ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าปรับทัพองค์กร รองรับกระแสดิจิทัลไหลบ่า ขับเคลื่อนแบงก์สู่แพลตฟอร์มที่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้ ามากยิ่งขึ้น ภายหลังนำ Transformation สร้างรากฐานองค์กรใหม่ลุล่ วงไปกว่า 50% ในปี 2018 ธนาคารนำกลยุทธ์ “Going Upside Down” (กลับหัวตีลังกา) มาผลักดันองค์กรให้เคลื่อนไปข้ างหน้าอย่างรวดเร็วและสมดุลใน 5 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ 1.Lean the Bank 2.High Margin Lending 3.Digital Acquisition 4.Data Capabilities 5.New Business Model พร้อมปรับเปลี่ยนวิธี การทำงานให้แตกต่างจากเดิ มและนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิ ทธิภาพองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงสร้างพนักงานให้มีขี ดความสามารถและทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้ไทยพาณิชย์เป็น “The Most Admired Bank” (ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด)
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่ เข้มข้นของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และการไหลบ่าเข้ามาของธุรกิจ Patform ระดับโลกที่กำลังจะกลายเป็นคู่ แข่งสำคัญของธุรกิ จธนาคารในการนำเสนอบริ การทางการเงินและการลงทุน กอปรกับการเปลี่ยนแปลงพฤติ กรรมของผู้บริโภคที่เปิดรั บการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่ หลายในปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้การบริ การทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่ างมาก
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน ก็คือ โครงสร้างรายได้ของธนาคารเริ่ มเปลี่ยนไป จากในอดีตที่ธนาคารอาจจะมี รายได้จากค่าธรรมเนียมประมาณ 30% และอีก 70% เป็นรายได้จากดอกเบี้ย แต่จากนี้ไปรายได้จากค่ าธรรมเนียมจะค่อย ๆ ลดลงจากค่าธรรมเนียมที่ธนาคารเคยได้ จากการให้บริการโดยการใช้คน ปัจจุบันเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่ การบริการอย่างมีนัยสำคัญทำให้ต้นทุนในการให้บริการลูกค้ าลดลงอย่างมาก ในปี 2561 จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับตั วครั้งใหญ่อีกครั้ง มิใช่เพียงให้อยู่รอดได้เท่านั้ น แต่เพื่อให้ธนาคารเป็นที่รั กของลูกค้าและลูกค้าอยากมาใช้ บริการของเรา
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนผ่านองค์กรภายใต้ ภารกิจ “SCB Transformation” เพื่อเป้าหมายการเป็น “The Most Admired Bank” (ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด) โดยได้มุ่งเน้นการสร้ างรากฐานขององค์กรใหม่ (Foundation Transformation) ได้แก่
- การยกระดับเทคโนโลยี ของธนาคารเพื่อรองรับยุคดิจิทัล โดยธนาคารได้เพิ่มขี ดความสามารถของเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึงการพัฒนาบริการบน New Mobile Banking หรือ SCB Easy โดยมุ่งเน้นให้เป็น Lifestyle Application ที่จะสร้างประสบการณ์ให้แก่ลู กค้า มากกว่าเพียงการทำธุ รกรรมทางการเงิน พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิ จ รวมถึงการผลักดันให้เกิดสั งคมไร้เงินสด ด้วยการพัฒนาระบบการชำระเงินผ่ าน QR Code กลางของธนาคารแห่งประเทศไทย
- การปรับปรุงกระบวนการทำงานในทุ กขั้นตอนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนั บสนุน
- เปิดศูนย์บริการแห่งอนาคต เพื่อสร้างประสบการณ์ทางการเงิ นที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า โดยเปิดตัว 4 ต้นแบบ
“ศูนย์บริการลูกค้ารูปแบบเฉพาะ” ได้แก่ SCB Express, SCB Investment Center, SCB Business Center และ SCB
นอกจากนี้ ธนาคารต้องสร้างความแตกต่างให้ เกิดขึ้น โดยเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ผ่ านการจัดโครงสร้างบริ การของธนาคารและบริษัทในกลุ่มทั้ งหมด โดยโครงสร้างใหม่จะต้องเอื้อต่ อการทดลองเรื่องใหม่ ๆ ให้เกิดได้ง่ายขึ้น เช่นที่ธนาคารได้ตั้ง ดิจิทัลเวนเจอร์ บริษัทลูกด้านเทคโนโลยี และ เอสซีบี อบาคัส บริษัท Data Tech ที่ใช้นวัตกรรมอย่างปัญญาประดิ ษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) รวมทั้งการแสวงหาพันธมิตรซึ่ งธนาคารได้ให้ความสำคัญกั บการหาพันธมิตรเป็นอย่างมาก
สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิ จปี 2561 นั้น เนื่องจากพฤติกรรมที่เปลี่ ยนไปของผู้บริโภคที่สืบเนื่ องมาจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่ จะพลิกรู ปโฉมของกระบวนการและการให้บริ การแก่ลูกค้า ธนาคารจึงต้องการที่จะเป็ นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อทุกสังคมเข้ าด้วยกัน ภายใต้กลยุทธ์ “Going Upside Down” (กลับหัวตีลังกา) ที่มีแนวทางในการดำเนินงานที่ สำคัญ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.Lean the Bank (เพิ่มประสิทธิภาพธนาคาร) 2.High Margin Lending (ปล่อยสินเชื่อธุรกิจที่ให้ ผลตอบแทนสูง) 3.Digital Acquisition (การดำเนินธุรกิจในโลกดิจิตอล) 4.Data Capabilities (เพิ่มขีดความสามารถในการใช้ข้ อมูล) 5.New Business Model (ธุรกิจรูปแบบใหม่ )` โดยรายได้หลักของธนาคารจะยั งคงมาจากธุรกิจ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเพื่อการบริโภค และการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งจะเห็นการทำธุรกิจที่เปลี่ ยนไปจากเดิมด้วยการใช้เทคโนโลยี มาสนับสนุน พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของทั กษะและขีดความสามารถใหม่ ๆ ของพนักงานในการปฏิสัมพันธ์กั บลูกค้า โดยจะเห็นได้ชัดเจนในธุรกิจของ Wealth Management ที่ทางธนาคารมีเป้ าหมายจะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ อย่างมาก โดยมีเป้าหมายสูงสุดในอีกสามปี ข้างหน้าเพื่อเป็น Digital Platform ขนาดใหญ่ที่ถูกขับเคลื่อนด้ วยเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหลัก
ด้วยวิสัยทัศน์ของธนาคารไทยพาณิ ชย์ ที่จะเป็น “The Most Admired Bank” หรือ “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” เราจึงมุ่งมั่นที่จะพั ฒนาธนาคารไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทั ลที่มีส่วนสำคัญต่อชีวิตประจำวั นของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมทั้งเดินหน้าดำเนินธุรกิ จธนาคารอย่างสมดุลเพื่อสร้ างความมั่นคงและยั่งยืนให้กั บระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
SCB goes "upside down" in 2018 to speed its transformation
and better serve all client segments via digital platforms
Siam Commercial Bank's ongoing strategic transformation will speed ahead in 2018 as the Bank enhances its operations and strengthens its capabilities so as to become a new and improved platform for its customers. Driven by technology, this broad and deep transformation will help SCB stay ahead of the banking industry's digital disruption and achieve greater responsiveness to clients' changing needs.
In 2018, SCB will apply a “Going Upside Down” strategy to drive the organization forward in a fast yet balanced manner. This strategy centers on improving performance via five key approaches: Lean the Bank, High-Margin Lending, Digital Acquisition, Data Capabilities, and New Business Model (Bank as a Platform). The Bank will adjust its working style, adopt new technologies to enhance efficiency, and groom its staff by giving them new capabilities and skills, thereby ensuring that SCB achieves its aim to serve as “The Most Admired Bank.”
President and Chief Executive Officer, Mr. Arthid Nanthawithaya , said that commercial banks cannot avoid making significant changes in how they provide financial services, given stiff competition within the industry and the coming global impact of new financial technologies, or fintech. As consumers increasingly embrace technology, fintech platforms and companies are becoming major competitors to banks.
A remarkable change will be seen in the Bank's income structure. Formerly, SCB might earn around 30% of its total income from service fees, and 70% from interest. From now on, however, fee-based income earned from staff services will gradually decline. The arrival of new technologies will play a significant role by considerably decreasing the cost of providing customer service. As such, 2018 will see SCB adjust its business approaches and strengthen its efforts to be the bank that customers most admire, with the services that they most wish to rely upon.
During 2017, the Bank made substantial progress in revamping its organization under its strategic “SCB Transformation” project. This effort emphasized transforming the Bank's foundations via three core processes:
- Upgrading technology for the digital age. The Bank enhanced the capabilities of its technology platform, especially by enhancing services via its new mobile banking tool, the SCB Easy App. With its impressive customer experience, SCB Easy provides more than financial transactions so as to serve as a general lifestyle application. SCB also applied new technologies in its own operations. The Bank continued to help nurture the arrival of a cashless society by developing a payment system using the Bank of Thailand's QR Code system.
- Improving the workflow process at every stage with greater technological support so as to maximize efficiency.
- Opening future-oriented service centers to provide the most impressive customer experience. The Bank launched four distinct models of service center, each specializing in a different purpose: SCB Express, SCB Investment Center, SCB Business Center and SCB Service Center.
To differentiate its services, SCB has overhauled its work approaches by restructuring the Bank and companies under its umbrella. The new structure will facilitate innovative thinking and improve implementation. The Bank established a new technology arm, Digital Ventures, and an analytics arm, SCB Abacas, powered by artificial intelligence (AI). The restructuring will also facilitate efforts to work with various partners.
As for business performance targets in 2018, SCB is strongly determined to become a platform connecting all segments of society together. To this end, the Bank's “Going Upside Down” strategy will embrace the changes in consumer behavior driven by increasing adoption of digital technology. This will lead to an abrupt change in the customer service process. Under the strategy, five significant performance approaches will be adopted, including Lean the Bank, High-Margin Lending, Digital Acquisition, Data Capabilities, and New Business Model (Bank as a Platform).
In this regard, the Bank’s main income will continue to come from three core businesses: business loans, consumer loans and wealth management. But SCB will change how it runs these businesses by relying more on technological support and the enhanced skills and capabilities of Bank staff, especially in interaction with customers. The Bank will transform its wealth management business, aiming to expand the customer base significantly.
SCB's ultimate goal for the three years ahead is to become a major digital platform propelled mainly by technology and data analytics. With the vision of becoming “The Most Admired Bank,” SCB is determined to develop its organization into a digital platform that plays a vital role in the daily lives of clients in every segment, operating its business in a balanced manner for the sake of the stability and sustainability of the nation's economy.
