สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม        จัดงาน “Go Digital with ETDA” โชว์ผลงานเด่นปี 63 และนโยบายก้าวต่อไปในอนาคต กับภารกิจสำคัญที่จะพาคนไทยโกดิจิทัลไปกับเอ็ตด้า ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาบริการพื้นฐานด้านดิจิทัล (Common Service) ที่สำคัญ ณ ห้องประชุม Walk the Talk ชั้น 15 ของ ETDA เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Future of Digital Economy and Society” ว่า วันนี้ประเทศไทยและทั่วโลกก้าวสู่ยุคดิจิทัลไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำจากวันนี้คือ การพัฒนากฎหมายไปข้างหน้า วิเคราะห์ว่าจะเกิดขึ้นอะไรในอนาคต เพื่อปกป้องดูแลผลประโยชน์ของคนไทย ซึ่ง ETDA เป็นหน่วยงานสำคัญในการพัฒนากฎหมายและมาตรฐานของบริการดิจิทัลต่าง ๆ ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต นอกจากนี้ ประเทศไทยต้องมี Thailand Single Platform เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในลักษณะแบบเป็นศูนย์กลางที่เข้าถึงง่าย โดยนำระบบดิจิทัลมาใช้พัฒนา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาทำได้เร็วขึ้น อีกเรื่องคือ การพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลไอดี ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมบริการออนไลน์ให้มีน่าเชื่อถือ ผ่านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยไม่ต้องเดินทางและเสียเวลาการลงทะเบียนใหม่ซ้ำ ๆ กัน ซึ่งกระทรวงฯ กำลังจะประสานให้ทุกหน่วยมาร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มกลางสำหรับบริการประชาชน รวมทั้งการป้องกันระวังภัยคุกคามทางออนไลน์ (Online Fraud Prevention) ที่ต้องยกระดับการเฝ้าระวังป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ให้กับหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

"วันนี้คนไทยพร้อมใช้ดิจิทัล ภาครัฐจะต้องพร้อมให้บริการประชาชน" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ด้าน นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดเผยว่า ETDA มีเป้าหมายสำคัญคือ “Go Digital with ETDA” หรือการเป็นองค์กรขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเท่าทันกับสถานการณ์โลก ภายใต้บทบาทหน้าที่หลักคือ การส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ผลักดันการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างบูรณาการ และสุดท้ายคือ การกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล สร้างความน่าเชื่อถือ รองรับการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ด้วยงานสำคัญทั้งการกำกับดูแลธุรกิจบริการด้านดิจิทัล พัฒนามาตรฐานและกฎหมายด้านดิจิทัล การพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลไอดี การป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ และการพัฒนาความพร้อมของคนดิจิทัล

ทั้งนี้ ใน ปี 2563 ETDA ได้ส่งมอบงานสำคัญผ่าน 5 โครงการ ได้แก่       

1. โครงการ Digital Governance เพื่อให้ทุกภาคส่วนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมั่นใจ มีกลไกกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ ผ่านกฎหมายและมาตรฐานสำคัญๆ เช่น ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ. Digital ID) รองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัลไอดี เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่เชื่อถือได้ สะดวก รวดเร็ว และ ร่าง พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจการให้บริการออกใบรับรองเพื่อสนับสนุนลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (CA) รวมทั้งการออกข้อเสนอแนะฯ มาตรฐาน แนวทางการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย ลดความเสี่ยง รวมถึงผลักดันเรื่องระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ

e-Meeting ทั้งการออกกฎหมายและมาตรฐาน ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยปลดล็อกกฎหมายที่มีอยู่เดิม และช่วยรับรองผู้ให้บริการระบบประชุม เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความเชื่อมั่นในระบบที่ใช้งานด้วย พร้อมเปิด Digital Service Sandbox เพื่อทดสอบการใช้นวัตกรรมหรือบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ให้สอดคล้องข้อกฎหมาย หรือมาตรฐานต่าง ๆ ก่อนการใช้งานจริง

2. โครงการ Speed-up e-Licensing เร่งเครื่องระบบดิจิทัลในบริการภาครัฐ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับบริการที่รวดเร็ว โดยการพัฒนาบริการของรัฐให้เป็นบริการดิจิทัล ผ่านโครงสร้างข้อมูล (Schema) การออกใบอนุญาตหรือเอกสารหลักฐานของภาครัฐให้เป็นระบบดิจิทัล พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับบริการดิจิทัลของเอกชน ด้วยการตรวจประเมินรับรองระบบสารสนเทศและการใช้บริการ e-Timestamping ประทับรับรองเวลาของ e-Document
3. โครงการ Digital Transformation ให้ภาครัฐมีระบบดิจิทัลที่มั่นคงปลอดภัย ห่างไกลภัยไซเบอร์ ด้วยโครงการ Government Threat Monitoring System (GTM) เฝ้าระวังภัยไซเบอร์ให้กับหน่วยงานรัฐ พร้อมเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์ม Threat Watch ยกระดับการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. โครงการ Thailand e-Commerce Sustainability ลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มรายได้ ด้วยอีคอมเมิร์ซ อย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพอีคอมเมิร์ซชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรด้านอีคอมเมิร์ซ ปูทางความพร้อมให้กับนักเรียน (ทสรช.) นักศึกษา (มศว, เอแบค ฯลฯ) เพื่อป้อนตลาดแรงงานยุคดิจิทัล เปิดหลักสูตรออนไลน์เพื่อให้คนไทยเรียนรู้ได้ผ่านแพลตฟอร์มของ ETDA และสำนักงาน ก.พ. พร้อมผลักดันแผนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อกำหนดทิศทางพัฒนาให้ทุกภาคส่วน ตลอดจนเดินหน้าสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย มูลค่าอีคอมเมิร์ซประเทศไทย และสถิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับไปวางแผนการตลาด และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ได้
5. โครงการ Stop e-Commerce Fraud ทั้ง คุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์เชิงรุก ผ่านการนำเครื่องมือ Social Listening วิเคราะห์ข้อมูลในโลกออนไลน์เพื่อนำมาแจ้งเตือนภัยก่อนเกิดเหตุหรือลุกลาม และการจัดอบรมและเสริมสร้างความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่สนใจ เพื่อให้ประเทศไทยมีกำลังคนด้านไซเบอร์เพิ่มขึ้น

นายชัยชนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นโยบายและแผนการดำเนินงานก้าวต่อในปี 64” ETDA จะเดินหน้าดำเนินงานผ่าน 3 โครงการที่จะยกระดับการขับเคลื่อนจากปี 63 ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ดังนี้

1. การนำการขับเคลื่อนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการสร้างกลไกขับเคลื่อนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของของประเทศผ่านแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรฐาน พร้อมผลักดันแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับธุรกรรมฯ ให้ทุกภาคส่วนนำไปกำหนดแนวทางการพัฒนาในทิศทางเดียวกัน พร้อมจัดการสำรวจวิจัยที่ทำให้มองภาพอนาคต (Foresight) ชัดเจนขึ้น สู่การกำหนดนโยบาย ทิศทางการดำเนินธุรกิจ และการทำการตลาด รวมถึงเสริมสร้างทักษะด้าน

อีคอมเมิร์ซ เพื่อพัฒนากำลังคนตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยุคดิจิทัล ไปพร้อมๆ กับการคุ้มครองผู้บริโภคที่ยกระดับการคุ้มครองโดยการสร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับเครือข่าย ทำให้การคุ้มครองมีความรวดเร็วขึ้น

2. การเร่งเครื่องกลไกดูแลธุรกิจดิจิทัล ด้วยการจัดทำหลักเกณฑ์ กฎหมาย มาตรฐาน รวมถึงแนวปฏิบัติในการดูแลธุรกิจดิจิทัลและบริการที่สำคัญ ๆ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการใช้บริการธุรกิจบริการด้านดิจิทัลที่เปิดให้บริการไปแล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการ เช่น บริการด้าน e-Meeting บริการด้าน Digital ID ด้วยระบบการตรวจประเมินที่มีมาตรฐาน
3. การเสริมฐานรากแพลตฟอร์มดิจิทัลของรัฐ สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว มั่นใจ ปลอดภัย ด้วยการพัฒนาแบบจำลองมาตรฐานและแบบจำลองข้อมูล (Data Model) แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน สนับสนุนศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางภาครัฐ จัดทำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ Digital ID และ e-Signature สร้างความพร้อม ความตระหนัก แก่บุคลากรภาครัฐ ผ่านการอบรม พร้อมให้บริการเฝ้าระวัง ตอบสนองและจัดการภัยคุกคามไซเบอร์ให้กับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและบริการออนไลน์ของหน่วยงานภาครัฐ

“จากการดำเนินงานข้างต้น ETDA ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 65 ประเทศจะต้องมีภูมิทัศน์ด้านบริการดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน หรือ Digital Services Landscape ที่ครบถ้วน เพื่อเป็นทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมถึงเกิดระบบนิเวศ Digital ID หรือ Digital ID Ecosystem สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะนำไปสู่การใช้งาน Digital ID ในวงกว้าง และหน่วยงานรัฐจะต้องมีระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service และระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-office ภายใต้มาตรฐาน กฎเกณฑ์ และการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริงของ ETDA ที่จะพาทุกภาคส่วน

Go Digital ไปพร้อมกัน” นายชัยชนะ กล่าว

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ETDA showcases its achievements in 2020

Announces target to have its “Go Digital with ETDA” program cover  all key digital public services across Thailand by 2022

Electronic Transactions Development Agency (ETDA) under the Ministry of Digital Economy and Society has hosted the “Go Digital with ETDA” event on August 28, 2020, to not just showcase its outstanding achievements during the year, but also to launch a new policy that will accelerate the country’s move towards a fully digital future. The agency’s goal is to help the Thai public “go completely digital” by promoting and developing every key digital service.

The event is being held at the Walk the Talk conference room on the 15th floor of ETDA building.

Digital Economy and Society Minister Puttipong Punnakanta spoke about the “Future of Digital Economy and Society” at the event, noting that Thailand ranks 29th out of 63 countries on world competitiveness as per the International Institute for Management Development (IMD). However, he said, if the ranking is considered using four key factors – economic performance, government efficiency, business efficiency and infrastructure – Thailand has done far better than last year. In business efficiency, Thailand has risen to 23 from 27 in the list and from 45 to 44 in terms of infrastructure.

This, he said, was driven by the Ministry of Digital Economy and Society’s active role in pushing forward and continuously strengthening the country’s digital infrastructure with developments like the 5G technology, which doesn’t just offer the latest in technology, but also helps boost equality among Thai people; the CAT-TOT merger which created the National Telecom Public Company Limited (NT) to boost competitiveness in the fast-changing sectors of industry and technology; a new digital ecosystem under the Thailand Digital Valley project built to attract investment; as well as the development of the Government Data Center and Cloud Service (GDCC).

The Ministry of Digital Economy and Society has also played a vital role in helping Thai society overcome the Covid-19 crisis through the creation of several applications and platforms, especially the “Thailand Wins” platform, which has helped control and prevent infections by getting people to “check-in” and “check-out” when visiting establishments.

“However, we have not overlooked development in other areas that have gained low scores, such as government efficiency and economic performance, but are working to push Thailand up in the ranking. This includes support and development of common digital services that are secure and up to international standards. This has been done through ETDA’s key operations, such as its Digital Service Sandbox in which innovations or services related to electronic transactions are tested for the security and privacy of users, and the Digital ID Ecosystem, an infrastructure that makes online services reliable through authentication and verification.

“The ministry will also coordinate with other state agencies and businesses to develop a central public-service platform, so people do not need to register repeatedly. ETDA will be responsible for maintaining service standards, so Thailand’s digital services reach international levels.

“Today, many new technologies, like blockchain and AI, are still lacking governance, while online fraud prevention is still in need of stronger links with network partners to ensure mitigation or at least immediate resolution. Government agencies also need to watch out for cyber threats,” Puttipong said. 

Chaichana Mitrpant, ETDA’s chief executive officer, believes the agency has one important goal – becoming an organization that drives the economy and society with electronic transactions by bringing all sectors together in line with the rest of the world.

This goal can be achieved under ETDA’s main roles, namely promoting electronic transactions, building cooperation with all sectors to make electronic transactions vital, and supervising digital businesses by building trust to support the expansion of Thailand’s digital society.

ETDA’s key jobs are to supervise digital service businesses, develop digital standards and laws, develop a digital ID ecosystem, prevent online fraud and get the general public ready for a digital future.

This year, ETDA has achieved outstanding results through five projects, namely:

1. Digital Governance Project: It has helped different sectors to start using digital technology with confidence and has put in place a trustworthy regulatory mechanism. ETDA is responsible for passing laws and important measures like the Digital ID Decree to promote businesses related to digital ID, and provide the public with services that are fast, reliable and convenient. The laws, when become effective, will put in place a supervisory mechanism for certification services to support electronic signatures and sets standards and guidelines to encourage a wider, less risky use of e-signatures. The agency has also promoted virtual conferencing or e-meetings during the Covid-19 outbreak by issuing regulations and setting standards to give users confidence in the system, and has launched the Digital Service Sandbox to test new innovations and services to ensure they are in line with the law before they can be launched.
2. Speed-up e-Licensing Project: It has fast-tracked the digitization of government services and not just reduced costs, but also made access to services more convenient for the business sector and the public. ETDA helped develop data structure standard for digital government services and improved the process of licensing and issuing of documents. It has also developed an e-Timestamp for use when submitting an e-document.
3. Digital Transformation Project: This provides the government sector with stable and secure systems. ETDA has launched a Government Threat Monitoring System (GTM) to look out for cyber threats within government agencies and is preparing to develop the Threat Watch platform to make the system more efficient.
4. Thailand e-Commerce Sustainability Project: This aims to reduce inequality and augment people’s income through e-commerce. ETDA, in cooperation with its networks, visited many communities nationwide to teach people about e-commerce. The agency has also developed an e-commerce curriculum to prepare students for the digital-age labor market and has launched online courses for the general public via ETDA platforms and the Office of the Civil Service Commission. ETDA is focused on determining the development direction different sectors will take by surveying internet usage habits of Thai people, e-commerce value in Thailand and other statistics so it can supply businesses and consumers with reliable information that they can use to come up with a feasible marketing plan and make the most of online business opportunities.
5. Stop e-Commerce Fraud Project: This works proactively to protect online consumers via the Social Listening tool, which analyses data and alerts users before there is an incident. ETDA has also held training sessions to build cyber-security capabilities of related personnel and interested persons, which will help Thailand expand its cyber workforce.

Chaichana added that ETDA’s policy and operation plan for 2021 will see it moving forward with three projects:

1. Driving electronic transactions in Thailand through a strategic plan to develop infrastructure as well as setting guidelines that ensure all sectors move in the same direction. ETDA has also conducted studies to ensure its foresight is crystal clear, leading to better policy formulation, business direction determination and marketing plans. In addition, it has strengthened e-commerce skills among the workforce to meet market demands in the digital era. Moreover, it has enhanced and accelerated the process of consumer protection by establishing a system to link information within the network.
2. Putting in place mechanisms that look after digital businesses by setting criteria, laws, standards and guidelines on fostering digital businesses and key services as well as building confidence among users of existing services by creating a standard auditing system.
3. Strengthening the government’s digital platform, so businesses and the public have safe, convenient and quick access with the development of standard and data models. The system also helps departments exchange information, supports the government’s exchange center and sets standards related to the use of digital ID and e-signature. It also builds awareness and readiness among government personnel by getting them trained and provides a surveillance system that can respond in a timely manner and manage the possibilities of cyber threat.

“Based on the points above, ETDA has set a goal that by 2022, Thailand will have a digital services landscape that is standardized and complete to help direct the country towards development. It will also include the development of a digital ID ecosystem for all stakeholders leading to a broader use of digital ID mechanisms. As part of ‘Go Digital with ETDA’ campaign, ETDA will assist government agencies set up and use e-Service and e-Office systems that will be built in line with the agency’s standards and criteria to digitize and bring all sectors together,” Chaichana said.