สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

เพราะผืนดินคือโต๊ะทำงานที่ใหญ่และท้าทาย เปิดใจ ทายาทเกษตร“บ้านไร่ยายบัวศรี”จ.เลย

จากมุมมองอันแหลมคม มีวิสัยทัศน์ชัดเจน และความชอบ ที่เห็นว่า “ผืนดิน...คือโต๊ะทำงานที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นแหล่งเรียนรู้ และอุ้มชูมนุษย์” และการใช้ชีวิตด้วยความเป็นเกษตรกร แม้จะมีความสุขไม่มากมายนัก แต่ก็เป็นสุขอย่างยั่งยืน ที่ทุกคนกำลังขวนขวาย

สาวสวย วัย 28 ปี กอล์ฟ-วราภรณ์ สร้อยโสม สาวที่หัวใจเปี่ยมด้วยความเป็นเกษตร ศิษย์เก่าคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ผู้สร้างสรรค์ พัฒนาและยกระดับจากเกษตรอินทรีย์ สู่เกษตรเชิงท่องเที่ยว จนกลายมาเป็นที่รู้จักของใครหลายคน “บ้านไร่ยายบัวศรี” จ.เลย โดยหลังจบปริญญาตรี ได้ทำงานที่ศูนย์วิจัยข้าว จ.ปทุมธานี ประมาณ 1 ปีเศษ จากนั้นจึงกลับมาบ้านของตนเอง และเริ่มลงมือทำจริงจังเมื่อต้นปี 2563 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ผ่านปัญหาและก้าวข้ามเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

กอล์ฟ เล่าว่า บ้านไร่ยายบัวศรี คือความเป็นเกษตรผสมผสาน มีด้วยกันทั้งนาข้าว ผักออร์แกนิก ไม้ผล สระน้ำ รวมถึงสนามกอล์ฟขนาดย่อม ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่ถึงปีก็มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจากสื่อสังคมออนไลน์ และเสียงเล่าขานปากต่อปากของคนที่เคยมาเยี่ยมชม คำว่าบ้านไร่ยายบัวศรี มีที่มาจาก “บ้านไร่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของบรรพบุรุษ จึงยกย่องและให้เกียรติยายกับตา ส่วนคำว่าบัวศรีมาจากชื่อลูกคนแรกของยาย เลยนำมาตั้งชื่อรวมกันว่าบ้านไร่ยายบัวศรี” เปิดให้เข้าชมในแบบที่สร้างประสบการณ์ สามารถสัมผัสหยิบจอบ หยิบเสียบ และมีส่วนร่วมกับไร่ของเราได้จริง ๆ เพื่อให้ได้รู้ได้เห็น ถ่ายรูปและนำไปลงสื่อสังคม ถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ไปในตัว

กอล์ฟมองว่าอาชีพเกษตรกรมีคุณค่า สอดคล้องกับบริบทดั้งเดิมของประเทศไทย เราจึงเลือกเรียนสาขาวิชาการผลิตพืช คณะเทคโนโลยีการเกษตร มทร.ธัญบุรี และได้ไปฝึกสหกิจศึกษาโครงการหลวงดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ แผนกพืชผัก จึงได้นำความรู้ทั้งหมด มาประกอบเป็นอาชีพและกลับมาพัฒนาบ้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบทางอีสาน โดยความรู้ที่สำคัญก็คือ การเลือกชนิดพืช การเพาะปลูก เก็บเกี่ยว รวมถึงการแปรรูป ทั้งนี้ต้องหมั่นศึกษาและเติมทักษะความรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ทันกับสังคม ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยี

การก้าวสู่การยกระดับเกษตรสู่มาตรฐาน Organic Thailand เป็นเพราะจากความต้องการผลิตพืชผักดี ๆ ส่งถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งดีต่อคนทำเกษตร ดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยเกื้อกูลธรรมชาติและระบบนิเวศ จึงยกระดับเกษตรสู่มาตรฐาน Organic Thailand โดยราคาอาจจะสูงกว่าผักทั่วไป แต่ความมั่นใจและความปลอดภัย เรามีให้อย่างเต็มที่ ทุกออร์เดอร์การสั่งซื้อจากเรามีคุณภาพ มีความปลอดภัย เจาะกลุ่มคนรักธรรมชาติ รักสุขภาพ และจะรักษาความเชื่อมั่นนี้ต่อไปในการทำเกษตร “ผู้บริโภคในปัจจุบัน ยอมจ่ายแพงกว่า เพราะได้ทานของดี ดีในที่นี้คือ ดีต่อสุขภาพตนเองและดีต่อสิ่งแวดล้อมไปในตัว” เหมือนดั่งคำพูดที่ว่า “ทานอาหารให้เป็นยา ดีกว่าทานยาเป็นอาหาร” ซึ่งมาตรฐาน Organic Thailand ของเรามุ่งไปที่ผักเมืองหนาว ซึ่งเหมาะกับพื้นที่และอากาศบ้านเรา จ.เลย ที่ขึ้นชื่อคือ ผักสลัดต่าง ๆ คะน้าใบหยิกหรือเคล ผักสวิสชาร์ด เป็นต้น

กอล์ฟไม่หยุดการพัฒนาเพียงแค่นั้น แต่ยังพัฒนาผักสดสู่เป็นผักผง เพิ่มความหลากหลายให้กับเมนูอาหารและเครื่องดื่ม “จากผักที่เราตั้งใจปลูก ได้แปรรูปเป็นผักผงชั้นเยี่ยม กลิ่นหอมเหมือนสาหร่ายทั้งที่เป็นผักใบเขียว ซึ่งสามารถทำเป็นส่วนผสมได้หลากหลาย ทั้งทำเป็นขนม เบเกอรี่ ไอศครีมโฮมเมด โดยที่ไม่รู้สึกเหม็นเขียว ด้วยวิธีการอบลมร้อน จากใบของคะน้าใบหยิก ซึ่งให้ความสะดวกในการทานผักยิ่งขึ้น ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 25 กรัม ราคาประมาณ 180 บาท ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะนิยมใส่ในโยเกิร์ตแล้วทาน ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก หรือจะใช้เป็นส่วนประกอบในการทำซุปสไตล์ฝรั่งก็อร่อยไปอีกแบบ” และยังบอกอีกว่า จะรีบพัฒนาและปรับปรุงจำนวนผักให้เพียงพอต่อลูกค้าตามกำลังในครอบครัวที่สามารถทำได้ช่วงนี้ 

นอกจากผลผลิตทางการเกษตรออร์แกนิก กอล์ฟยังมีไอเดียสร้างสรรค์ที่เปิดไร่ของเธอ เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งคุณพ่อของเธอมีอาชีพหลัก คือการทำสนามกอล์ฟ เธอก็เลยอยากมีสนามกอล์ฟที่ข้างสวนผักของเธอบ้าง เพื่อให้คนที่มาเที่ยวหรือกลุ่มคนที่อยากหัดตีกอล์ฟ ได้มาทดลองสนามเล็ก ก่อนไปสนามจริง โดยมีอยู่จำนวน 3 หลุม ย่อขนาดทุกอย่างให้เล็กลง “ความสนุกและความท้าทาย คือด้วยขนาดของพื้นที่ ซึ่งต่างจากสนามใหญ่ เพราะได้ย่อสัดส่วนจากมาตรฐานสนามกอล์ฟจริง”

ทั้งนี้ ยังเผยแง่คิดการทำธุรกิจในปัจจุบันด้วยว่า การเริ่มต้นธุรกิจสำหรับมือใหม่ อาจเป็นเรื่องยากและท้าทาย แต่สำหรับเธอนั้นได้ใช้สิ่งที่เรียนและฝึกสหกิจศึกษามาใช้ประโยชน์ ผ่านการคิด วางแผนและศึกษาข้อมูลอย่างหนักหน่วง เพื่อให้ที่ทุ่มเทเกิดผลและคุ้มค่าทั้งการขุดดินเอง ปลูกเอง ร่วมกันกับครอบครัว และตั้งธงหลักอย่างชัดเจน

“การทำธุรกิจช่วงแรกอาจเหนื่อย อาจไม่สำเร็จเต็มที่ เพราะเป็นช่วงเรียนรู้ ลองผิดลองถูก แต่ก็ถือว่าใกล้ความสำเร็จ มากกว่าคนที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่ช่วงถัดมา จะดียิ่งขึ้นและจะดีเรื่อย ๆ”

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดคือการวางแผนการใช้จ่ายเงิน รวมถึงการให้กำลังใจแก่ตนเอง เพราะปัญหา อุปสรรคหรือเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่อาจคาดเดาได้ดังเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดชะงักการเปิดบริการ จึงใช้เวลาช่วงดังกล่าวพัฒนา ปรับปรุงต่อไปให้ดียิ่งขึ้น

จากหัวใจของทายาทเกษตรกร กอล์ฟมองว่า “ผืนดินคือโต๊ะทำงานที่ใหญ่และท้าทาย คือแหล่งเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และช่วยอุ้มชูตนเองและครอบครัว ให้ได้ทำในที่รัก และสร้างความสุขอย่างยั่งยืน” ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดได้ที่ Facebook: บ้านไร่ ‘ยายบัวศรี’ หรือ โทร.085 249 2431.

Political News