หากพูดถึงประกันอุบัติเหตุ หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจกับประเภทของประกันอุบัติเหตุต่าง ๆ เพราะมีด้วยกันหลากหลายประเภท ทั้งประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่ม รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นักศึกษา ทำให้ลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรจะต้องเลือกทำประกันแบบไหนดี
วันนี้เราจะมาพูดถึงประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันที่เหมาะสำหรับการทำเพื่อคุ้มครองได้ทั้งตัวเองและคนในครอบครัว มาดูกันว่าประกันตัวนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คืออะไร
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล Personal Accident Insurance หรือที่เราอาจจะเคยเห็นตัวย่อกันผ่านตาว่า PA คือ ประกันที่คุ้มครองเฉพาะบุคคลเดียวเท่านั้น ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ แต่จะไม่ได้คุ้มครอบในกรณีเจ็บป่วย ซึ่งจะแตกต่างจากประกันอื่นตรงที่เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการมอบเงินชดเชยให้กับใคร แต่เราสามารถเลือกได้ว่าใครจะเป็นผู้เอาประกัน หรือ ผู้ถือประกัน เช่น เราทำให้ตัวเอง หรือ ทำให้คนในครอบครัวเพื่อดูแลในยามที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ 4 รูปแบบ ดังนี้
การเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุ ในกรณีนี้ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินชดเชยค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน
- การสูญเสียอวัยวะจากการเกิดอุบัติเหตุ
- ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร หรือชั่วคราว
- ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ
ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุหรือการเสียชีวิตต่าง ๆ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินชดเชยภายใน 180 วัน
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เหมาะกับใคร
สำหรับประกันภัยประเภทนี้นั้นเหมาะกับวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศ และผู้ทำงานในอาชีพต่าง ๆ เพราะความเสี่ยงนั้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกวันโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้จึงช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่า
ข้อดีของการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ช่วยคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ไม่อยากให้เกิด ได้รับเงินชดเชย
- เป็นการลดความเสี่ยงในการใช้เงินส่วนตัว หากเกิดอุบัติเหตุ
- สามารถซื้อเพื่อดูแลคนในครอบครัวได้ด้วยเช่นกัน
- สามารถทำได้ตั้งแต่อายุน้อยจนถึงอายุ 60 ปีขึ้นไป
และทั้งหมดนี้ก็คือสรุปแบบรวบรัดฉบับเข้าใจง่าย ๆ ของการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งในการทำประกันนั้นแน่นอนว่าเราจะต้องทำการศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างครบถ้วน เพื่อดูว่าเราเหมาะกับประกันแบบไหน ต้องการความคุ้มครองอย่างไร รวมถึงคำนวณเปรียบเทียบเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายเทียบกันอัตราเงินเดือน และคำนวณดูความคุ้มครองที่จะได้รับด้วยเช่นกัน เพื่อให้การทำประกันนั้นตอบโจทย์และเกิดประโยชน์ที่สุด ที่สำคัญก็คือควรศึกษาอ่านรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์จากผู้ให้บริการประกันแต่ละเจ้าก่อนที่จะตัดสินใจทำประกัน