป็นการตั้งคำถามเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดหาประโยชน์จากการทำงานวิจัย เพื่อเอื้อผลลัพธ์ที่ตนคาดหมายล่วงหน้า ทำให้ประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา ถึงการวางตัวเป็นกลางของ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ที่ยังคงเดินหน้าขึ้นเวทีแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมในขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ความน่าเชื่อถือของการดำเนินการของ กสทช. ที่ต้องเดินตามโรดแมปถูกตั้งคำถาม และทำให้คณะอนุกรรมการอื่น ๆ ทำงานยากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ล่าสุดแหล่งข่าวจาก กสทช. แจ้งว่าทรูและดีแทคได้ปฎิเสธ ไม่เข้าร่วมกระบวนการเข้าร่วมโฟกัส กรุ๊ป ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลมือง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 พ.ค. 2565 แล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News