สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงาน Core EBITDA ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564 โดยมี Core EDITDA เท่ากับ 477 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจของไอวีแอล บริษัทฯ คาดว่าจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในครึ่งหลังของปี 2564 และตลอดปี 2565 ด้วยโครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกทำให้เกิดสัญญาณเชิงบวก

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2564

    รายได้จากการขายรวมในไตรมาสที่ 2 จำนวน 3,559 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เมื่อเทียบปีต่อปี

    EBITDA อยู่ที่ 552 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Core EBITDA อยู่ที่ 477 ล้านเหรียญสหรัฐ

    กำไรสุทธิ 8,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นจาก 154 ล้านบาทเมื่อไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

    Core ROCE ร้อยละ 12.9 เพิ่มขึ้น 443 basis point (bps) เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และ 715 bps เมื่อเทียบปีต่อปี

    โครงการ Olympus หรือโครงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจและต้นทุนทั่วทั้งองค์กรของบริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานคิดเป็นจำนวน 116 ล้านเหรียญสหรัฐในระหว่างครึ่งปีแรกของปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 287 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับปี 2564

    การเข้าซื้อกิจการ CarbonLite ซึ่งเป็นโรงงานรีไซเคิล PET ในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ไอวีแอลเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) รายใหญ่ที่สุดในโลก

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “ในช่วงการแพร่ระบาด เราได้เร่งดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนและพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อเตรียมองค์กรให้พร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต และตอนนี้เราเริ่มเห็นผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการเหล่านั้นในช่วงเวลาที่โครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกกำลังส่งผลให้เกิดการฟื้นตัว เรายังคงได้รับประโยชน์จากแรงหนุนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอุปสงค์และกำไรที่แข็งแกร่งใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักของไอวีแอล ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Combined PET กลุ่มธุรกิจ Fibers และ กลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides & Derivatives (IOD) หัวใจหลักในโครงสร้างธุรกิจของไอวีแอล คือการมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมอย่างเนื่อง และความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และความยั่งยืน ทุกๆ การลงทุนของเราในประเด็นสำคัญเหล่านี้จะขับเคลื่อนไอวีแอลให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2564 และนับต่อจากนั้นในฐานะบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เราขอชื่นชมความมุ่งมั่นของพนักงานไอวีแอลทั่วโลกที่กำลังทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและด้วยความห่วงใย เพื่อให้มั่นใจว่าชุมชนของไอวีแอลได้รับความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี เรารู้สึกภาคภูมิใจต่อแนวทางที่ทีมของเราได้ปรับตัวต่อการแพร่ระบาด”

ภาพรวม

ไอวีแอลแสดงผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2564 และมี Core EBITDA เท่ากับ 477 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการดำเนินทั่วโลก รวมทั้งขนาดและการเป็นผู้นำของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ผลการดำเนินงานรายไตรมาสแสดงถึงรายได้จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในทุกภูมิภาค โดย Core EBITDA ในทวีปอเมริกาและยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 59 ในครึ่งแรกของปี 2564 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2563 ในขณะที่ทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในปี 2563 ธุรกิจของไอวีแอลได้ผ่านบททดสอบความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ และในครึ่งแรกของปี 2564 ได้แสดงให้เห็นการสร้างมูลค่าจากโครงสร้างธุรกิจของไอวีแอล

อุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ของเรายังคงแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจและทุกภูมิภาค บริษัทฯ มีอัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ โดยได้ประโยชน์จากรูปแบบการดำเนินงานแบบบูรณาการและความได้เปรียบของห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค ซึ่งชดเชยกับอุปสรรคในระบบนิเวศน์ อาทิ การขาดแคลนวัตถุดิบหลักและข้อจำกัดด้านการขนส่ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทีมผู้บริหารของไอวีแอลได้แสดงถึงความคล่องตัวในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบ และให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

คาดการณ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับครึ่งหลังของปี 2564 และปี 2565

ครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่าจะคล้ายคลึงกับช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากการเปิดตัวการท่องเที่ยวด้วยการได้รับวัคซีนและมีภูมิคุ้มกันในวงกว้าง

    ไอวีแอลคาดว่าปริมาณการผลิตของกลุ่มธุรกิจ IOD จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเริ่มดำเนินงานของ Lake Charles (IVOL) หลังจากหยุดดำเนินงานชั่วคราวในเดือนกรกฎาคม ปี 2563 เนื่องจากเหตุการณ์ฟ้าผ่า และมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นข้อได้เปรียบของ Shale Gas ที่แข็งแกร่ง ธุรกิจ Oxyfuel ของเรากลับมาทำกำไรด้วยแรงหนุนจากการเดินทางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพตลาดน้ำมันดิบที่แข็งแกร่ง

    อัตรากำไรของ Integrated PET คาดว่าจะปรับตัวจากการที่อุปทานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

    การขาดแคลน semiconductor ทำให้อุปสงค์ของผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจ Fibers ชะลอตัว และราคาที่สูงขึ้นของโพลีโพรพิลีนนำไปสู่การส่งผ่านที่ล่าช้าในกลุ่มธุรกิจ Hygiene

ในภาพรวมบริษัทฯ มองเห็นความแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 และปี 2565 ทั้งนี้ ไอวีแอลคาดว่าจะรายงานผลการดำเนินงานสูงกว่าที่ได้นำเสนอใน Capital Market Day เมื่อเดือนมกราคม ปี 2564

การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)

ในไตรมาสที่ 2 นี้ ไอวีแอลได้ประกาศการพัฒนาที่สำคัญ 3 ประการบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนของเรา ประการแรก ไอวีแอลได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลของบริษัท CarbonLite ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโรงงานแห่งนี้สามารถรีไซเคิลขวด PET ได้มากกว่าสามพันล้านขวดต่อปี ซึ่งทำให้ไอวีแอลเข้าใกล้เป้าหมายในการรีไซเคิลขวด PET จำนวน 50,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2568

ประกาศที่สอง บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก PET* ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งผลิตโดยใช้พลังงานหมุนเวียน วัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น และการขนส่งทางน้ำที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเปิดตัวภายใต้แบรนด์ Deja ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนของไอวีแอล ประการสุดท้าย ไอวีแอลประกาศสร้างโรงงานรีไซเคิลที่ Karawang ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะสามารถรีไซเคิลขวด PET ได้มากกว่า 2 พันล้านขวดต่อปี เพื่อสนับสนุนแผนปฏิบัติการด้านขยะพลาสติกแห่งชาติของรัฐบาลอินโดนีเซีย

 *รายการนี้เกิดหลังการอ้างอิงในรายงาน MD&A ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ซึ่ง Carbon Neutral PET เปิดตัวในเดือนเมษายน ปี 2564

Political News