กบข. ห่วงใยสมาชิกช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงร่วมกับทิพยประกันภัย มอบประกันอุบัติเหตุ ฟรี 2 หมื่นสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน วงเงินคุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท พร้อมจัดสวัสดิการพิเศษคูปองเงินสดเติมน้ำมัน PT มูลค่า 50 บาท ให้สมาชิกได้ใช้ในช่วงสงกรานต์ด้วย
ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมาชิกเป็นหลัก จึงได้คัดสรรโครงการสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการ เพื่อมอบให้กับสมาชิก ซึ่งล่าสุด กบข. ร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษ “ประกันอุบัติเหตุ” จำนวน 20,000 สิทธิ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้สมาชิกอุ่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยประกันอุบัติเหตุจากทิพยประกันภัย จะให้ความคุ้มครองสำหรับการเสียชีวิต การสูญเสียสายตาหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ ขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ โดยให้ความคุ้มครองนานถึง 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท โดยสมาชิก กบข. สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 เมษายน 2565 ผ่านช่องทาง LINE @tipgo โดยกดเข้าเมนู “ฟรี! ประกันอุบัติเหตุ” หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนการรับประกันอุบัติเหตุ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับอีเมลยืนยันความคุ้มครองจากทิพยประกันภัย
นอกจากนี้ กบข. ยังได้จัดสวัสดิการคูปองเงินสดเติมน้ำมัน PT มูลค่า 50 บาท ให้กับสมาชิก โดยสามารถใช้ได้ที่สถานีบริการน้ำมัน PT ทุกสาขาที่ร่วมรายการ เมื่อเติมน้ำมันเสร็จ ให้กดรับสิทธิ์จาก My GPF Application หรือ LINE กบข. เมนูสิทธิพิเศษ แล้วแจ้งเลขโค้ดให้พนักงานก่อนชำระเงิน โดยส่วนลด 1 โค้ด ต่อ 1 ใบเสร็จ ใช้สิทธิ์ได้กับการเติมน้ำมันทุกประเภท และไม่กำหนดยอดขั้นต่ำการเติมน้ำมัน สิทธิ์ทั้งหมดมีจำนวนจำกัด จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ สมาชิกสามารถกดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2565 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
ดร.ศรีกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กบข. ได้ร่วมมือกับพันธมัตรสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายและเหมาะสม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกัน ตลอดจนสิทธิพิเศษส่วนลดอาหาร-เครื่องดื่ม บริการ และสินค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะสมาชิก กบข. ซึ่งสมาชิกสามารถติดตามรายละเอียดสวัสดิการทั้งหมดได้ที่ My GPF Application และ LINE กบข. พร้อมทั้งกดรับสิทธิ์สวัสดิการได้ทันที
ทั้งนี้ สมาชิกที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE กบข. @GPFCommunity หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิกโทร. 1179
ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมปั้นเด็กสายดิจิทัล เข้าวงการธนาคาร
และ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมปั้นเด็กสายดิจิทัล เข้าวงการธนาคาร
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมปั้นเด็กสายดิจิทัล เข้าวงการธนาคารต่อเนื่อง
พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กนกไพ วงศ์สถิตย์พร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ไพศาล ธรรมโพธิทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เทคโนโลยีและวิทยาการข้อมูล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ผศ.ดร.อซีส นันทอมรพงศ์ คณบดี ดร.ณัฐพงศ์ ทองเทพ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยน
ความรู้ของบุคลากรและนักศึกษาให้มีคุณภาพ และเกิดความชำนาญในทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) พร้อมเป็นทรัพยาบุคคลที่มีคุณภาพด้านดิจิทัล เข้าสู่วงการธนาคาร
พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง เพราะคนคือเเอสเซตที่สำคัญที่สุดของเรา สำหรับความร่วมมือกับวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตครั้งนี้ ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชน ด้วยโปรแกรมการฝึกงานและสหกิจ ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนรู้การทำงานจริงจากผู้มีประสบการณ์ ฝึกทักษะการแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ก่อนเข้าสู่การทำงานในอนาคต”
ผศ.ดร.อซีส นันทอมรพงศ์ คณบดี วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่เรามีบันทึกข้อตกลงร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่นักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะ ความรู้ด้านต่าง ๆ จากห้องเรียนและนำไปใช้กับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Mobile Application ซึ่งเป็นเครื่องมือการทำธุกรรมการเงินที่สำคัญในยุคปัจจุบัน”
“กลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คือ To Be A Digital-led Bank with ASEAN Reach ซึ่งทางธนาคารได้ลงทุนด้านดิจิทัลเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ธนาคารยังคงให้ความสำคัญในเรื่อง การกำหนดกลยุทธ์ด้านคน การสร้างความผูกพันในองค์กร และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน ซึ่งเรายังมุ่งมั่นที่จะทำให้ CIMB Thai เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีศักยภาพที่ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายของการก้าวเป็นองค์กรชั้นนำในอาเซียนได้” พอล วอง ชี คิน กล่าวสรุป
