สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

บอกต่อสาระทางการแพทย์น่ารู้กับ 3 วิธีรักษาหูดหงอนไก่ในปัจจุบัน

เนื่องจากหูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกันกับสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งทวารหนัก ดังนั้นเราจึงอยากให้ใครก็ตามที่พบเนื้องอกอ่อนๆ สีชมพูบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนักรีบติดต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการรักษาหูดหงอนไก่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อลดทั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง และป้องกันไม่ให้หูดลุกลามจนยากต่อการรักษา

  สำหรับใครก็ที่อยากรู้ว่าในปัจจุบันหูดหงอนไก่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง? ถ้าพร้อมแล้ว อย่ามัวรอช้า รีบตามไปอ่าน 3 วิธีรักษาหูดหงอนไก่ตามรายลเอียดด้านล่างนี้กันได้เลย

 สาเหตุการเกิดหูดหงอนไก่

 ในบรรดาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด หูดหงอนไก่นับว่าเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่สุดนอกเหนือไปจากโรคอื่นๆ ที่เรามักได้ยินกันจนคุ้นหูอย่าง HIV, ซิฟิลลิส และไวรัสตับอักเสบชนิดบี โดยอาการสำคัญของโรคดังกล่าวได้แก่การพบเนื้องอกอ่อนๆ สีชมพูที่มีลักษณะคล้ายกับหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก ส่วนสาเหตุของการเกิดหูดประเภทนี้ได้แก่การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ที่มักจะแฝงมาพร้อมกับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ป่วยในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การไม่สวมถุงยางในขณะมีเพศสัมพันธ์ และการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เป็นต้น

 วิธีรักษาหูดหงอนไก่ในปัจจุบัน

 ปกติแล้วแพทย์มักจะเลือกวิธีการรักษาหูดหงอนไก่ที่สอดคล้องกับอาการของผู้ป่วยเป็นหลัก โดยเราสามารถจำแนกวิธีรักษาโรคดังกล่าวจากอาการน้อยไปมากได้ทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้

 ทายา

 ในกรณีที่หูดยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักจะลงความเห็นให้ผู้ป่วยรับการรักษาด้วยการทายาที่มีคุณสมบัติสามารถทำลายเนื้อเยื่อและช่วยปรับภูมิคุ้มกัน ถึงแม้การทายาจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยทุกคนควรทำคือการปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับตัวเอง

 จี้ทำลายเนื้อเยื่อ

 เนื่องจาก HPV เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างฉับพลัน ดังนั้นวิธีถัดมาที่แพทย์มักจะเลือกใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่แล้วได้แก่การจี้ทำลายเนื้อเยื่อด้วยความร้อนหรือความเย็น โดยวิธีแรกแพทย์จะเริ่มจากการใช้ยาชาเพื่อลดความเจ็บปวดและจึงค่อยใช้เลเซอร์จี้ออกเป็นลำดับต่อไป แต่ในขณะที่วิธีที่สองนั้น แพทย์จะไม่มีการฉีดยาชาก่อนแต่จะใช้การทาหรือพ่นไนโตรเจนเหลวลงบนบริเวณที่เป็นหูดแทน

 ผ่าตัด

 ปกติแล้วแพทย์มักจะเลือกรักษาหูดหงอนไก่ด้วยการผ่าตัดในกรณีที่ลองรักษาผู้ป่วยด้วยสองวิธีข้างต้นไปแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้นหรือผู้ป่วยหายดีแล้วแต่กลับมาเป็นหูดซ้ำอีกครั้ง โดยขั้นตอนการรักษาด้วยวิธีนี้จะเริ่มจากใช้ยาชาเฉพาะจุด และทำการผ่าตัดเพื่อเอาหูดหงอนไก่ออกเป็นลำดับถัดไป

 และทั้งหมดก็คือวิธีรักษาหูดหงอนไก่ในปัจจุบัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกรายละเอียดที่เราได้นำเสนอไปคงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Political News