สำนักข่าวไทยไทม์นิวส์ • ThaitimeNews
loader
Foto

หุ้นไทยไปต่อ! บล.ทิสโก้ขยับเป้าดัชนีสิ้นปี 60 เป็น 1,750 จุด ชี้ปลายปีมีข่าวดีรออยู่เพียบ

บล.ทิสโก้ปรับเป้าดัชนี ทางเทคนิคหุ้นไทยสิ้นปี 2560 เป็น 1,750 จุด จากเดิม 1,700 จุด ชี้เดือนพ.ย.-ธ.ค.มีข่าวดีรอเพี ยบ ทั้งพ.ร.บ.อีอีซีมีผลบังคับใช้ ลุ้นรัฐบาลประกาศวันเลือกตั้ งหนุนกองทุนต่างประเทศช้อปหุ้ นเพิ่ม แถมเม็ดเงิน LTF จ่อไหลเข้ากว่า 3 หมื่นล้านบาท แนะเริ่มซื้อ LTF ได้แล้วก่อนตกขบวน พร้อมปรับเป้าดัชนีปี 2561 เป็น 1,850 จุด จากเดิมมอง 1,800 จุด 

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้ าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ (Mr.Viwat Techapoonphol, Deputy Managing Director, Head of Technical Analysis, TISCO Securities Co., Ltd) ฉายภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสั มมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า บล.ทิสโก้ได้ปรับเป้ าหมายทางเทคนิคของดัชนีหุ้ นไทยสิ้นปี 2560 ขึ้นเป็น 1,750 จุดด้วยระดับ Forward P/E ที่ 16.78 เท่า จากเป้าหมายเดิมที่ 1,700 จุด และประเมินแนวรับใหม่อยู่ที่ 1,660 จุด หลังดัชนีหุ้นไทยเดือนก.ย.ปรั บขึ้นแรงจนทำให้ตลาดมั่นใจว่าหุ้ นไทยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกหลักที่จะผลักดั นตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 4/2560 มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตั วแรงส่งผลให้หน่วยงานด้ านเศรษฐกิจหลายแห่งทยอยปรับเพิ่ มเป้าจีดีพีปี 2560 ประกอบกับในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. นี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าร่ างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ...จะมีผลบังคับใช้ส่งผลให้นั กลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุ นตรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีจะมีเม็ดเงิ นจากกองทุนรวมหุ้นระยาว (LTF) ไหลเข้าซื้อหุ้นไทยประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น นักลงทุนที่ยังไม่ได้ซื้อ LTF อาจใช้จังหวะที่ดัชนีย่อตั วมาอยู่ที่ระดับ 1,660-1,670 จุด เข้าซื้อหน่วยลงทุน

อย่างไรก็ตาม การประกาศวันเลือกตั้งที่ชั ดเจนภายในปลายปี 2560 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดั นให้หุ้นไทยขึ้นต่อเนื่องจนถึ งปี 2561 และไปทำจุดสูงสุดของปี 2561 ในช่วงการเลือกตั้งหรือในเดือน ส.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่สภาพคล่ องโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดงบดุลเดือนละ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐมากกว่ าแผนการทำ QE ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะลดวงเงินลงเป็นเดื อนละ 2 หมื่นล้านยูโร

“หากประกาศวันเลือกตั้งได้ในช่ วงปลายปี 2560 จะทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นอย่ างต่อเนื่อง และเมื่อการเลือกตั้งเกิดขึ้ นจริงจะทำให้กองทุนต่างประเทศที่ ติดเงื่อนไขการลงทุนสามารถเข้ ามาลงทุนในประเทศไทยได้ซึ่งปั จจุบันนักลงทุนต่างประเทศถื อครองหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำที่ สุดในรอบ 10 ปี  เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บล.ทิ สโก้ปรับเป้าหมายทางเทคนิคหุ้ นไทยปี 2561 ขึ้นเป็น 1,850 จุด จากเดิมที่มองว่าจะอยู่ที่ 1,800 จุด” นายวิวัฒน์กล่าว  

สำหรับปัจจัยลบที่ต้องจับตาในช่ วงต่อจากนี้คือ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมไปถึง Earning Yield Gap ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบระหว่ างผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดว่ าจะได้รับจากตลาดหุ้นลบด้ วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี หากปรับขึ้นเกิน 2.40% เป็นสัญญาณเตือนแรกที่กดดันหุ้ นทั่วโลกและกรณีที่ปรับตัวขึ้ นต่อจนทะลุระดับ 2.50% จะกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรั บฐานลงอย่างมีนัยสำคัญ

นายวิวัฒน์กล่าวว่า ส่วนมุมมองหุ้นต่างประเทศนั้น ประเมินว่าขณะนี้หุ้นทั่วโลกอยู่ ในภาวะฟองสบู่ ดัชนีหุ้นในหลายประเทศปรับขึ้ นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่ องในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา สาเหตุหนึ่งเพราะเศรษฐกิจทั้ งโลกฟื้นตัวพร้อมกันในรอบ 8 ปี และเศรษฐกิจจีนไม่อยู่ในภาวะ Hard Landing ซึ่งปี 2561 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่เศรษฐกิจฟื้ นพร้อมกันทั่วโลกกำไรบริษั ทจดทะเบียนจะเติบโต ทำให้คนซื้อหุ้นโดยไม่คำนึงถึ งความถูกหรือแพง ภาวะเช่นนี้จะทำให้หุ้นขึ้ นแรงและเร็ว

สำหรับราคาทองคาดว่าในระยะสั้ นราคาทองจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ ระดับ 1,260-1,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากคาดว่าในเดือนธ.ค.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้ง และตั้งแต่เดือนต.ค.เฟดจะเริ่ มปรับลดงบดุลลง แต่ยังมีปัจจัยบวกเรื่องความกั งวลของคาบสมุทรเกาหลี ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะพลิกกลับมาแข็งค่า เนื่องจากการปรับลดภาษีเงินได้ นิติบุคคลดำเนินการได้สำเร็ จประกอบกับเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ ที่ 34.2-34.50 บาทดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสที่ 4/2560 ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก

ขณะที่ราคาน้ำมันซึ่งก่อนหน้านี้ ราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นจะช่วยหนุ นให้กำไรกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิ โตรเคมีของไทยในไตรมาสที่ 3/2560 ปรับเพิ่มขึ้น แต่หลังประกาศผลประกอบการอาจมี แรงขายเพื่อล็อคกำไร จึงแนะนำให้นักลงทุนขายกลุ่มพลั งงานในช่ วงประกาศผลประกอบการและเข้ามาซื้ อหุ้นที่ปรับขึ้นน้อยกว่ าตลาดแทน สำหรับหุ้นแนะนำในเดือน ต.ค. บล.ทิสโก้เลือก ASAP, BANPU, BR, ILINK, MCS, QH, ROJNA, TPIPP เป็นหุ้นเด่น

ทั้งนี้ งานสัมมนา TISCO Monthly GURU Updates เป็นหนึ่งในกิจกรรมสัมนาที่จั ดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนเพื่ อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิ ศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้ าทิสโก้และนักลงทุนบรรลุเป้ าหมายทางการเงิน ตามกลยุทธ์การเป็นผู้ แนะนำการลงทุนชั้นนำ หรือTop Advisory Houseของทิสโก้

Political News