สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

จีเอสเค ร่วมมือ เวียร์ ไบโอเทคโนโลยี เร่งพัฒนาแนวทางรักษาไวรัสโคโรนา

    ผนวกความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ของทั้งสององค์กร เพื่อต่อกรกับโรคโควิด-19 รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    การตรวจสอบการสร้างสารแอนติบอดีหรือสารภูมิคุ้มกัน (Antibody candidate) ต่อเชื้อไวรัสโคโรนา ในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 ภายในระยะเวลา 3-5 เดือนนับจากนี้

    จีเอสเคจะลงทุนโดยการซื้อหุ้นของเวียร์ ไบโอเทคโนโลยี มูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น หรือ จีเอสเค และ เวียร์ ไบโอเทคโนโลยี อิงค์ ประกาศความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาแนวทางการรักษาและป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 รวมถึงจีเอสเคจะลงทุนโดยการซื้อหุ้นของเวียร์ มูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของเวียร์ได้อย่างเต็มที่

 ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อการพัฒนาแนวทางการรักษาหรือป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาในปัจจุบันและอนาคต เวียร์จะใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์มโมโนโคลนอลแอนติบอดี (Monoclonal antibody platform technology) ในการกระตุ้นสารภูมิคุ้มกันที่มีอยู่เดิมและสารภูมิคุ้มกันใหม่ที่ต่อต้านไวรัส ผสานกับความรู้ความเชี่ยวชาญของจีเอสเคในด้านการศึกษาการทำงานด้านจีโนมิกส์หรือการถอดรหัสพันธุกรรมของเซลล์ โดยในการพัฒนาจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) และเทคโนโลยี CRISPR Screening ในการระบุสารประกอบที่ต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งมุ่งเป้าไปที่เซลล์ที่มีการติดเชื้อ นอกจากนี้ จีเอสเคและเวียร์จะศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และไวรัสโคโรนาชนิดอื่นๆ ด้วย

ดร. ฮาล บาร์รอน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ และประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนา จีเอสเค กล่าวว่า “แพลตฟอร์มสารแอนติบอดีของเวียร์เป็นเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในการระบุและพัฒนาสารภูมิคุ้มกันเพื่อใช้ในการรักษาเชื้อก่อโรคหลายชนิดในช่วงที่ผ่านมา และจะสามารถสนับสนุนการทำงานวิจัยและพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์ทางภูมิคุ้มกันวิทยาของเราได้เป็นอย่างดี ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นผลลัพธ์จากการผนวกความชำนาญและความทุ่มเทของจีเอสเคและเวียร์ เพื่อพัฒนาแนวทางการรักษาและป้องกันโรคต่างๆ รวมทั้งสารภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพที่จะสามารถใช้กับโรคโควิด-19”

ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งพัฒนาสารภูมิคุ้มกันที่ถูกระบุโดยแพลตฟอร์มของเวียร์ ได้แก่ VIR-7831 และ VIR-7832 ที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพการจับกับโปรตีนของเชื้อไวรัสโคโรนา และสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาในขั้นตอนการวิเคราะห์ทางเคมีของไวรัสและเซลล์ที่มีชีวิต ทั้งนี้ หากผ่านกระบวนการทางกฎหมาย จีเอสเคและเวียร์วางแผนจะเริ่มการทดลองทางคลินิกในระยะที่ 2 ภายในเวลา 3-5 เดือนนับจากนี้ เพื่อตอบสนองความเร่งด่วนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควด-19 ที่มีผู้ป่วยที่รอการรักษาจำนวนมาก

 นอกจากนี้ จีเอสเคและเวียร์จะศึกษาวิจัยเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดอื่นๆ ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านวัคซีนของจีเอสเค และความสามารถในการระบุโมเลกุลเอปิโทปที่ปรากฏในสายพันธุ์ของไวรัสทั้งหมดของเวียร์ โดยจีเอสเคจะต่อยอดความพยายามนี้ไปยังโครงการอื่นๆ ที่บริษัทกำลังดำเนินการเพื่อพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในป้องกันโรคโควิด-19

 ทางด้าน จอร์จ สแคนกอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียร์ ไบโอเทคโนโลยี กล่าวว่า “การยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างแท้จริงจำเป็นต้องอาศัยวิธีการรักษาในหลายแนวทาง ทั้งแบบผสมผสานและการดำเนินการที่ต่อเนื่อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อวิธีการทางวิทยาศาสตร์ของเวียร์ เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับจีเอสเคเพื่อร่วมศึกษาแนวทางในการรักษาและป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา โดยนอกจากจีเอสเคจะมีนโยบายด้านการวิจัยและพัฒนาที่คล้ายคลึงกับเราแล้ว จีเอสเคยังมีความเชี่ยวชาญด้านวัคซีนอย่างลึกซึ้ง และมีความสามารถในการเข้าถึงและส่งต่อยารักษาโรคให้กับผู้คนทั่วโลก”

Political News