ย้อนไปเมื่อปี 2016 ชื่อของ "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวจากประเทศไทย กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงการกอล์ฟโลก กับผลงานโดดเด่นระดับสุดยอดในปีนั้น
ทั้งการทำสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้า 3 แชมป์แรกในชีวิตได้ต่อเนื่องกัน ในรายการ Yokohama Tire LPGA Classic, Kingsmill Championship Presented by JTBC และ LPGA Volvik Championship
อีกทั้งยังเป็นนักกอล์ฟชาวไทยคนแรกไม่ว่าชายหรือหญิงที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาครองได้สำเร็จ ในรายการ RICOH Women's British Open ก่อนจะมาคว้าอีก 1 แชมป์อาชีพในศึก Canadian Pacific Women's Open
รวมเบ็ดเสร็จปีนั้น โปรเมคว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ กรุยทางสู่การขึ้นมือ 1 ของโลกในปีถัดมา
ช่วงรอยต่อระหว่างแชมป์ LPGA รายการที่ 4 และ 5 นั้น มีทัวร์นาเมนต์สำคัญคั่นกลาง นั่นคือการแข่งขัน Olympic Games 2016 ที่นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งกีฬากอล์ฟได้รับการบรรจุเข้าชิงเหรียญทองเป็นครั้งแรกในรอบ 102 ปี
ด้วยผลงานโดดเด่นที่เกริ่นนำมาก่อนดังกล่าว ทำให้แฟนกีฬาชาวไทย รวมถึงสื่อกอล์ฟทั่วโลกคาดการณ์ว่า โปรเมน่าจะมีลุ้นเหรียญรางวัลจาก "ริโอเกมส์" ในครั้งนั้น
แต่จังหวะเวลาไม่เป็นดังหวัง เมื่อโปรเมมีอาการเจ็บที่เข่าซ้าย จนต้องถอนตัวระหว่างแข่งขันรอบสาม
โปรเมยอมรับว่า การถอนตัวกลางคันในครั้งนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ค้างคาในใจ และเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ รู้สึกผิดหวังมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถขึ้นนำได้ในการแข่งขันวันแรก แต่ตอนนั้นจำเป็นต้องตัดสินใจ เพื่อไม่ให้เข่าเจ็บมากไปกว่านี้ ไม่ต้องเจ็บหนักจนพักยาว
สำหรับเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ที่พลาดไปด้วยอุปสรรคไม่คาดฝันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โปรเมกำลังจะมีโอกาสได้แก้ตัวในศึก Olympic Games 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยการแข่งขันจะมีขึ้นในปีหน้า หลังเลื่อนจากปีนี้เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19
แรกสุดนั้น โปรเมคาดหวังก่อนว่าจะผ่านเกณฑ์คัดเลือกได้สิทธิร่วมแข่งขัน เพราะถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ ส่วนเป้าหมายนั้น ไม่สำคัญว่าจะเป็นการแข่งขันอะไร หรือเป็นโอลิมปิกเกมส์หรือไม่ เพราะต้องพยายามทำให้เต็มที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องผลจะตามมาทีหลังเอง ตนจะเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายและใจ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของประเทศให้ดีที่สุด
โปรเมเชื่อว่าในฐานะนักกีฬา ไม่ว่ากีฬาไหนก็ตาม การได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ต้องเป็นหนึ่งในฝันของพวกเขา และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แต่ละคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ เป้าหมายของตัวเองก็ไม่ต่างกัน นั่นคือการคว้าเหรียญรางวัลเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ และสร้างรอยยิ้มกับความสุขให้แฟนกีฬาชาวไทย
เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่หวังจะให้เป็นจริงช่วงกลางปีหน้า