สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

วว.แนะเทคโนโลยีพร้อมใช้ เพิ่มมูลค่า“มังคุด” แก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด

กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม  (อว.) โดย  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  แนะนำผลงานเทคโนโลยีพร้อมใช้  ช่วยเพิ่มมูลค่า  “มังคุด”  มุ่งแก้ปัญหาผลผลิตการเกษตรล้นตลาดและปัญหาส่งออกมังคุดจากผลกระทบสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19  ระบุพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สังคมและเชิงพาณิชย์ เพื่อความเข้มแข็ง มั่นคงของเศรษฐกิจประเทศ 

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ   วว.  กล่าวว่า  ปัญหาผลิตผลการเกษตรล้นตลาดในฤดูกาลที่มีผลผลิตออกมามากในระยะเวลาเดียวกัน  ส่งผลให้มีราคาตกต่ำ  รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ไม่สามารถส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศได้ อันเป็นปัญหาที่ประเทศไทยประสบในปัจจุบัน โดย “มังคุด” เป็นผลผลิตการเกษตรที่มีบทบาททางเศรษฐกิจในระดับแถวหน้าของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว  วว. จึงนำเทคโนโลยีพร้อมใช้เข้ามาช่วยในการตอบสนองความต้องการ   ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ OTOP   SMEs   Startup  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมและมีความพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีในรูปแบบการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเชิงพาณิชย์  โดยเป็นเทคโนโลยีที่มีรูปแบบและเงื่อนไขการใช้งานที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง ทั้งด้านต้นทุนและความซับซ้อนของเทคโนโลยี ตลอดจนความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเทคโนโลยีพร้อมใช้ของ วว. ที่พร้อมช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับมังคุด ประกอบด้วย

เครื่องปอกเปลือกมังคุดพร้อมแยกเนื้อแบบกระทุ้งแกน   ผลงาน ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ  เพื่อช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการปอกเปลือกมังคุด ช่วยเพิ่มอัตราการผลิต ได้เนื้อมังคุดที่สะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อน  อัตราการทำงาน 50 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ระบบทำงานแบบหมุนวนอย่างต่อเนื่อง  ตัวเครื่องมี 3 ส่วนประกอบหลัก 1.จานลำเลียง   2.ใบมีดตัด  และ 3.แกนกระทุ้งแยกเนื้อและเปลือกมังคุด  หลักการทำงาน  เริ่มต้นด้วยการเปิดสวิทช์ควบคุม จากนั้นหยิบวางผลมังคุดบริเวณจานลำเลียงอย่างต่อเนื่อง โดยจานลำเลียงจะหมุนลำเลียงผลมังคุดผ่านชุดใบมีดตัด เพื่อตัดเปลือกบริเวณส่วนบนและส่วนล่างของผลมังคุด โดยเศษเปลือกจะไหลลงสู่ภาชนะรองรับ จากนั้นจานลำเลียงก็จะหมุนลำเลียงผลมังคุดผ่านแกนกระทุ้งเพื่อแยกเนื้อมังคุดออกจากเปลือก ส่วนของเนื้อก็จะไหลลงสู่ภาชนะรองรับ

เครื่องคั้นน้ำมังคุด ระดับ OTOP     ผลงาน ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ เพื่อช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการคั้นน้ำผลไม้ด้วยมือ ช่วยเพิ่มอัตราการผลิต และได้ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ที่ไม่มีรสขม ปลอดภัยไม่มีสิ่งปนเปื้อน อัตราการทำงานเฉลี่ย 50 กิโลกรัมต่อชั่วโมง   ตัวเครื่องมี 2 ส่วนหลัก  1.ถังบรรจุผลไม้ พร้อมฝาปิด สามารถบรรจุมังคุดได้ครั้งละ 10 กิโลกรัม ภายในมีตะแกรงสำหรับกรองแยกกากและเมล็ด โดยสามารถหมุนเอียงถังบรรจุผลไม้เพื่อทิ้งกากและเมล็ดได้   และ 2.ชุดใบตี ทำหน้าที่ตีปั่นผลไม้โดยไม่ทำให้เมล็ดแตกหรือช้ำ ไม่ทำให้เกิดรสขม  ทำด้วยวัสดุยางซิลิโคน มีความยืดหยุ่นสูงและทนต่อความร้อน สามารถใช้น้ำร้อนลวกฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อนใช้งานเครื่องจักรได้  หลักการทำงาน  เริ่มต้นด้วยการบรรจุผลไม้ลงในถังบรรจุ โดยสามารถบรรจุได้ครั้งละ 10 กิโลกรัม จากนั้นปิดฝาและเปิดสวิทช์ควบคุมไฟฟ้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ชุดใบตีจะทำหน้าที่ตีปั่นผลไม้เพื่อแยกกากและเมล็ด โดยน้ำผลไม้จะไหลลงสู่ภาชนะรองรับทางด้านล่างของตัวเครื่อง ส่วนของกากและเมล็ดจะอยู่ภายในถังบรรจุ สามารถหมุนเอียงถังบรรจุผลไม้เพื่อทิ้งกากและเมล็ดได้

 อุปกรณ์เก็บเกี่ยวมังคุด   ผลงาน ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อป้องกันความเสียหายของมังคุดคัดเกรด  ประกอบด้วย  ไม้โครงอุปกรณ์   ถุงรองรับมังคุด  ใช้งานโดยการให้ขั้วของลูกมังคุดเข้าร่องของอุปกรณ์ แล้วบิดด้ามถือเพื่อปลิดขั้ว จากนั้นลูกมังคุดจะตกลงถุงที่เชื่อมต่อ ซึ่งเป็นถุงยาวทำให้มังคุดไม่ตกถึงพื้นรุนแรง ทำให้ไม่ช้ำ เก็บได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องยกขึ้น-ลง  เหมือนอุปกรณ์เดิมที่มีตาข่าย ขนาดรองรับมังคุดได้สูงสุด 4-5 ลูก ต่อการเก็บเกี่ยว 1 ครั้ง

การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมังคุดสำหรับเป็นสินค้าจำหน่ายนอกฤดูกาล  ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมังคุด เป็นที่นิยมของผู้บริโภคอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศนั้นนิยมนำไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เนื่องจากเนื้อมังคุดมีรสชาติที่หอมหวานอมเปรี้ยวทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสชาติดี  นอกจากนั้นเปลือกมังคุดยังมีสารแซนโทน (xanthone) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศกล่าวถึงคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants)  คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ และต้านการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ

วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ  ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมังคุด และประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา “เครื่องดื่มเสริมสุขภาพมังคุด” โดยใช้มังคุดตกเกรด  ที่ไม่สามารถส่งเป็นสินค้าออกยังต่างประเทศได้เป็นวัตถุดิบในการนำมาแปรรูป นับเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตผลเกษตรของเกษตรกรไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ “เครื่องดื่มเสริมสุขภาพมังคุด”  ที่ วว. พัฒนามีรสชาติกลมกล่อม   ลักษณะน้ำของผลิตภัณฑ์เป็นสีม่วงใสชวนรับประทาน  โดยพัฒนารูปแบบของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จำนวน  3  ชนิด ฆ่าเชื้อด้วยระบบสเตอริไรซ์ อายุการเก็บ 1 ปี ที่อุณหภูมิห้อง  ดังนี้

เครื่องดื่มเสริมสุขภาพมังคุดพร้อมดื่ม    ในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานทั้งหมด 52.44 กิโลแคลอรี่  โปรตีน  0.31  กรัม   คาร์โบไฮเดรต  12.80  กรัม  โซเดียม  3.42  กรัม  และแคลเซี่ยม  1.43  กรัม

เครื่องดื่มเสริมสุขภาพมังคุดเข้มข้นชนิดหวานเพื่อนำไปผสมน้ำชงดื่ม  ในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานทั้งหมด 81.48 กิโลแคลอรี่  โปรตีน  0.25 กรัม   คาร์โบไฮเดรต  70.12  กรัม  โซเดียม  3.26   กรัม   และแคลเซี่ยม  6.10  กรัม

เครื่องดื่มเสริมสุขภาพมังคุดเข้มข้นชนิดเปรี้ยวสำหรับผสมน้ำชงดื่ม        ในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานทั้งหมด 64.72 กิโลแคลอรี่  โปรตีน  0.31 กรัม   คาร์โบไฮเดรต  15.87  กรัม  โซเดียม  2.19  กรัม  และแคลเซี่ยม  10.12  กรัม

“แยมมังคุด”  เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปซึ่ง วว. ได้วิจัยพัฒนา เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตมังคุดและเป็นการถนอมอาหารไว้รับประทาน  ผลิตภัณฑ์มีรสเปรี้ยวอมหวาน  มีคุณค่าทางโภชนาการ  เหมาะสำหรับใช้ทาขนมปัง ตกแต่งหน้าเค้ก หรือเป็นส่วนผสมในการทำเบเกอรี่ต่างๆ  เป็นต้น “...วว. พร้อมเป็น  Total  Solution  ให้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ   เพื่อตอบโจทย์ทุกภาคส่วนในยุคดิจิทัล  พร้อมทั้งให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ปัจจุบัน วว. มีทิศทางการวิจัยด้านเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น  มีความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ส่งเสริมสนับสนุนและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ เทคโนโลยีพร้อมใช้เกี่ยวกับมังคุดเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการ  เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ประเทศให้เป็นรูปธรรม...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว  

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผลงานวิจัยพัฒนาของ วว. และขอรับบริการ ได้ที่  โทร. 0 2577 9000  โทรสาร  0 2577  9009  หรือที่  E-mail : [email protected]

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วว. ถ่ายทอดองค์ความรู้วิธีการ/เทคนิคการผสมสารฝนหลวงทางเลือก ให้แก่บุคลากรกรมฝนหลวงและการบินเกษตร

วว. ขับเคลื่อนนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

วว.ส่งเสริมธุรกิจใช้วัตถุดิบภายในประเทศ วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดความดันและคอเรสเตอรอลจากสารสกัดรำข้าว

วว.โชว์นวัตกรรมสีและผ้าจากธรรมชาติ ในงาน "ศิลปาชีพ ประทีปไทย" OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี

วว. โชว์ “สะแกราชโมเดล” ต้นแบบการเรียนรู้ ฟื้นฟูป่า สู่ธนาคารธรรมชาติ

วว.จับมือวงษ์พาณิชย์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน

Political News