สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (The Government Financial Institutions Association : GFA) พร้อมให้การสนับสนุนธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบผ่าน “มาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ)" วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท ผ่าน 2 มาตรการ มั่นใจสามารถช่วยเหลือและฟื้นฟูให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งได้อย่างแน่นอน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ(GFA) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งมีความพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในการจัดทำความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบตามร่าง“มาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ)" วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันนี้(23 มีนาคม 2564) โดยถือเป็นมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้นำเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถาบันการเงินของรัฐจากการให้ความช่วยเหลือระยะสั้นแก่ลูกหนี้ผ่าน พ.ร.ก. Soft Loan ที่ดำเนินการในปี 2563 มาจัดทำเป็นมาตรการฟื้นฟูฯ ในครั้งนี้ เพื่อดูแลผู้ประกอบธุรกิจให้สามารถดำเนินกิจการ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูศักยภาพการดำเนินกิจการหลังวิกฤต COVID-19 ซึ่งจะมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบเป็นอย่างมากให้แก่ลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐในกลุ่มที่รายได้ยังไม่แข็งแรง โดยแบ่งออกเป็น 2 มาตรการ คือ
1.มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบแต่ยังมีศักยภาพ ครอบคลุมทั้งลูกหนี้รายเดิมและรายใหม่ ให้เข้าถึงสินเชื่อ พร้อมรองรับการฟื้นตัว ด้วยการปรับเพิ่มวงเงินให้กู้ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้ยาวขึ้น และกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้เอื้อต่อการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อรวมถึงยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และมี ธปท. ส่งเสริมสภาพคล่องต้นทุนต่ำให้แก่สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป